จากกรณีที่ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกโดยระบุว่า To an old friend… เรื่อง “และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ”
จดหมายเปิดผนึก
เรื่อง “และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ”
เรียน คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
1.ในฐานะมิตรเก่าแห่งสำนักท่าพระจันทร์ และลานโพธิ์ ผมขอส่งความปรารถนาดีมายังท่านกวีศรีกรุงเทพฯ และท่านสมาชิกวุฒิสภาทั้งหลายทั้งปวง เนื่องในโอกาสมงคลที่บ้านเมืองของเรา น่าจะเข้าสู่สถานการณ์ “ปกติ” ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา และผลของการเลือกตั้ง ก็ได้ประจักษ์ให้เห็นไว้ชัดแล้ว และต่อจากนั้นกระบวนการที่ตามมาคือ การเลือกสรรประธานรัฐสภา และนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ
2.ในฐานะที่ท่านและบุคคลสำคัญหลาย ๆ ท่าน ที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ที่มีสิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องออกเสียงรับรองผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการประชุมในวันที่ 13 กรกฎาคม ศกนี้นั้น ผมใคร่ขอเรียนมาให้ท่านได้ใช้ความสามารถ วิจารณญาณ ในการปฏิบัติงานเพื่อชาติและราษฎรไทย โดยคำนึงถึงทั้งมติและผลประโยชน์ของมหาชนประชาราษฎรไทยเป็นที่ตั้ง เคารพและปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศชาติของเรา
3.กล่าวโดยย่อและตรงไปตรงมา คือ “ความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ” ให้เห็นได้ชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกล ได้ชัยชนะมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง และพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง ดังนั้น ถ้าท่านวุฒิสมาชิกผู้ทรงเกียรติเคารพต่อมติของมวลมหาประชาชน และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาติ ก็เป็นการสมควรที่ท่านและเพื่อนสมาชิกของท่าน จะพึงออกเสียงสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของชาติไทย
4.ในฐานะของผู้สูงวัย อายุของเราไล่เลี่ยกัน ปีนี้ผมอายุ 82 เข้าแล้ว นี่ น่าจะเกือบเป็นวาระท้าย ๆ ที่คนรุ่นเรา จะมีเวลา มีชีวิตเหลืออยู่บนโลกนี้เพียงน้อยนิด ที่จะได้ปฏิบัติงานครั้งสำคัญครั้งนี้เพื่อ “ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย”
ขอให้ทิ้งความทรงจำอันดีไว้ให้ลูกหลานเหลนโหลนของเรา (ตำแหน่งอยู่ไม่นาน ตำนานอยู่ตลอดไป) ครับ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ