“จตุพร” ฟันธงด้อมส้มชุมนุมใหญ่ สะท้อนโอกาส “พิธา” เป็นนายกฯริบหรี่ จับตาม็อบเดือดหวั่นแนวโน้มถึงเลือด

“จตุพร” เชื่อโอกาส “พิธา” เป็นนายกฯมี “ศูนย์เปอร์เซ็นต์” มองมุมต่างก้าวไกลนัดชุมนุมแสดงถึงไม่มั่นใจจะได้เสียง ส.ว.ครบเกณฑ์ขั้นต่ำ 376 เสียง เตือนเพื่อไทยคิดออกแบบเกมกะล่อน ยื้อแย่งชิงนายกฯ รอแต่งตัวข้ามขั้ว เขี่ยทิ้งก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ระวังสูญเสียครั้งใหญ่ ผวามวลชนไร้แกนนำลงเต็มถนน ขออย่าออกอาการถึงเลือด

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ถึงเลือด?” โดยเชื่อว่า พรรคก้าวไกลนัดขอบคุณประชาชนที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ อาจเป็นเพราะโอกาสของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะได้เป็นนายกฯ ไม่สวยงาม หรือไม่มีเสียง ส.ว.มาหนุนช่วยให้ผ่านฉลุยตามความมั่นใจที่ได้ประกาศก่อนหน้านี้

 

นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้และต่อไป เรามาพูดเพื่อบอกว่า อย่าให้ถึงเลือดกันเลย ขณะที่ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ประกาศว่าได้เสียง ส.ว.ครบแล้ว ซึ่งถ้าเชื่ออย่างนั้นตนก็ยินดีด้วย ดังนั้น การนัดชุมนุมขอบคุณประชาชนเวลา 16.30 น. ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จึงควรไปฉลองชัยล่วงหน้ากันได้เลย อย่างไรก็ตาม ใครจะเชื่ออย่างไรก็ควรใช้ความสุขเช่นนั้นได้อย่างเต็มที่

 

อีกทั้งประเมินว่า ในทางการเมืองแล้ว ถ้าเส้นทางเลือกนายพิธา เป็นนายกฯสวยงาม ราบรื่นดีหมด และส.ว.พร้อมหนุนช่วยตามคำประกาศได้เสียงครบ 376 คงไม่มีปัญหาอะไร และอาจไม่มีนัดขอบคุณประชาชนในวันที่ 9 ก.ค.ด้วย แต่เมื่อพรรคก้าวไกลนัดชุมนุม จึงมีความหมายอีกด้านหนึ่งแสดงถึงไม่เชื่อว่าการเลือกนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ จะราบรื่น สวยงาม และผ่านฉลุย

ข่าวที่น่าสนใจ

อีกอย่างการนัดหมายชุมนุม 9 ก.ค. นั้น เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณแนวโน้มถึงเลือด เนื่องจากการโหวตนายกฯจะไม่เรียบร้อย และสิ่งสำคัญจะนำแนวโน้มไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดคิด ดังนั้นถ้านายพิธา เมื่อมีความหวังแต่ไม่สมหวัง โดยไม่ผ่านการโหวตยกแรกในวันที่ 13 ก.ค.แล้ว จะเป็นเรื่องใหญ่ หากมีการชุมนุมแบบไร้แกนนำหลังการโหวตรอบแรกแล้ว ย่อมเป็นเรื่องน่าห่วงอย่างยิ่งกับการถึงเลือด

 

 

 

ส่วนเพื่อไทยออกปากตอกย้ำช่วยและหนุนนายพิธาให้เป็นนายกฯเต็มที่ แต่คำพูดของพรรคเพื่อไทยฟังดูรื่นหู แต่กลับแอบแฝงและมีนัยยะการเมืองซ่อนเร้น เพื่อรอคิวแคนดิเดตนายกฯ พรรคตัวเองจะได้เป็นนายกฯ หรือแต่งตัวรอย้ายข้ามขั้วไปดึงบางพรรคจากฝ่าย 188 เสียงมาตั้งรัฐบาล

“ดังนั้นการชุมนุมจึงเป็นการกดดันชัดเจน หากนายพิธา ได้เสียงจาก ส.ว.ครบถ้วน คงไม่มีใครนัดจัดชุมนุมกันเช่นนี้ เพราะจะนิ่งสงบรอผลโหวตวันที่ 13 ก.ค. แต่นัดชุมนุมจึงสะท้อนถึงความไม่มั่นใจ และแสดงถึงมีโอกาสมีเป็นศูนย์เปอร์เซ็นจะได้เป็นนายกฯ เพราะเสียงจาก ส.ว. มีไม่ครบ 65 เสียงตามความต้องการ”

นายจตุพรเชื่อว่า วันที่ 13 ก.ค. นี้ การนัดโหวตนายกฯ รอบแรก นายพิธา ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ 376 เสียงชัดเจน แต่ยังมีโอกาสในสภาได้อีกครั้งในวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งเวลาห่างกันสัปดาห์หนึ่ง ยิ่งช่วงเวลาแบบนี้น่าหวาดหวั่นยิ่ง อาจจะไม่ได้โหวตอะไรเลยก็ได้ เพราะมวลชนจะลุกลาม จนจะเข้าสภาไปโหวตในรอบสองต่อไปได้หรือไม่

“การประเมินนั้น เชื่อว่าทางที่โหวตไม่ได้จะเป็นนายกฯ คือทางใหญ่ อีกทั้งพรรคเพื่อไทยสำแดงอาการรอ โดยได้พยายามช่วยอย่างเต็มที่แล้ว แต่เป็นการช่วยเพื่อแต่งตัวรอสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม หากมีความจริงใจแล้ว ทำไมไม่ยอมยกให้ตำแหน่งประธานสภากับก้าวไกล การบอกช่วยเต็มที่แบบนี้เรียกว่ากะล่อน เพราะรู้อยู่แล้วว่า ก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ ดังนั้น ใครออกแบบย้ายขั้ว สลับข้างกันให้คิดดี ๆ”

อีกทั้งย้ำว่าหากนายพิธา โหวตไม่ผ่านได้เป็นนายกฯแล้ว โอกาสที่ถูกเพื่อไทยทิ้งให้เป็นฝ่ายค้านแน่นอน เพราะก้าวไกลเป็นสิ่งแปลกปลอมของนักการเมืองทุกพรรค แต่ปัญหาจะเกิดคือ มวลชนลงเต็มถนน แบบไร้การจัดตั้ง ไม่มีแกนนำ ความวุ่นวายจึงน่าวิตกกังวล

 

 

รวมทั้งประเมินว่าการเลือกนายกฯ ที่จะเริ่ม 13 ก.ค.นี้ พฤติกรรมกะล่อนของพรรคเพื่อไทยจะพยายามออกแบบเหมือนการจัดวางตำแหน่งประธานสภา คือ ทำอย่างไรก็ตาม ต้องไม่ให้ก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภา ดังนั้น การเลือกนายกฯ ยอมไม่แตกต่างกัน ต้องออกแบบการหนุนช่วยเต็มที่โดยผลลัพธ์จะออกมาเป็นนายพิธาต้องไม่ได้เป็นนายกฯ เท่านั้น แต่ที่สุดจะไม่ง่ายเหมือนการเลือกประธานสภาฯ

“การพิสูจน์พฤติกรรมของเพื่อไทยจะเกิดขึ้นในวันที่ 13 ก.ค. เมื่อนายพิธา ไม่ผ่านก็มีโอกาสโหวตอีกรอบในวันที่ 19 ก.ค. หากไม่ผ่านอีก ก็จะเห็นสันดานและธาตุแท้ของพรรคเพื่อไทยอ้างไฟเขียวและความจำเป็นที่ต้องทิ้งพรรคก้าวไกลให้เป็นฝ่ายค้าน”

นายจตุพร มั่นใจว่า ในทางการเมืองเมื่อแต่ละฝ่ายยังดำรงความมุ่งหมายของตัวเองไว้แล้ว ย่อมส่อแนวโน้มจะเกิดเลือดนองท้องช้าง แล้วความมุ่งหมายของทุกฝ่ายจะไม่ได้อะไรเลย พวกออกแบบเกมย้ายขั้วจึงต้องเตรียมจิตใจไว้ด้วย เพราะอาจจะไม่เป็นไปตามที่คิด และเมื่อ 13 ก.ค.โหวตไม่ผ่าน แล้วรอบสองจะได้โหวตหรือไม่ ซึ่งสัญญาณมวลชนนอกสภาแรงมาก ดังนั้น กมนี้ที่เล่นกันอยู่ ท้ายสุดอาจไม่มีใครได้เป็นนายกฯเลย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น