เหลือเวลาไม่ถึง 48 ชม. ก็จะถึงวัน ว.เวลา น.ที่สองสภาคือ สภาผู้แทนราษฎร จำนวน 500 คน กับ วุฒิสภาจำนวน 250 คน จะต้องทำหน้าที่สุดสำคัญในการคัดเลือกนายกฯคนที่ 30 เข้ามาเป็นผู้นำรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศ ท่ามกลางความขัดแย้งและเห็นต่างที่รุนแรงของสังคมไทย อย่างที่รู้ว่ารัฐธรรมนูญ ม.159 และ รธน.ม.272 กำหนดการคัดเลือกนายกฯเอาไว้ อย่างรอบคอบรัดกุมว่าคนเป็นนายกฯต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ต้องมาด้วยวิธีการแบบไหน แต่ที่เป็นประเด็นหลักเป็นหัวใจสำคัญของการเลือกนายกฯในรอบนี้คราวนี้ ใน ม.272 วรรคแรก ประโยคท้ายๆเขียนไว้ชัด ” ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา” ส.ส.มี 500 คน ส.ว.มี 250 คน รวมกัน 750 คน มากกว่ากึ่งหนึ่งของสองสภาต้องมีเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 376 คน
ตรงนี้แหละที่เป็นหลุมดำเป็นกับดักที่ขวาง “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกฯของฝ่ายส้มล้มเจ้าไม่ให้ไปถึงฝั่งฝัน ปัจจุบันพิธามี 8 พรรคสนับสนุนมีเสียงส.ส.ในมือ 312 คน บวกลบคูณหารขาดเสียงอีก 64 เสียงจะได้เป็นนายกฯคนที่ 30 สมปราถนาตามที่ตัวเองประกาศโม้ไว้ในทุกพื้นที่ๆเดินทางไปขอบคุณด้อมส้ม “ผมพิธา นายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย” 64 เสียงที่พิธาขาด ดูจากสภาล่างฝ่ายส.ส.ด้วยกัน 188 เสียงของขั้วรัฐบาลเดิม เชื่อแน่ว่าไม่น่าจะมีการแตกแถวมายกมือให้พิธาแน่นอน “พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ” ถูกพิธาประกาศตั้งแต่เลือกตั้ง “มีเราไม่มีลุง” ไม่เผาผีกัน “ภูมิใจไทย” ฝ่ายส้มก็บอกไม่เอามาร่วมฝ่ายเสี่ยหนูยิ่งแล้วใหญ่ “กูไม่ไปไม่หนุนพวกมึง” เพราะล้มเจ้าแก้112 อนุทิน-เนวิน ไม่เอาด้วย ประชาธิปัตย์ก็ฝ่ายรักเจ้าเคารพสถาบันไม่มีทางไปเป็นนั่งร้านให้พิธากับพวกล้มเจ้า แม้ในพรรคจะแตกแยกกันสุดๆ และมีข่าวว่าเฉลิมชัยอยากเอา 17 เสียงไปเป็นรัฐบาล แต่คงไม่มีทางไปหนุนพิธาเป็นนายกฯไปยกมือให้พรรคล้มเจ้าได้เป็นรัฐบาล พรรคเล็กพรรคน้อยที่เหลือทั้งหมด ต่อให้พิธากวาดไปยกแผงก็ไม่มีทางพอที่จะทำให้ได้เป็นนายกฯอยู่ดี
ทางเดียวที่พอจะเป็นไปได้มากที่สุดคือการภาวนาให้ส.ว.250 คน ยกมือให้ตัวเองสนับสนุนให้เป็นนายกฯคนใหม่ เพราะการจะไปหวังได้เสียงจากพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามกันคงยาก จะมีก็ส.ว.นี้แหละที่น่าจะมีลุ้นได้มากกว่าส.ส. อย่างที่รู้ส.ว.ชุดนี้เป็นส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของคสช. ช่วงแรกหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 จำนวน 250 คน มีที่มาจาก 3 ส่วน ประกอบด้วย 1. 50 คนแรกมาจากการสรรหาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เลือกมา 2. คณะกรรมการสรรหาคัดเลือกมา 194 คน 3.เป็นโดยตำแหน่ง 6 คนคือ ปลัดกลาโหม ผบ.ทสส. ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ. และ ผบ.ตร. ชุดนี้จะหมดวาระ 11 พ.ค.2567 ช่วงที่ 2 หลัง 5 ปีจากวันที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นส.ว. ให้ลดลงเหลือ 200 คน มาจากการคัดเลือกกันเอง ส.ว.มีอำนาจหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน โดยการตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีหรือเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อให้ครม.แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาโดยไม่มีการลงมติ รัฐธรรมนูญในอดีต อาทิ ฉบับ 2540 บัญญัติให้วุฒิสภามีอำนาจหน้าที่หลายประการ อาทิ ให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งต่างๆ ในองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็นประธานกกต. กกต. ถวายคำแนะนำต่อพระมหากษัตริย์ในการแต่งตั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ป.ป.ช. ประธานและกรรมการสตง. ผู้ว่าฯสตง. ฯลฯ สารพัดจิปาถะล้วนเป็นตำแหน่งสำคัญๆของบ้านเมืองทั้งนั้นที่ต้องผ่านการกลั่นกรองของส.ว. นอกจากนี้ในรัฐธรรมนูญ 2560 ส.ว.ยังให้อำนาจส.ว.ในการลงมติเลือกนายกฯร่วมกับส.ส.ด้วย
อย่างที่รู้พิธาจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ก็อยู่ที่ส.ว.นี้แหละที่จะเป็นตัวแปรสำคัญ ล่าสุดก่อนหน้านี้ทาง “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าก้าวไกล ว่าที่ขุนคลังของพิธาออกมาจุดประเด็นว่ามีส.ว.เพียงพอในการหนุนพิธา ส่วนพิธาเองก็มั่นใจเชื่อว่ามีส.ว.ให้การสนับสนุนจำนวนมาก อย่างไรก็ตามประชุม 8 พรรคล่าสุดวันนี้ (11 ก.ค.2566) ที่รัฐสภา ชลน่านหัวหน้าแดงออกมาระบุระหว่างประชุมมีการถามชัยธวัช ตุลาธน เลขาฯก้าวไกล ว่าในมือฝ่ายส้มมีส.ว.หนุนพิธาเท่าไหร่ ชัยธวัชตอบกลับมาว่า ” มีการสอบถามกัน ซึ่งทางนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก.ก. ตอบในมุมที่อยู่บนพื้นฐานความพยายามที่จะประสานและหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ได้ระบุว่ามีจำนวนเท่าใด นายชัยธวัชไม่ได้ยืนยันตัวเลข” เป็นอย่างนี้ก็เอวัง เป็นแบบนี้ก็แสดงว่าพิธาล่องจุ๊นแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ จนป่านนี้แล้วเหลือเวลาแค่ 2 วันยังไม่รู้ว่าตัวเองมีส.ว.สนับสนุนเท่าไหร่ ไปวัดใจกันหน้างานล้วนๆ ถึงว่าใกล้วันโหวตนายกฯพิธาเดินสายรัวๆ ขอบคุณประชาชน จริงๆก็คือการปลุกระดมมวลชนให้ออกมากดดันส.ว.ให้เลือกตัวเองนั้นแหละ ล่าสุดหล่อเพ้อฝันก็ออกมาพูดตรงๆขอให้คนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยมาปกป้องคะแนนเสียงของตัวเอง เพราะหลังพิงฝาจนปัญญาแล้วพิธาถึงต้องทิ้งไพ่หมดหน้าตัก เลือกใช้วิธีปลุกคนปลุกเด็กปลุกชาวบ้านลงถนนก็ยอม ขอให้กูได้เป็นนายกฯเท่านั้น ห่าลากความสง่างามไม่มีเลย
วานนี้มีกระแสข่าวจากสื่อหลายสำนัก ระบุว่ามี 20 ส.ว.คนเตรียมยกมือให้พิธา ประกอบด้วย วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์เฉลิมชัย เฟื่องคอน นพ.อำพล จินดาวัฒนะ วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ภัทรา วรามิตร ซากีย์ พิทักษ์คุมพล ทรงเดช เสมอคำ ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม รณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ประมาณ สว่างญาติ วันชัย สอนศิริ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ มณเฑียร บุญตัน ประภาศรี สุฉันทบุตร สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ พิศาล มาณวพัฒน์ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป พีระศักดิ์ พอจิต ประยูร เหล่าสายเชื้อ ทัศนา ยุวานนท์ แต่ไม่ทันข้ามคืนอย่างน้อย 2 คนในนั้นยืนยันว่าเปลี่ยนใจไม่โหวตให้พิธาแล้ว คนแรกคือดิเรกฤทธิ์ที่บอกว่าคงโหวตให้พิธาลำบากเพราะมีคดีติดตัวอยู่ และตอนนี้อยู่ระหว่างกกต.สอบสวนคงไม่เหมาะหากจะยกมือให้คนที่มีคดีติดตัว อีกคนที่หนักกว่าคือครูหยุยที่ออกมาระบุแบบสวนกลับเลยว่า จาก 20 คน มีคนที่คุยแล้วโหวตให้พิธาจริงๆแค่ 10 คนเท่านั้น ” เพื่อความชัดเจน ตามนี้เลยครับ สอบถามทุกคนในภาพมาแล้ว ตัวเลขปั่นจนข่าวเอาไปลงคือ 20 ตัวเลขแท้จริงคือ 10 ครับ” ครูหยุย FB แถมกามาให้เลยว่าสิบคนที่จะเลือกพิธามี วุฒิพันธุ์ นพ.อำพล ทรงเดช มณเฑียร ประภาศรี พีระศักดิ์ วันชัย สถิตย์ พิศาล และ ดิเรกฤทธิ์ ถ้าลบดิเรกฤทธิ์ที่ออกมาประกาศว่าจะงดออกเสียงพิธาจะเหลือส.ว.ที่หนุนจริงๆแค่ 9 คน เสียงยาวกว่าหางจิ้งจกไปนิดเดียว ต้องหาเสียงอีกน้ำบานกว่าจะได้เป็นนายกฯ อย่างที่รู้ส.ว.หลายคนเคยออกมาให้สัมภาษณ์ให้พิธาให้ก้าวไกลลดเพดานเรื่องล้มเจ้าลงส.ว.ก็จะยอมยกมือให้ พิธาไม่ลดก้าวไกลไม่หยุดยังคงมุ่งหมายล้มเจ้ายังคงประกาศเดินหน้าแก้ม.112 ต่อไป ก็เพราะเรื่องล้มเจ้า แก้ม.112 นี้แหละที่หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรส.ว.ก็ไม่มีทางไฟเขียวให้พิธาเป็นนายกฯได้ แถมบางคนออกมาเป็นแถวหน้าท้าชนกับพิธาและก้าวไกล แบบควรยกมือมอบโล่ห์ให้ ทั้งเสรี สุวรรณภานนท์ สมชาย แสวงการ คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ คำนุญ สิทธิสมาน ประพันธ์ คูณมี พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ฯลฯ ล่าสุดเสรีก็ออกมาปรามพวกพรรคการเมือง นักการเมือง ที่ยกมือเลือกพิธาเป็นนายกฯ ระวังทำผิดรัฐธรรมนูญ โหวตให้คนขาดคุณสมบัติส.ส. โหวตให้คนเป็นปฏิปักษ์กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ระวังจะเจอยุบพรรคเอาง่ายๆ
4 ปีที่ผ่านมาก้าวไกลฝ่ายส้มด่าส.ว.สาดเสียเทเสียมาตลอด ใต้ตีนรัฐประหาร ทาสทหาร ส.ว.รับใช้คสช. ฯลฯ สารพัดคำถากถาง ถึงวันนี้จะมายกยอปอปั้นให้เขายกมือให้ จับตาเลย 13 ก.ค.2566 ส.ว. 250 คน เตรียมปฏิบัติภารกิจสุดสำคัญในชีวิต ด้วยการสวมหัวใจสิงห์ ทำตัวเป็น “ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก” ปกป้องชาติ ดูแลสถาบัน ขวางพวกล้มเจ้า ขัดพวกแยกดินแดน นำแสงสว่างให้ประเทศ สภาสูงนี้แหละจะเป็นปราการด่านสุดท้ายที่จะขวางไม่ให้คลื่นส้ม กระแสล้มเจ้า สำเร็จมรรคผล 250 ชีวิตจะลิขิตให้ตัวเองอยู่ฝั่งไหนอยู่ข้างใคร ยกมือเลือกพิธาเอาใจ 14.4 ล้านคนที่เลือกฝ่ายส้มมา ด้วยอุบายสุดชั่วช้า โซเชี่ยลฯจอมปลอม โกหกคำโตของบรรดาแกนนำ หรือ จะเลือกปิดสวิทซ์ตัวเอง ใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว ไม่ขอเลือกพิธา ให้พิธาให้ก้าวไกลจบหมดตรงนี้ เตรียมแผนรับมือโหวตยืดยาวแก้เกมฝ่ายส้มไว้แล้วหากพิธาจะเสนอชื่อโหวตต่อ งานนี้จะมีการนำข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 41 “ญัตติใดตกไปแล้ว ห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักการเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน” งานนี้ถ้าพิธาโหวตครั้งแรกแล้วตก จะหมดสิทธิ์กลับมาลุ้นเป็นนายกฯทันที ลักษณะเดียวกับการเสนอชื่อบุคคลในองค์กรอิสระ ถูกตีตกแล้วจะหมดลุ้นไปเลยคัมแบ๊กกลับมาโหวตใหม่ไม่ได้ จับตา 13 ก.ค.2566 ชิงไหวชิงพริบ ระดับมวย 7 ดาวห้ามกระพริบตา พิธากับก้าวไกลปลุก 14 ม็อบด้อมส้มเตรียมเอาคนเรือนหมื่นมากดดันหน้าสภา ให้ส.ว.เปลี่ยนใจยกมือให้ตัวเองให้ได้ ส.ว.จะว่ายังไง บทพิสูจน์ใจความรักชาติรักสถาบันรักความถูกต้องกันก็คราวนี้แหละ ถึงคราวส.ว.จะออกมากอบกู้ชาติ รักษาราชบัลลังก์ ส่วนใครจะเลือกยกมือให้พิธาเป็นนายกฯ หรือปิดสวิทต์ตัวเองเพื่อรักษาบ้านเมืองก็ตามดูเอาแล้วกัน
/////////////////////