ติดตามต่อเนื่อง จากกรณี ความคืบหน้าการตรวจสอบและดำเนินคดี กรณีพบการปลอมและใช้เอกสารปลอม เพื่อเสนอราคาโครงการจ้างเหมาทำความสะอาดอาคารภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประจำงวด 12 เดือน ด้วยวิธีประกวดราคาเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงิน จ้างเหมาประมาณ 50 ล้านบาท
โดยกรณีดังกล่าว TOPNEWS ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวในรพ.พระมงกุฎฯ เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.66) ว่า สำหรับบริษัทที่มารับจ้างทำความสะอาด ลักษณะการกระทำ ในแง่ของการทำความสะอาดของรพ. จะมีการกำหนด คุณสมบัติ ในเรื่องการอบรม อาทิ การจัดการขยะติดเชื้อเป็นต้น ซึ่งจะต้องเข้าอบรมในโรงพยาบาลของรัฐบาล และมีมาตรฐานแบบเดียวกันของรัฐ ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวได้มีการเข้าอบรมกับโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง โดยมีพนักงานได้เข้าอบรมจำนวนกว่า 100 คน แต่ทางด้านรพ.พระมงกุฎฯ มีความต้องการพนักงานทำความสะอาดที่ผ่านการอบรม จำนวน 219 คน ซึ่งมีจำนวนสูงกว่าจำนวนพนักงานของบริษัทดังกล่าว จึงได้ดำเนินการทางด้านเทคนิค โดยการยื่นจำนวนพนักงานมากกว่าที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ต้องการ โดยใส่บุคคลอื่นที่ไม่ได้รับการอบรมจากโรงพยาบาลรัฐย่านดอนเมืองเข้ามาในจำนวนที่มากขึ้นแบบมีนัยยะ ไม่ใช่รายชื่อที่ไม่ผ่านการอบรม 2-3 รายชื่อ และรายชื่อพนักงานที่ผ่านการอบรมก็มีจำนวนที่ต่ำกว่าความต้องการของโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก จึงไม่อาจจะเชื่อได้ว่า บริษัทดังกล่าวจะรับจ้างทำความสะอาดได้
ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ได้มีการดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าวแล้ว โดยได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนที่ สน.พญาไท เรียบร้อยแล้ว
สำหรับในส่วนของข้อหาของบริษัทดังกล่าว ในส่วนของการกระทำจะเข้าข่ายความผิดของคดีป.อาญา มาตรา 137 ประกอบกับ 267 ตามพฤติการของบริษัท โดยเบื้องต้น การกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 137 และเจ้าหน้าที่ตำรวจควรจะดำเนินการแล้วเสร็จ ภายใน 1-2 เดือนแรก ที่มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะคดีไม่มีความซับซ้อนมากนัก ขณะที่กรณีในส่วนของความผิดคดีอาญา มาตรา 267 จะต้องมีการส่งตรวจสอบและจะมีความซับซ้อนมากขึ้น แต่จากข้อหาที่ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษในเบื้องต้นนั้น ไม่มีความซับซ้อน และมีความเป็นไปตามพฤติการที่เห็นได้อย่างประจักษ์ชัด
นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้บริษัทดังกล่าวได้มีการกระทำความผิดในรูปแบบเดียวกัน รพ.พระมงกุฎเกล้า ได้มีการทำเรื่องขึ้นแบลคลิสต์ โดยจะต้องดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน โดยทำเรื่องไปยังกรมบัญชีกลาง ซึ่งคาดว่า จะนำส่งเรื่องไปยังกรมบัญชีกลางได้ภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้