วันที่ 22 ส.ค. 2564ที่สภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราชนายลือชา เปี่ยมสุวรรณ กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 8 พร้อมคณะกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในกรณีที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายในการประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 และขอตัดงบประมาณสนับสนุนสภาทนายความแห่งประเทศไทย โดยอ้างว่าไม่ได้มีภารกิจในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องทางการเมืองและถูกจับกุมจำนวนมากว่า ตนในฐานะทนายความและกรรมการบริหารสภาทนายความภาค 8 ถือเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลกระทบและเสียหายจากการอภิปรายของนายณัฐวุฒิ ซึ่งตามปกติกระทรวงยุติธรรมได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับทนายความเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย จากเดิม 57 ล้านบาทตัดเหลือแค่ 27 ล้านบาท ซึ่งยนายณัฐวุฒิ ขอให้ตัดงบ 27 ล้านไปออกไป เท่ากับว่าไม่เหลือการสนับสนุนงบประมาณให้กับสภาทนายความเลยยังงั้นหรือ
นายณัฐวุฒิ เป็นทนายความ แต่ได้อภิปรายในสภาอันทรงเกียรติว่าสภาทนายความ ฯได้รับงบประมาณจากกระทรวงยุติธรรมาแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ช่วยเหลือประชาขน ตนขอกราบเรียนต่อ ส.ส.และคณะรัฐมนตรีและประชาชนที่ได้รับฟังการอภิปรายของยายณัฐวุฒิ นั้นนายณัฐวุฒิ ได้นำข้อความที่ไม่เป็นจริงมากล่าวในสภาอันทรงเกียรติ และทำให้สภาทนายความ สมาชิกสภาทนายความได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียง โดยสภาทนายความ ฯไม่มีโอกาสที่จะเข้าชี้แจงตอบโต้แก้ข้อกล่าวหาของนายณัฐวุฒิ ในสภา ฯได้ กระผมจึงขอเป็นสื่อกลางที่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อสื่อไปถึงรัฐบาลว่าการที่สภาทนายความได้รับการจัดสรงบประมาณมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้นเราได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาการจ่ายงบประมาณในแต่ละเรื่อง แต่ละคดี แต่ละโครงการอย่างละเอียดรอบคอบ ชื่อ “คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย” ประกอบด้วยหลายฝ่ายทั้งตัวแทนกระทรวงยุติธรรม และมีการกำหนดภารกิจของทนายความในการช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งแต่ละจังหวัดจัดทำโครงการให้ความรู้ด้านกฎหมายและช่วยเหลือประชาชนจังหวัดละ 4 โครงการทั้งประเทศรวมเกือบ 500 โครงการ” ในปัจจุบันต้องปรับลดลงมาเหลือจังหวัดละ 2 โครงการเท่านั้น
นายลือชา เปี่ยมสุวรรณ กล่าวอีกว่าการช่วยเหลือประชาชนมีทั้งคดีปกครอง คดีผู้บริโภค คดีสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยแต่ละประเภทมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งสภาทนายความ ฯได้ดำเนินการช่วยเหลือและฟ้องร้องดำเนินคดีอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้หลายร้อยคดี ในส่วนของภาค 8 เช่น คดีห้องเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชกรณีถูเขาขยะที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งเรื่องกลิ่น มลพิษต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ในจังหวัดอื่น ๆ ก็มีการฟ้องร้องช่วยเหลือประชาชนอีกจำนวนมาก แม้แต่เรื่องล่าสุดกรณีไฟไหม้โรงานพลุที่ จ.สมุทรปราการทางสภาทนายความก็ดำเนินการฟ้องร้องอยู่ในขณะนี้ สภาทนายความได้ส่งไปช่วยเหลือให้ความรู้กับประชขาชนอย่างใกล้ชิด โดยในปัจจุบันแม้แต่เรื่องความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับโรคโควิด บรรดา ส.ส.มีบ้างไหมที่ลงไปให้ความรู้ ไปพบปะประชาชนต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ ส.ส.โดยเฉพาะตัวนายณัฐวุฒิ เคยลงไปทำบ้างไหม เข้าไปสัมผัส รับรู้เกี่ยวกับคดีต่าง ๆที่ประธานสภาในแต่ละจังหวัดทุ่มเททำงานช่วยเหลือประชาขนบ้างไหม บางเรื่องประธานสภาในแต่ละจังหวัดหรือเพื่อนทนายความต้องควักกระเป๋าตัวเองเป็นค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันรถ และอื่น ๆ “อย่าเอาการบิดเบือนข้อเท็จจริงไปกล่าวในสภาผู้แทนอันทรงเกียรติ สภาผู้แปทนไม่ใช่เป็นสถานที่ที่เอาเรื่องราวข้อความที่ไม่เป็นจริง ไม่รู้จริงไปพูดกัน เพื่อต้องการทำลายองค์กร ท่านณัฐวุฒิ บอกว่าท่านเป็นทนายความเพราะฉนั้นองค์กรสภาทนายความเป็นองค์กรที่คุ้มกะลาหัวท่านอยู่ด้วย แต่ท่านกลับมาทำลายองค์กรของเราเอง ทำลายน้อง ๆ เพื่อน ๆ ทนายความ โดยเฉพาะกำลังทำลายสิทธิประชาชนที่กระทรวงยุติธรรมมอบหมายให้สภาทนายความลงไปดูแลช่วยเหลือ สำหรับกรณีที่เคลื่อนไหวเรียกร้องทางการเมืองที่เยาวชขน ประชาชนโดนจับกุมนั้น หากมีการร้องขอให้ช่วยเหฟลือสภาทนายความ ฯก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้ว ซึ่งผมถามว่าหากงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนโดนตัดไปหมด ทนายความจะเอางบจากไหนในการใช้จ่ายเพื่อเข้าถึงและช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม แม้แต่รัฐธรรมนูญยังกำหนดให้ประชาขชนมีสิทธิในการเข่าถึงกฎหมายและความยุติธรรม แต่ท่านณัฐวุฒิกำลังทำลายสิทธิเหล่านี้ไปทั้งหมด ผมทนไม่ได้ และนอนไม่หลับทั้งคืน
ผมอยากฝากถึงนายณัฐวุฒิ ว่าทนายที่เขาทำงานเพื่อปะชาชน ทั้งที่ไปนั่งที่ศาล ที่โรงพัก ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในกรณีต่าง ๆ เขาเหนื่อยนะครับ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดน้อง ๆ เพื่อน ๆ ทนายความทั่วงประเทศเขาก็ไม่ค่อยมีคดีความที่จะว่าความกันอยู่แล้ว โดนหลายหน่วยงานแย่งคดีไปทำกันหมดแล้ว ท่านณัฐวุฒิ บอกว่าท่านเป็นทนายความท่านเอาสมองส่วนไหนมาคิดว่าทนายความไม่ทำงาน ไม่ทำอะไร ท่านลงมาตรวจสอบ ลงมาดูบ้างซิครับ ถ้าไม่มีทนายความ ทนายอาสาออกดูแลช่วยเหลือประชาชนในทางกฎหมายประชาชนจะตกอยู่ในสภาพยังไง อย่างไร” นายลือชา กล่าวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช