ชวนออกโรง…..ดันมาร์คกอบกู้พรรค

ลุ้นชิงดำหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 อาทิตย์ที่ 9 ก.ค.นี้ สองขั้วต่อสู้กันอุตลุต ข้ัวผู้เฒ่าฝ่ายชวนดันอภิสิทธิ์คัมแบ๊กฟื้นฟูพรรค ประกาศจุดยืนเป็นฝ่ายค้าน ไม่ขอร่วมรัฐบาลใต้ตีน "ก้าวไกล-เพื่อไทย" ฝ่ายเสี่ยต่อเฉลิมชัยก๊วนสามอ่าว แว่วทาบดร.เอ้สุชัชวีร์ขึ้นเป็นคู่ชิง ถือความได้เปรียบมีส.ส.ในมือ 17 คน พกคะแนนโหวตเตอร์มากเกือบ 70 % ชูแนวทางก้าวหน้าขอเป็นรัฐบาลต่อ รวมก้าวไกลหรือไปกับเพื่อไทยก็ได้ ต่างฝ่ายเตรียมพลิกเกมสู้เตรียมขอมติเสียงส่วนใหญ่ยกเลิกข้อบังคับพรรคเป็นคุณกับตัวเอง ฝ่ายไหนจะเข้าวินอาทิตย์รู้กัน

เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเท่านั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีการประชุมใหญ่พรรคในวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค.2566 ที่การประชุมใหญ่รอบนี้มีวาระสำคัญอย่างยิ่งยวดคือการคัดเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 แทนที่จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคที่ไขก๊อกลาออกไปหลังจากที่ประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ย่อยยับในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา จากอดีตพรรคอันดับหนึ่งแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จากอดีตคู่แข่งสำคัญของพรรคตระกูลชินฝ่ายทักษิณ จากอดีตสถาบันทางการเมืองที่ตั้งมา 77 ปี จากอดีตพรรคที่เคยเฟื่องฟูปั้นนายกฯมาแล้ว 4 คน แต่เลือกตั้งล่าสุดที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ได้ส.ส.ทั้วประเทศมาแค่ 25 คน แบ่งเป็นเขต 22 คน บัญชีรายชื่อได้มาแค่ 3 คน คะแนนพรรคทั่วประเทศ 9.25 แสนคะแนนไม่ถึงล้าน ภาคใต้ได้ส.ส.มาแค่ 19 ภาคอื่นๆได้มาอีกแค่หางอึ่ง 3 คน สนามเมืองหลวงสูญพันธุ์ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 สุดเหลือเชื่อ 8 ปี พรรคสีฟ้าไม่มีส.ส.ในกรุงเทพฯเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งๆที่เคยเป็นพรรคในดวงใจของคนเมืองหลวง ขณะที่ส.ส.เขตในภาคอื่นๆก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินได้น้อยลงมาอย่างน่าใจหาย

เกิดอะไรขึ้นกับพรรคสีฟ้าที่เคยเกรียงไกร พระแม่ธรณีบีบมวยผมสิ้นมนตร์ขลังทางการเมืองแล้วหรือ 9 ก.ค.2566 คือวันที่ประชาธิปัตย์เตรียมประชุมใหญ่ และแน่นอนว่าจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่และกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่เข้ามากอบกู้พรรค ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างหนักในพรรคสีฟ้า ที่ดูเหมือนความเปลี่ยนแปลงภายในพรรคจะเป็นของคู่กันกับประชาธิปัตย์ทุกยุคทุกสมัย คนชนะอยู่ต่อส่วนคนแพ้ต้องจากไป รอบนี้ก็เช่นกันศึกชิงหัวหน้าพรรคคนที่ 9 วันที่ 9 ก.ค.2566 ระดับความมันส์กับความดุเดือดไม่แพ้มวยไทย 5 ดาว ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าศึกชิงนายกฯ รอบนี้เป็นการช่วงชิงอำนาจระหว่าง 2 ขั้ว ขั้วหนึ่งคือฝ่ายผู้อาวุโสหรือผู้เฒ่าในพรรค ฝ่ายนี้มี “นายหัวชวน” ชวน หลีกภัย อดีตนายกฯคนที่ 20 อดีตนายกฯ 2 สมัย อดีตหัวหน้าพรรคคนที่ 5 เป็นแกนนำขั้ว ผู้สนับสนุนก็มี “น้าหยัด” บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคคนที่ 6 รวมถึง “อู๊ดด้า” จุรินทร์ หัวหน้าพรรคคนที่ 8 และรวมถึง นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรค เป็นตัวตั้งตัวตี ขั้วนี้แม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะสนับสนุนใคร แต่คนในพรรคและคนนอกอ่านสัญญาณชัดจับทางออก ว่ารอบนี้คนที่บรรดาขั้วผู้เฒ่าจะเสนอมาเป็นหัวหน้าเข้ากอบกู้พรรคเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “อ.มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯคนที่ 27 อดีตหัวหน้าพรรคคนที่ 7 เพราะอาการของประชาธิปัตย์ยามนี้ต้องบอกว่าหนักหน่วงจริงๆ ถ้าเปรียบเป็นคนป่วยก็คือโคม่า กล้ามเนื้อลีบเหี่ยว หัวใจอ่อนแรง ไม่มีกำลังวังชา รอเวลานับถอยหลังให้หมอถอดอ็อกซิเจน ดับขันธ์ตามธรรมชาติทางการเมือง

ขณะที่อีกขั้วอีกฝ่ายเรียกว่าขั้วสามอ่าว นำทีมโดย “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เจ้าพ่อเมืองประจวบฯ ในทีมก็มี “นายกฯชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ส.ส.สงขลา ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช แม้ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยประกาษิตเคยลั่นวาจาในฐานะประธานการเลือกตั้งของพรรคว่าหากแพ้การเลือกตั้งเที่ยวนี้ โดยเฉพาะถ้าได้ส.ส.ต่ำกว่าเลือกตั้งคราวที่แล้วคือ 53 คน จะลาออกจากพรรคเลิกเล่นการเมืองไปเลย แต่จนถึงตอนนี้เฉลิมชัยยังเคลื่อนไหวโยงใยในพรรคอยู่ แถมเดินแผนสูงจะยึดฟ้าสถาปนาพรรคใหม่ ถ้าชนะเตรียมแขวนกลุ่มผู้เฒ่าขึ้นหิ้งทั้งหมด ประชาธิปัตย์ทุกยุคเหมือนกันหมด เล่นกันหนักซัดกันแรง ขั้วนี้แรกเริ่มเดิมทีมีการติดต่อบรรดาพวกคนรุ่นใหม่ในพรรคให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคหลายคน อาทิ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ซ้อใหญ่เครือเนชั่นกะปั้นคนสวยขึ้นเป็นประมุขพรรคเลย แต่ภายหลังบวกลบคูณหารแล้วไม่คุ้มมาดามเดียร์เลยถอยฉากไป ต่อมาข่าวว่ามีการไปทาบทาม “ดร.บิล” อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีตเลขาฯประธานสภามาชิงหัวหน้า แต่อย่างที่รู้ดร.บิลนั้นเป็นลูกหม้อหัวเหนียวของคุณชวนไม่มีทางที่จะทรยศหักหลังอาจารย์แน่ สุดท้านเฉลิมชัยก็ไร้คนขึ้นชก ไปๆมาๆ เลยคิดว่าจะเสนอนายกฯชายขึ้นชนกับอ.มาร์คแทน แต่เดชอิศม์ก็มีปัญหาคาราคาซังกรณีมีชื่อถูกร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งที่สงขลาอยู่ แถมเป็นนักการเมืองรุ่นเก่า ผลงานก็ยังไม่เข้าตา คนไม่ค่อยรู้จัก บารมีก็ยังไม่มากพอ ถ้าดันขึ้นมาสู้กับอภิสิทธิ์มีหวังถูกทิ่มหงายเก๋ง ล่าสุดจึงมีข่าวว่ามีความพยายามจะทาบทาม “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ขึ้นมาเป็น “คู่ชิง-คู่เทียบ” ชนกับอภิสิทธิ์ ความหล่อก็สู้สี ความรู้ความสามารถก็พอเอามาถูไถได้ แต่บารมี ประสบการณ์ เหลี่ยมคูทางการเมืองนี้สิที่ดูจะเป็นรองอภิสิทธิ์อยู่หลายขุม แต่ในบรรดาตัวเลือกทั้งหมดดูเหมือนดร.เอ้น่าจะเป็นคนที่เสียเปรียบน้อยที่สุดหากขึ้นวัดกับอภิสิทธิ์บนเวที

ศึกชิงอำนาจในประชาธิปัตย์เที่ยวนี้บอกเลยว่าฝ่ายขั้วผู้เฒ่าฝ่ายอภิสิทธิ์หนักแน่   ล่าสุดนายหัวชวนถึงขนาดต้องออกมาส่งสัญญาณ สะบัดใบมีดโกนอาบน้ำผึ้งถึงสมาชิกพรรคทุกคนในช่วงโค้งสุดท้าย  เพราะกระแสข้างในเรื่อง “ยึดพรรค” จากฝ่ายโจรสลัดนั้นแรงจริงๆ    นายหัวชวนกรีดยับทำนองว่า ขอให้เลือกหัวหน้าพรรคดีๆ ถึงตอนนี้ควรรู้ว่าใครเหมาะที่สุด ขนาดเลือกตั้งในภาคใต้ยังแพ้พรรคลุงตู่ จะเอาใครมานำพรรคก็ต้องไตร่ตรองให้รอบครอบ พร้อมฝากคุณสมบัติหัวหน้าปชป.คนใหม่ ยึดความสุจริตเป็นที่ตั้ง เตือนร่วมรัฐบาลกับพรรคโกงกินก็อันตราย งานนี้เลือดสาดกันเป็นแถว 2 ขั้ว 2 ฝ่าย มีจุดแข็งมีจุดอ่อนคนละอย่าง ฝ่ายชวนดันอภิสิทธิ์ประกาศตัวขอเป็นฝ่ายค้านรักษาอุดมการณ์จุดยืนตัวเองไม่มีทางไปร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย หัวเด็ดตีนขาดก็ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านเอาจุดแข็ง-จุดเด่นในอดีตกลับมาเป็นธงนำในการฟื้นฟูพรรคให้กลับมาเกรียงไกร ด้านฝั่งเฉลิมชัยถึงตอนนี้ยังไม่รู้จะดันใครจะมาไม้ไหนแต่ที่แน่ๆในมือมีส.ส.อยู่ 17 คน เซ็นใบอนุมัติรับรองการมอบอำนาจทำการแทนกันเป็นที่เรียบร้อย พร้อมชูแนวทางพาประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลต่อไป ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าจะเอาส.ส.17 คนไปหนุนก้าวไกลหรือเพื่อไทยเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลต่อที่สวนทางกับขั้วผู้เฒ่าฝั่งชวนอย่างสิ้นเชิง 2 ฝ่ายเสนอแนวทางต่างกันสุดขั้วงานนี้ไม่รู้ใครจะอยู่ใครจะไป

ยิ่งไปกว่านั้นกติกาการเลือกหัวหน้าพรรคสีฟ้าก็ไม่เหมือนพรรคอื่น เพราะดูคะแนนจากโหวตเตอร์ 374 คน ที่มาจากหลายกลุ่ม ประกอบด้วย 1. กก.บห. ชุดรักษาการ 32 คน 2. สมาชิกพรรคที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรค 3.อดีตเลขาธิการพรรค 4. ส.ส.ชุดปัจจุบัน 25 คน 5. สมาชิกพรรคที่เป็นรัฐมนตรี 2 คน 6.อดีตรัฐมนตรี 19 คน 7.อดีต ส.ส. ที่ยังเป็นสมาชิกพรรค 85 คน 8.ผู้บริหารท้องถิ่นที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค 1 คน 9.สมาชิกสภาท้องถิ่นที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค 1 คน 10.สาขาพรรค 20 คน 11.ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด 172 คน และ 12.อื่นๆอีก 20 คน อย่างไรก็ตามในจำนวนนี้กลุ่มที่มีพาวเวอร์มากที่สุดคือ ส.ส.25 คน เพราะข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับส.ส.มีคะแนนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือทั้งหมดรวมกันแค่ 30 เปอร์เซ็นเท่านั้นๆ เอาง่ายๆถ้าใครกุมเสียงส.ส.ได้มากโอกาสดันคนของตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคก็แค่เอื้อม ประเด็นนี้แหละที่ทำให้ขั้วชวนฝ่ายอภิสิทธิ์เสียเปรียบสุดๆ เพราะฉะนั้นถึงต้องมีการพลิกเกมด้วยการเตรียมเสนอขอที่ประชุมใหญ่โดยใช้เสียง 3 ใน 5 ยกเว้นการใช้ข้อบังคับ 70:30 ในการเลือกหัวหน้าครั้งนี้ ถ้าทำได้สำเร็จโอกาสอภิสิทธิ์ซิวหัวหน้าก็มีสูงเพราะสาขาพรรค ส่วนอื่นๆที่เหลือทั้งหมดพร้อมหนุนอยู่แล้ว ด้านเสี่ยต่อก็ต้องข้อมติที่ประชุมยกเว้นข้อบังคับต้องเป็นสมาชิก 5 ปีถึงจะชิงหัวหน้าพรรคให้กับดร.เอ้เช่นกันหากจะดันขึ้นหัวหน้า ต่างฝ่ายต่างต้องชิงความได้เปรียบ ข่าวว่าชิงดำวันอาทิตย์นี้นายหัวชวนเตรียมเสนอชื่ออภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าคนใหม่ด้วยตัวเอง เพื่อให้โหวตเตอร์ทุกคนรับรู้กันไปเลยว่าผู้อาวุโสในพรรคหนุนใคร จับตาอาทิตย์นี้ 9 ก.ค. หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 จะเป็นใคร คนใหม่ถอดด้าม หรือ คนเก่าหน้าเดิม
/////////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น