สุรินทร์ - อำเภอรัตนบุรี เปิดกิจกรรม “ Kick off MOU “ พลังบวร นุ่งผ้าไทยใส่บาตร ถนนสายวัฒนธรรม 1 ตำบล 8 วัด 1 ถนนสายวัฒนธรรม 1 คลังยาและอาหาร สานข่ายขยายงาน MOU วัด มหาดไทย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการเกื้อหนุน ระหว่างวัดและชุมชน ให้มีความสุขอย่างยั่งยืน และขจัดความยากจน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ ( 5 ก.ค. 2566) ดร.ดุษฎี ดวงใจ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทน นายอำเภอรัตนบุรี ได้เดินทางมาที่ วัดธรรมมาวาส บ้านแต้ หมู่ที่ 6 ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ Kick off MOU “ พลังบวร นุ่งผ้าไทยใส่บาตรถนนสายวัฒนธรรม 1 ตำบล 8 วัด 1 ถนนสายวัฒนธรรม 1 คลังยาและอาหาร สานข่ายขยายงาน MOU วัด มหาดไทย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการเกื้อหนุน ระหว่างวัดและชุมชน ให้มีความสุขอย่างยั่งยืน และขจัดความยากจน พัฒนาคนทุกช่วงวัย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยมีพระครูรัตนธรรมมานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอรัตนบุรี ประธานขับเคลื่อนโครงการถนนสายวัฒนธรรม และพระครูผาสุกิจ โสภณ เจ้าคณะตำบลธาตุ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งมีหัวหน้าส่วนราชการในตำบลธาตุ พร้อมองค์กรต่างๆ นักเรียนโรงเรียนธาตุศรีนคร ประชาชน เข้าร่วมงานกว่า 500 คน

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยมีวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการดังนี้ 1. การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา 3. เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนา สร้างความรักความสามัคคี ในชุมชน บวร. 4. ให้พุทธศาสนิกชนได้ทำบุญตักบาตรร่วมกัน ในการสืบทอดประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป และยังเป็นการสงเคราะห์อย่างเป็นรูปธรรม 5. เพื่อเกื้อหนุนระหว่างวัด ทุกศาสนา และชุมชนให้มีความสุขที่ยั่งยืน และขจัดความยากจน พัฒนาทุกช่วงวัย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และ 6. เพื่อสืบสานต่อยอด โครงการ 1 ตำบล 1 หมู่บ้านยั่งยืน อำเภอรัตนบุรี

ทั้งนี้ เนื่องด้วยกระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน ( Sustainable Village ) เพี่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในวาระทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 36 พรรษา ในวันที่ 8 มกราคม 2566 โดยน้อมนำแนวทางพระราชดำริเรื่อง “ หมู่บ้านยั่งยืน” ของพระองค์มาดำเนินการขับเคลื่อน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ในหมู่บ้าน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการกลางของหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง คระกรรมการชุมชน เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย ได้แ ภาครัฐ ภาคศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคสื่อสารมวลชน และภาคประชาชน บูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ “หมู่บ้านยั่งยืน” เกิดผลเป็นรูปธรรม

สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ ภายหลังจากพิธีเปิด ก็ได้มีการร่วมลงนาม MOU เพื่อที่จะร่วมกันขับเคลื่อนในโครงการนี้ ก่อนที่จะร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และทำการเปิดอบรมสมาชิก ต่อยอดจากโครางการถนนสายวัฒนธรรม นำสู่ ทาน ศีล ภาวนา และการสงเคราะห์ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ที่ วัดทุ่งสามัคคี ต.ธาตุ

โดย ดร.ดุษฎี ดวงใจ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทน นายอำเภอรัตนบุรี ได้กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ก็เพื่อเป็นการขับเคลื่อนโครงการ 1 ตำบล 1 หมู่บ้านยั่งยืน ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนพร้อมกันด้วย 7 ภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคศาสนา ภาคสื่อมวลชน ภาคประชาสังคม แล้วก็พี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตำบลธาตุ ซึ่งเป็นตำบลต้นแบบ ในการที่จะขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งในวันนี้ นับเป็นภาพที่ออกมาชัดเจนว่า การที่เราจัดกิจกรรมโดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ภายใต้หลักคิดบวร คือ บ้าน วัด ราชการ ได้มารวมพลังในการขับเคลื่อน กิจกรรมถนนสายวัฒนธรรม โดยวันนี้เราเริ่มต้นด้วยการใส่บาตรร่วมกันของพี่น้องพุทธศาสนิกชนจากทุกหมู่บ้านในตำบลธาตุ และทางโรงเรียนก็ได้พานักเรียนมาร่วมกิจกรรมดังกล่าวนี้ด้วย ซึ่งจากการสอบถามพี่น้องประชาชน รวมทั้งนักเรียนที่มาในวันนี้ ทุกคนต่างประทับใจมาก และว่าเป็นโครงการที่ดีมาก และสำหรับข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการทำบุญใส่บาตรในวันนี้ นอกจากผู้ที่ได้ทำบุญได้ความอิ่มบุญอิ่มใจแล้ว ท่านพระคุณเจ้า นำโดยพระครูรัตนธรรมมานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอรัตนบุรี และพระครูผาสุกิจ โสภณ เจ้าคณะตำบลธาตุ ก็ได้ส่งมอบข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการทำบุญใส่บาตรในวันนี้ นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเปราะบาง และผู้ด้อยโอกาสต่อไป ซึ่งเป็นโครงการที่ดีมาก ที่ทางกระทรวงมหาไทย โดยท่านปลัดกระทรวง ได้สั่งการให้ทุกอำเภอ ได้ขับเคลื่อนโครงการนี้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี สังคมน่าอยู่ ทุกคนมีความรักความสามัคคี ซึ่งก็จะมีความยั่งยืนต่อไป.

จากนั้นก็ได้เยี่ยมชมแปลงเกษตรสาธิต แบบเศรษฐกิจพอเพียง การทำธนาคารน้ำ ธนาคารอาหาร เพื่อที่จะได้นำกลับไปปฏิบัติต่อยอดในหมู่บ้านและชุมชนของตนต่อไป.