“ราเมศ” สวนทันควัน “ธาริต” แถลงบิดเบือน โยนบาปบิ๊กทหาร ขู่ห้าม DSI ดำเนินคดี “อภิสิทธิ์-สุเทพ”

"ราเมศ" สวนทันควัน "ธาริต" แถลงบิดเบือน โยนบาปบิ๊กทหาร ขู่ห้าม DSI ดำเนินคดี "อภิสิทธิ์-สุเทพ"

ภายหลังจากที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI พร้อมด้วยญาติผู้เสียชีวิต 99 ศพในเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ปี 2553 ร่วมแถลงเรียกร้องความยุติธรรม โดยก่อนการแถลงนายธาริต เปิดเผยว่า สาเหตุที่ออกมาแถลงในวันนี้ เพราะทราบว่าเวลาของตัวเองเหลือน้อย มีแนวโน้มว่าตัวเองจะเข้าไปอยู่ในเรือนจำ โดยมาเล่าเรื่องราวที่อยู่ในการรับรู้ของตนเอง ไม่เคยบอกเล่าต่อสาธารณชน เท่าที่ได้ยินมาจากหูตนเองว่าหากทำคดี 99 ศพ จะมีการปฏิวัติ ก็เกิดการปฎิวัติขึ้นจริงและย้ายอดีตอธิบดีดีเอสไอ ถึง 2 คน

นายธาริต ยอมรับว่าได้ขอเลื่อนฟังคำพิพากษาหลายครั้งจริงจากเหตุผล 4 กรณีคือการส่งหมายศาลไม่ถึงภูมิลำเนาของผู้เสียหาย เหตุผลจากสุขภาพเป็นโควิด 2 ครั้ง เส้นโลหิตตีบ ผ่าตัดไตทั้งสองข้าง , มีญาติผู้เสียหายขอเข้าเป็นคู่ความหลายครั้ง และล่าสุดเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.66)ได้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 ในการปฏิบัติกรณีการชุมนุม และส่งให้ศาลฎีกาดำเนินการ ไม่ได้หลบเลี่ยงไม่ไปฟังพิพากษา ทั้งนี้ยังมีความกังวลในการอ่านคำพิพากษาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ก.ค.อีก 2 วัน ซึ่งตนประสงค์ขอศาลฎีกาคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิต 99 คน และตนในฐานะผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ก็ไม่มั่นใจว่าศาลฎีกาจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

นายธาริต ระบุ พร้อมติดคุก ยืนยันเป็นข้าราชการธรรมดา หากจะติดคุกเหมือนคดีโรงพักร้าง ก็จำเป็นต้องเคารพคำวินิจฉัย แต่ไม่อาจทำใจยอมรับใจ ซึ่งการชี้แจงวันนี้เป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายให้สาธารณชนได้เข้าใจเหตุการชุมนุม โดยก่อนหน้านี้ตนไม่เคยเปิดเผยหรือให้ข้อมูลต่อศาลโดยอ้างว่าประเทศและสถานการณ์การเมืองไม่เป็นปกติมาตลอด 9 ปี

ทั้งนี้มองว่าการตาย 99 ศพปี 53 เป็นสาเหตุของการปฏิวัติปี 57 มีการดำเนินคดี 3 คดีกับแกนนำคดีก่อการร้าย โดยส่วนตัวเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ปกติ อัยการสูงสุดได้ฟ้องตามที่ดีเอสไอ ระบุว่ามีคนถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ออกคำสั่งศอฉ. แต่ทั้ง 3 ศาลกลับไม่ได้พิจารณาเนื้อหานี้ แต่ไปพิจารณาในประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ให้ส่งกลับมาทำการไต่สวนที่ ป.ป.ช. ยอมรับว่าเป็นข้อกังวล หลังศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น อีกทั้งยังพบว่าประธานศาลฎีกา คนปัจจุบัน เคยร่วมชุมนุมกับ กปปส. จึงคาดการณ์ว่า คำวินิจฉัยนายสุเทพ อภิสิทธิ์น่าจะไม่มีความผิด และญาติผู้เสียชีวิตยุติการได้รับความช่วยเหลือ แม้จะเหลืออีก 2 วันก่อนศาลจะตัดสินคดี

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายธาริต กล่าวเพิ่มเติมว่านายทหารชั้นผู้ใหญ่และเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติได้เรียกรถเข้าไปพบได้ขอให้ตนอย่าส่งฟ้องคดี 99 ศพ ไม่เช่นนั้นจะทำการปฏิวัติ และพวกตนจะถูกย้าย ตนยืนยันว่าจะต้องทำ เพราะศาลสั่งว่า เหตุการณ์เสียชีวิตเกิดจากการทำหน้าที่ของทหาร และหลังปฏิวัติไม่ถึง 24 ชม. พบว่า ตนและนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ที่ดำเนินคดี 99 ศพ ถูกย้ายทันที

ทั้งนี้ นายธาริต ยืนยันว่าพร้อมติดคุก คิดว่าไม่สูญเปล่า แต่เป็นจุดแตกหักในการเกิดความยุติธรรม และให้กำลังใจข้าราชการยุคใหม่อย่างย่อท้อในการแสวงหาความยุติธรรม ส่วนกรณีที่ตนเองกลับคำสารภาพโดยมีเงื่อนไขในคำร้อง ว่าขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความข้อกฎหมายจะรับสารภาพ เพราะมั่นใจว่ามาตรา 157 และมาตรา 200 ในต่างประเทศไม่มีความชัดเจนแน่นอนเป็นหน้าตาที่มีลักษณะอย่างกระทบสิทธิ จนท.รัฐอย่างไม่เป็นธรรมเชื่อว่าเมื่อการเมืองที่เปลี่ยนตนจะได้รับความยุติธรรม พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระที่เป็น senior super boad แก้ไขข้อผิดพลาดคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ

ส่วนการยื่นศาล รธน.นั้นจะเป็นการประวิงเวลาคดีหรือไม่ นายธาริต เห็นว่าสถานการณ์ในช่วงนี้ถือว่าดีที่สุดที่จะต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมและเพื่อเป็นการแสวงหาความยุติธรรมให้กับญาติและผู้บาดเจ็บ

 

 

นายธาริต ยอมรับว่ามีความคาดหวังเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมในรัฐบาลชุดใหม่ เพราะมองว่าจะเกิดความสมานฉันท์ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมสีเหลืองและสีแดงที่ผ่านมาขออย่ามองว่าใครจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน พร้อมกันนี้นายธาริตยืนยันว่าตนไม่ใช่คู่ขัดแย้งนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเป็นการส่วนตัวแต่เป็นการปกป้องสิทธิ์ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้นและไม่เกี่ยวข้องกับการที่นายอภิสิทธิ์จะถูกเสนอชื่อกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด

นายธาริต กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกเครียดในการที่จะไปรับฟังคำพิพากษาของศาลในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ได้เตรียมของใช้ส่วนตัวและยารักษาโรคเพราะเคยมีประสบการณ์ถูกจำคุกมาแล้ว

 

 

 

ล่าสุด นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า “ธาริต”บิดเบือนความจริง กรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกมาแถลงข่าวบิดเบือน ทั้งๆที่เรื่องนี้ได้ผ่านกระบวนการสอบสวนจนสิ้นกระแสความแล้วจากกระบวนการยุติธรรม ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว

นายธาริต ดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ศาลฎีกายกฟ้อง รวมถึง ปปช ก็ได้วินิจฉัยว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ

นายธาริต ถูกนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพฟ้องในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.310/2556 นายธาริต ขอถอนคำให้การฉบับเดิมและขอให้การใหม่เป็นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ถ้านายธาริตยังมากล่าวหาคนอื่น แล้วจะมารับสารภาพในคดีนี้ทำไม

ผมจะแถลงเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อคืนความจริงให้กับประชาชนได้รับทราบ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น