เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่รัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) ว่า นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 พร้อมคณะ ได้เข้าพบพร้อมให้กำลังใจ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อมอบตะกรุด สายสิญจ์ และเครื่องราง ของศักดิ์สิทธิ์ ให้คุ้มครองส.ว. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำพิธีพรมน้ำมนต์ โดยรอบรัฐสภาเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดี
ข่าวที่น่าสนใจ
นายนพรุจ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยยื่นเรื่องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นสื่อ และได้ยื่นเรื่องต่อกมธ.สิทธิมนุษยชนฯ และกมธ.การพัฒนาการเมือง วุฒิสภา ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ กกต.มีมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่นับจากนี้ไปจะมีแต่สิ่งดีๆ ในรัฐสภา และขอให้ส.ว.ทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองต่อไป
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์กรณีที่กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความคุณสมบัติของนายพิธา ว่า ตนมองว่าไม่กระทบต่อการพิจารณาหรือโหวตนายพิธา เพราะกรณีดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ชี้ขาด ซึ่งไม่เหมือนกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนจะให้รัฐสภาโหวตนายกรัฐธรรมนูญ ปี62 ซึ่งนายธนาธรไม่สามารถเข้าร่วมประชุมรัฐสภาได้
นายสมชาย กล่าวว่า กรณีที่ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนมองว่าเป็นปกติ และมองว่า กกต.ควรส่งไปตั้งนานแล้ว เพราะมีเรื่องที่มีผู้ร้องนานแล้ว ตั้งแต่นายพิธายื่นสมัครส.ส.และจนได้เป็นส.ส. ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เกมการเมือง ส่วนจะเป็นประเด็นที่ส.ว.นำไปพิจารณาก่อนโหวตหรือไม่นั้น ตนไม่ก้าวล่วง เพราะตนเองมีหลักการโหวตคือต้องซื่อสัตย์ มีวิสัยทัศน์ และสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงคำถึงถึงความมั่นคงของประเทศ หลายเรื่องขับเครื่องบินชนเพดาน หลายเรื่องสุดโต่ง พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ซึ่งช่วงเวลาที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ ต้องรอฟังว่าจะลดเพดานลงได้หรือไม่ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแก้มาตรา 112 ต้องดูเจตนารมณ์ว่าเป็นนายพิธาคนเดียวหรือ ส.ส.ทั้งพรรคเลิกเลย รวมทั้งมวลชน องค์กรเครือข่าย นอกจากมีข้อกังขาเรื่องรัฐปาตานี รัฐล้านนา หรือร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบัน ที่กระทบหมวด 1หมวด2 และพระราชอำนาจ ” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนทิศทางประเทศ ตนก็เห็นว่ากลุ่มคนหนุ่มสาวควรเป็นผู้นำในการเดินหน้าต่อ แต่หลายเรื่องถ้าเดินแล้วมีความเสี่ยง ส.ว.ก็คงพิจารณาตรงนี้ด้วย ส่วนท่านอื่นอาจพิจารณษเรื่องคุณสมบัติด้วยก็อาจเป็นองค์ประกอบ
นายสมชาย กล่าวถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีในส่วนของส.ว.ที่ถูกมองว่ามีความขัดแย้งกันนั้น โดยยืนยันว่า ส.ว.ไม่มีความเห็นขัดแย้ง แม้มีความเห็นต่างถือเป็นสิทธิของส.ว. แต่ละคน ส่วนกรณีที่มีไลน์หลุดของส.ว.หญิง ที่ตัดพ้อว่าถูกกลั่นแกล้งและใส่ร้ายนั้น จากการตรวจสอบในไลน์กลุ่มของส.ว.ที่ตนเป็นสมาชิก กว่า 10 กลุ่ม ย้อนหลัง 11 ชั่วโมง ไม่พบข้อความดังกล่าวในไลน์ที่ตนเป็นสมาชิก และจากที่ทราบในข่าวพบว่าเป็นการคัดลอกข้อความมาเผยแพร่ต่อไม่การถ่ายรูปหน้าจอ จึงไม่ทราบว่าใครคือคนที่โพสต์เป็นต้นฉบับ
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อมูลที่ระบุว่ามีการให้ผลประโยชน์กับส.ว.เพื่อสนับสนุนนายพิธา ตามที่ตนระบุก่อนหน้านี้ ยอมรับว่าตนไม่มีหลักฐาน แต่เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ในวงการรัฐสภาที่หวังดีส่งมาให้เพื่อติดตาม เพราะมีกระบวนการพยายามทำอยู่ สำหรับจำนวนที่เสนอให้หากเทียบเป็นกล้วย มากถึง 30 -50 หวี ส่วนจำนวน ส.ว.ที่ถูกเสนอประโยชน์นั้นตนไม่ทราบจำนวน แต่ขอฝากบอกคนที่มีความพยายามจะทำว่าไม่สำเร็จแน่นอน เพราะส.ว.ไม่เห็นแต่กับสินบน หรือ สินจ้าง เพราะหากทำเช่นนั้น เท่ากับว่า ส.ว.ขายชาติ
“ที่ต้องออกมาปราบเพราะส.ว.หลายท่านมาบ่นให้ฟังว่ามีการถูกทาบทามแบบนี้ แต่คนละกรณีกับส.ว.คนหนึ่งที่ออกมาบอกว่าถูกทาบทามจ่ายเงินให้กล้วยไม่โหวตคุณพิธา อันนี้ตนไม่ได้ข่าว ซึ่งเป็นตรรกะที่ประหลาดไม่น่าเป็นไปได้ อย่างนั้นใครได้ และตนก็ไม่เชื่อว่าคุณพิธาจะไปทำแต่มีกลุ่มไม่หวังดีทำให้วุ่นวาย ทั้งนี้ ผมเชื่อมั่น ส.ว.ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีอามิสสินจ้างไม่ว่าจะโหวตเห็นด้วยหรือเห็นต่างกัน เพราะถ้าทำเช่นนั้นขายชาติ อย่างไรก็ตามเป็นธรรมดาที่จะเสนอผลประโยชน์ในเหตุการณ์แบบนี้ และผมได้รับการเปรยจากเพื่อส.ว. มาเหมือนกันว่า มีคนไปพบที่บ้าน ติดต่อทางโทรศัพท์ อย่างเมื่อวันที่ 11 ก.ค.มีงานศพ พบว่ายังมีคนไปล็อบบี้ หากโหวตให้ก็จะเชียร์ หากไม่โหวตให้ ก็ไปข่มขู่ ซึ่งกลุ่มนี้เขาพยายามใช้มวลชนและกระแสโซเชียลกดดันดำเนินการ” นายสมชาย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง