ยังคิดไม่ได้อีก “หยก” ตัดพ้อ อยากกลับไปเรียน 51 วันที่ต้องต่อสู้เรียกร้องสิทธิ เหมือนติดคุกทางใจ

ยังคิดไม่ได้อีก "หยก" ตัดพ้อ อยากกลับไปเรียน 51 วันที่ต้องต่อสู้เรียกร้องสิทธิ เหมือนติดคุกทางใจ

จากกรณีที่ ก่อนหน้านี้ น้องหยก ธนลภย์ เยาวชนวัย 15 ปี ออกมาเรียกร้องสิทธิ์ในการแต่งชุดไปรเวท และไว้ทรงผมตามที่ต้องการ เข้าเรียนหนังสือ ขณะที่ทางโรงเรียนออกมาชี้แจงว่า น้องหยก ไม่มีสภาพนักเรียน เนื่องจากไม่ได้นำผู้ปกครองมามอบตัว ภายในกำหนด และไม่อนุญาตให้เข้าไปในบริเวณโรงเรียน จนกลายเป็นสาเหตุที่ หยก ต้องปีนรั้วเข้าไปภายในโรงเรียน และนำไปสู่การประชุมร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อ หาข้อสรุปเกี่ยวกับสิทธิ์ในการเป็นนักเรียนของน้องหยกว่า มาจากชุดนักเรียนหรือการรายงานตัวที่ไม่ถูกต้องตามเกณฑ์ของโรงเรียนกันแน่ ก่อนที่กระแสข่าวจะเงียบหายไป

ล่าสุด วันนี้ ( 10 ก.ค.) มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา หยก ธนลภย์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยโพสต์ข้อความระบุว่า จาก 51 วันของการถูกกักขังอยู่ในคุก มาสู่ 51 วันของการถูกใส่ร้ายป้ายสีด้วยเฟคนิวส์ นับถึงวันที่ 8 กรกฎาคม 2566 เราออกมาอยู่ข้างนอกได้ 51 วันแล้ว

เป็น 51 วันที่เราถูกใส่ร้ายป้ายสี มีสำนักข่าวปล่อยข่าวเรา ปล่อยข่าวแม่ พ่อ พี่ที่เป็นผู้ปกครองด้วยเรื่องต่างๆนานา มีคนที่ไม่ใช่แม่จริงและคนที่ไม่รู้ความจริงออกมาเขียนว่ากล่าวตักเตือนด่าทอมากมาย มีคนที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่า แก่กว่า รู้ดีกว่ามากมายเข้ามาทั้งตักเตือนต่อว่า บอกให้เราล้มเลิกทำในสิ่งที่เราตั้งใจจะไปทำ ทุกคนมีความรู้และความเห็นมากมาย คิดว่าตัวเองถูก คิดว่ารู้ดีกว่าเรา

ข่าวที่น่าสนใจ

มีคนกล่าวหาว่า เรากระทำการละเมิดสิทธิของเพื่อนในโรงเรียน ถ่ายรูป ไลฟ์วีดีโอในโรงเรียน กรรมการสิทธิมาถามเราว่า เราทำจริงหรือเปล่า เราบอกว่าเราไม่ได้ทำ เราไม่รู้ว่ากสม.รู้เรื่องนี้จากไหน และใครในโรงเรียนบอกข่าวนี้ เราไม่รู้ว่าใครบอกข่าวเราและใครเชื่อ

ข่าวจากที่ต่างๆ มาถึงเราคือเราเป็นเด็กชั่วร้าย เราก้าวร้าว พ่อแม่เราไม่ดี เราและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเราสมควรได้รับแต่เรื่องไม่ดีในชีวิต ข่าวบางเจ้า คนดังที่สังคมนับหน้าถือตาหลายคนเขียนถึงเราเหมือนกับเราไปทำความชั่วร้ายอะไรให้เขา

ระหว่างที่เสียงก่นด่าเฟคนิวส์ดังอยู่เรื่อยๆ คนที่เงียบที่สุดคือโรงเรียน และผู้ใหญ่ในตำแหน่งหลายๆคนที่พยายามติดต่อเข้ามาเบื้องหลัง และบอกเราว่าให้เราปรับปรุงตัว ให้เราใช้วิธีอื่น ให้เราไม่ทำอย่างที่เราทำอยู่
ผู้ใหญ่พวกนี้เขาบอกเราให้หยุด และหลายครั้งบอกว่าเขาทำอะไรไม่ได้ เขาจะเป็นตัวกลาง แต่เขาไม่เคยออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่เคยทำอะไรเพื่อแก้ปัญหา คนพวกนี้ กับโรงเรียนเงียบที่สุด 51 วันในคุกและนอกคุก

คุกบ้านปรานีคือคุกทางร่างกาย ในขณะที่ข้างนอกนั้น สังคมไทยคือคุกที่กักขังความคิด มีคนบอกให้เรารอ แต่เราสงสัยว่าผู้ใหญ่กี่ร้อยคนแล้วที่บอกให้เด็กรอ เรื่องหลอกลวงว่าให้รอมันมีคนพูดและทำซ้ำมากี่ครั้งแล้ว และเรื่องการรอมันคร่าโอกาสและทำลายชีวิตของเด็กมากี่คนแล้ว มันมีอะไรบ้างที่หากไม่ร้องขอและต่อสู้จะได้มาง่ายๆ โลกของผู้ใหญ่เชื่อถือได้แค่ไหนถ้าสิ่งที่ผู้ใหญ่คิดว่าทำมามันถูกและดีแล้ว ประเทศไทยในตอนนี้ก็ต้องดีมากเราไม่เชื่อและจะสู้ต่อไป แม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้สุดท้าย แม้สิทธิในการศึกษา โรงเรียนก็ยึดไปจากเรา.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รวบผู้ต้องหา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามหมายจับ ปลอมเป็นคนอื่น จับได้กลางถนน
สหรัฐร่างแผนฉุกเฉินปกป้องไต้หวันหากจีนโจมตี
กองปราบฯส่งจนท.เข้าสอบ ‘บอสดิไอคอน’ปมคลิปเสียงฉาว จ่อแจ้งข้อหา‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’
ศาลอาญาฯ รับฝากขัง เมีย-ลูก "หมอบุญ" นำตัวเข้าเรือนจำ
กกพ.จับมือ 4 หน่วยงานกระชับพื้นที่ ลงนามบันทึกความเข้าใจ ผู้ป่วยติดเตียงต้องไม่ถูกตัดไฟ
"ทนายสายหยุด" ประกาศยุติบทบาทการเป็นทนายคดี “ทนายตั้ม” คงสัมพันธ์แค่เพื่อน
ท็อปนิวส์ร่วมยินดี "ยุพา" รับตำแหน่งปลัดสำนักนายกฯ พร้อมนำความรู้ความสามารถ ขับเคลื่อนงานอย่างเต็มกำลัง
ระทึก! ไฟไหม้ ‘เครื่องบินรัสเซีย’ กลางรันเวย์ในตุรกี
“บิ๊กเต่า” ลั่น เตรียม “กุญแจมือ” เป็นของขวัญเหล่าอินฟลูฯ
ผู้นำสูงสุดอิหร่านชี้เนทันยาฮูควรโดนโทษประหาร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น