หลังยื้อยุดฉุดกระชากกันมานานสำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรวานนี้ ที่ประชุมส.ส.ชุดที่ 26 ก็มีมติเลือกวันมูหะมัด นอร์มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ขึ้นเป็นประธานสภาคนใหม่ ถือเป็นการกลับมารับตำแหน่งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังเคยเป็นประธานสภาคนที่ 20 สมัย “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิตเป็นนายกฯ ถือเป็นการยุติความขัดแย้งระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทยลงได้เปราะหนึ่ง ก่อนที่จะลามพังไปถึงการเลือกนายกฯที่กำลังจะมีขึ้นในเวลาอันใกล้ งานนี้แม้จะจบศึกชิงประธานยกแรกไปได้อย่างสวยงามที่ส้มกับแดงยังไม่ถึงกับแตกคอกันจนถึงขั้นปล่อยปรีโหวตแต่ควันหลงการเลือกประธานสภาเที่ยวนี้ก็ได้เห็นสัญญาณแปลกๆจากการช่วงชิงตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเที่ยวนี้หลายเรื่องด้วยกันที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องดีนักสำหรับฝ่ายส้มล้มเจ้าที่อาจจะมั่นใจว่าจะได้นายกฯเป็นรัฐบาลแน่ๆ
ประเด็นแรกแม้วันนอร์จะได้เป็นประธานสภาแบบผ่านฉลุยแบบนอนมา จากมติ 2 พรรคที่ลงทุนถึงขั้นตั้งโต๊ะประกาศเอ็มโอยูร่วมกันที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ แต่ก็เกิดการผิดคิวเรื่งการสื่อสารที่ชัยธวัชออกมาบอกว่าพิธาส่งตัวเองไปคุยกับวันนอร์ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ค.2566 จากเย็นถึงเที่ยงคืน แต่ฝ่ายวันนอร์กลับทำไขสือบอกสื่อมวลชนว่าเพิ่งได้รับการทาบทามและทราบเรื่องจริงๆตอนบ่ายวันจันทร์ที่ 3 ก.ค.2566 ก่อนหน้ารัฐพิธีเปิดสภาครั้งแรกไม่นาน ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกประธานสภาคราวนี้ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันกลับไม่เสนอคนเข้าแข่งขันกับวันนอร์เลย ทั้งๆที่โดยปกติทุกครั้งเป็นธรรมเนียมที่แต่ละฝ่ายต้องส่งคนของฝ่ายตัวเองลงประกวดรักษาฐานของตัวเอง รอบก่อนนายหัวชวนเป็นประธานฝ่ายตรงข้ามเสนอสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แต่รอบนี้ 5 พรรครัฐบาลเดิม ปล่อยตามน้ำให้วันนอร์เป็นประธานสภาแบบชิลด์ๆ เลย ทั้งๆที่ปกติแข่งกันแทบตายกว่าจะได้ประธานสภา
ประเด็นต่อมาตอนเลือกประธานสภาคนที่ 1 ฝ่าย 8 พรรคเสนอ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลกที่อกหักจากประธานมาเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันแม้ไม่มีมติร่วมกันในการส่งใครเป็นคู่เทียบแต่รวมไทยสร้างชาติแสดงความห้าวหาญไม่ยอมให้พรรคล้มเจ้าเป็นใหญ่ในสภา จึงเสนอ “เสี่ยน้อย” วิทยา แก้วภราดรัย รองหัวหน้าพรรคขึ้นเป็นคู่แข่ง ผลการลงมติหมออ๋องได้คะแนนไป 312 คะแนน เสี่ยน้อยได้ไป 105 คะแนน เห็นได้ชัดว่าฝั่งหมออ๋องนั้นใน 312 คะแนนมาจากเพื่อไทย 141 คะแนน ไม่ตก ไม่หล่น ไม่แตกแถว ไม่เกเรเลยแม้แต่คนเดียว ต้องชื่ชมพรรคแดงจริงๆ ว่าอ่านสคริปต์แม่น เล่นตามบทเป๊ะๆ ไม่มีออกนอกบท ไม่มีหลุดสคริปต์เลย จุดนี้เพื่อไทยเลยได้หัวใจจากก้าวไกลไปเต็มๆ ทั้งที่ลึกๆจริงๆยังไม่รู้ว่าจริงใจหรือไก่กา ขณะที่เสียง 105 ของวิทยาก็ชัดเจนว่า 5 พรรครัฐบาลปัจจุบันปล่อยมือไม่คิดตั้งรัฐบาลแข่งกับ 8 พรรคภายใต้การนำของก้าวไกลกับเพื่อไทยแล้ว เสียงสนับสนุนวิทยาจึงออกมาแบบไม่เป็นเอกภาพ โดยงานนี้ 71 เสียงของภูมิใจไทยพรรคเสี่ยหนูของดออกเสียง โดยอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ” เราก็บอกลูกพรรคว่าฟรีโหวต เพราะเราไม่ได้เสนอ จึงให้ลูกพรรคเขาได้ตัดสินใจเอง” แต่เห็นไหม 71 เสียงของพรรคกัญชาไม่มีแตกแถวเลย ฟรีโหวตยังไงส.ส.71 คนคิดเหมือนกันหมด แต่ที่ชัดเจนคือไม่ยกมือสนับสนุนหมออ๋องฝ่ายล้มเจ้าตามจุดยืนพรรค ไม่สังฆกรรมพวกแก้ ม. 112 เข้าสู่อำนาจ ขณะเดียวกันก็ไม่หนุนวิทยาที่เป็นขั้วรัฐบาลเดิม แต่ใช้วิธีงดออกเสียงเปิดพื้นที่ถอดไมตรีให้กับการรวมขั้วใหม่ในอนาคตไว้อย่างมีนัยยะสำคัญ ต่อเมื่อถูกถามว่าพร้อมทำหน้าที่ผัวหน้าฝ่ายค้านไหม อนุทินหัวเราะ ก่อนกล่าวว่า ” เอาให้ถึงวันนั้นก่อน” ที่งานนี้ตีความว่าสงวนสิทธิ์รับตำแหน่งนี้เพราะยังมีโอกาสยังเห็นช่องทางว่าสามารถเป็นรัฐบาลได้
ประเด็นต่อมาแม้พิธาจะมั่นใจการทำหน้าที่ของวันนอร์ว่าเป็นกลาง มีเหตุผล ยืนข้างความถูกต้อง และรู้จักกันดีมานานแล้ว แต่ขอให้ระวังการทำหน้าที่ของวันนอร์ให้ดีๆ ตัวเป็นประชาชาติแต่ใจนั้นอาจเป็นเพื่อไทย อย่าลืมว่าชั่วชีวิตของวันนอร์เส้นทางการเมืองแม้จะแจ้งเกิดยุคบิ๊กจิ๋วเพราะได้เป็นถึงประธานสภา แต่มาโด่งดังเป็นพลุแตกได้เป็นเสนาบดีเกรดเอ ทั้ง ราชรถ 1 มท.1 พญานาค 1 รวมถึงรองนายกฯ ก็ตอนยุคทักษิณสมัยพรรคไทยรักไทย แม้จะอ้างว่าย้ายพรรคออกมา 4 ปีแล้ว แต่การออกมาของวันนอร์ไม่เหมือนการออกมาของ “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบกัน ทะเลาะกันหนักจนถูกขับไล่ใส่ส่งออกมา แต่การเดินออกจากกงสีสีแดงของวันนอร์ เป็นการเดินตามยุทธ์ศาตร์ “แตกแบงค์พันเป็นใบร้อย” ของโทนี่ ณ ดู ไบ ที่ใครตามการเมืองมาตลอดก็จะรู้ว่า ทักษิณกับเพื่อไทยขายไม่ออกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะคนมุสลิมไม่เอาทักษิณ เพราะมีรอยแผลรอยแค้นฝั่งใจทั้งเรื่องกรือแซะ ตากใบ ฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับ หน่วยผสมพลเรือนตำรวจทหารที่ 43 ( พตท.43 ) จนทำให้ไฟใต้ลุกฮือ สุดท้ายแม้วก็เลยต้องจำใจไฟเขียวให้วันนอร์ไปตั้งพรรคใหม่ แต่คนในแวดวงการเมืองก็รู้ว่าประชาชาติเป็นสาขาเพื่อไทยในถิ่นปลายด้ามขวานทอง วันนอร์เป็นประธานสภารอบนี้แม้พิธาจะเชื่อใจเฒ่าชราวัย 79 ปีอย่างหมดใจ แม้ก้าวไกลจะมั่นใจว่าวันนอร์ไม่เป็นร่างทรงเสื้อแดง แต่คอยดูไปเถอะที่เด็ดทีขาดหัวเลี้ยวหัวต่อวันนอร์จะยืนข้างใครระหว่าง ส้มกับแดง ไม่นานก็รู้
ล่าสุดสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเรื่องการโหวตนายกฯหากเสนอชื่อพิธาแล้วโหวตไม่เสร็จในครั้งแรก วันนอร์ก็ออกมาพูดจาแปร่งๆ ทำนองว่าให้โหวตได้ 2- 3 ครั้ง ถ้าไม่ได้ก็ต้องไปดูว่าเพราะอะไร ขาดอีกเท่าไหร่จึงจะถึง 376 เสียง แต่คงโหวตไปเรื่อยไม่ได้ เพราะเดี๋ยวองค์ประชุมไม่ครบ ล่าสุดวันนี้วันนอร์ก็ฮอตอีก หลังออกมาแย้มว่าจะนัดโหวตนายกฯ 13 ก.ค. เวลา 09.30 น. แต่ที่เดือดกว่านั้นดันให้สัมภาษณ์ว่า ” จำนวนครั้งคงพูดไม่ได้เพราะครั้งเดียวอาจจะผ่านก็ได้ คือได้ 376 เสียง แต่ถ้าไม่ครบก็ต้องพิจารณาการประชุมในรอบต่อไป และต้องวิเคราะห์ดูว่าคะแนนที่ได้มีจำนวนเท่าไรถึงจะครบ 376 เสียง และหากฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะขอเวลาในการประชุมกี่ครั้ง แต่โดยสรุปคือรัฐสภาต้องประชุมให้ได้นายกฯ ไม่ใช่นายพิธาคนเดียว หากนายพิธาได้ก็ถือว่าได้ไป แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องหาจนกว่าจะได้นายกฯ เพราะรัฐสภามีหน้าที่เลือกนายกฯตามรัฐธรรมนูญ เพื่อไปบริหารประเทศ เราจะขาดนายกฯไม่ได้” วันนอร์ให้สัมภาษณ์ล่าสุด
เพื่อไทยกับพลังประชารัฐได้ฟังแบบนี้อาจหัวใจพองโต เพราะโอกาสชิงจังหวะ 2 คว้านายกฯ โอกาสในการพลิกขั้วตั้งรัฐบาลดูเปิดกว้างขึ้นทันทีหลังวันนอร์พูดแบบนี้ แต่คำพูดดังกล่าวคงไม่ถูกใจด้อมส้มแสลงหูแฟนคลับก้าวไกลแน่ๆ วันนอร์พูดแบบนี้ก็แสดงว่าถ้าพิธากินแห้วหาเสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 คะแนน ที่มีความเป็นไปได้สูงเพราะยังตั้งธงล้มเจ้า เดินหน้าแก้ม.112 รื้อทหารล้างตำรวจผ่าศาลตีกบาลองค์กรอิสระ โอกาสจะพลิกไปถึงแคนดิเดตนายกฯจากพรรคอื่นก็มีสูง “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง-พล.อ.ประวิตร-อนุทิน-พีระพันธุ์” จะมีลุ้นขึ้นมาทันที โดยเฉพาะ “เสี่ยนิดกับลุงป้อม” น่าจะรอส้มหล่นอยู่ เป็นประธานสภาวันเดียวออกตัวแรงแบบนี้แล้ว ที่เล่าสัญญาณแปลกๆวันเลือกประธานสภามาทั้งหมดก็ต้องการจะบอกว่า เลือกประธานสภา-รองประธาน รอบนี้มันไม่ปกติ เหมือนรู้กันแล้วเหมือนนัดกันมาเล่นตามบท เพราะฉะนั้นก้าวไกลอย่าฝันหวาน พิธาอย่าฝันดีคิดไปไกลว่าจะได้เป็นนายกฯ หนทางยังมีอีกมาก อุปสรรคยังมีอีกเยอะ ไปๆมาๆคำพูดที่วิทยาแขวะก้าวไกลกระทบชิ่งเพื่อไทยวานนี้ก็สะท้อนให้เห็นความอ่อนด้อยประสบการณ์ของฝ่ายส้มล้มเจ้าที่หลงเหลี่ยมฝ่ายแดงวานนี้ก็ลอยมาทันที ” เพื่อไทยไม่ได้ถอยแต่เขาเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ เดี๋ยวก็หมดจาน” หรือ คำคมที่สมชาย แสวงการ ส.ว.ตัวตึงโพสต์ FB ก็สะท้อนชัด ” เหลือเชื่ออ่อนจัดการเมือง ส้มเดินหมากผิดตัวเดียวเสียทั้งกระดาน เจอเก๋าเกมกินรวบเสียหมดตัว ประธานสภาและนายกฯเตรียมถูกปล่อยเกาะค้านต่ออีก 4 ปี จบข่าวนะด้อม” จากนี้ก็ต้องตามลุ้นระทึกว่าถึงวันที่ 13 ก.ค.2566 จะเลือกนายกฯคนที่ 30 ได้ไหม และใครจะได้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติที่ว่านี้
////////////
