นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Arak Wongworachat” ถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2564 จากกรณีการระดมทีมแพทย์ผ่าตัดช่วยชีวิต 2 พี่น้องที่มากับพ่อแม่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุตกร่องถนน ต.ท่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พ่อแม่เสียชีวิต สองพี่น้องได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อคืนวันที่ 10 ส.ค. 2564 ว่า “นาทีชีวิตผ่าตัดผู้ป่วยโควิด-19 อุบัติเหตุตับแตก ม้ามแตกมีครอบครัวหนึ่งติดโควิดทั้งบ้าน 4 คน พ่อ แม่ ลูกอีกสองคน เดินทางจากกรุงเทพหวังมารักษาตัวที่บ้านเกิด นครศรีธรรมราช ระหว่างเข้าเขตอำเภอสิชล เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ ทำให้พ่อ แม่ เสียชีวิตที่เกิดเหตุ ส่วนลูกทั้งสองบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยเข้าไปช่วยชีวิตเด็กทั้งสอง ที่ยังมีสติ เด็กจึงบอกกับทีมว่าเป็นโควิด การช่วยชีวิตจึงไม่ง่ายเลย ต้องใส่ชุดพีพีอีเข้าไปช่วยชีวิตด้วยความระมัดระวัง
“รีบพาเด็กทั้งสองเข้า รพ. สิชล ทีมเตรียมพร้อมรับเต็มที่ เด็กคนโตอายุ 14 ปี เริ่มจะไม่รู้สึกตัว ชีพจร เบา เร็ว ความดันต่ำ รีบแทงน้ำเกลือ เปิดเส้น ให้สารน้ำ จองเลือด เจาะท้อง มีเลือดออกในท้อง สงสัยม้าม ตับ หรือลำไส้แตก เพราะแรงอัดอย่างรุนแรง แพทย์ตัดสินใจนำเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเปิดช่องท้องหยุดเลือดออกในท้องโดยไม่รอช้า”
นาทีนั้นคิดอย่างเดียวว่าเด็กต้องรอด ทีมรีบสวมชุดปฏิบัติการกู้ภัยโควิดครบทีมทั้งหมอดมยาสลบ หมอผ่าตัด พยาบาล เตรียมพร้อมรออยู่แล้ว รายนี้ไม่ต้องรอเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพราจะไม่ทันการ เด็กเสียเลือดมากโอกาสตายสูง เข้าห้องผ่าตัดเข็นในแคปซูลป้องกันโควิด เมื่อทีมพร้อมเริ่มดมยาสลบ ผ่าตัดทันที เปิดเข้าไป มีเลือดในท้องกว่า 1,500 cc ตับแตก เย็บซ่อมพอไหว ม้ามแตกตัดม้ามทิ้ง ลำไส้บางส่วนช้ำแต่ไม่ทะลุ เลือดออกเยื่อบุช่องท้อง ใช้เวลาผ่าตัด 30 นาที ออกมาพักฟื้นใส่ท่อช่วยหายใจห้องไอซียูแรงดันลบ จนบัดนี้มาผ่านมาแล้ว 7 วัน จะเริ่มถอดท่อช่วยหายใจ พ้นขีดอันตรายแล้ว
ตอนท้ายนพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ระบุว่า แต่ทีมแพทย์ทั้งทีม ต้องกักตัว และตรวจโควิดเป็นระยะ ๆ รอลุ้นพรุ่งนี้ว่าทีมใครจะติดเชื้อจากปฏิบัติการครั้งนี้หรือไม่ ถึงจะเสี่ยงอย่างไรแต่ไม่หวาดหวั่น รักษาชีวิตผู้ป่วยเป็นหน้าที่เหนือสิ่งอื่นใด