“ศปปส.”ร่วมไบร์ท ชินวัตร บุกสภาฯยื่นหนังสือส.ว.ทำหน้าที่ป้องสถาบันฯเปิดเพลง”หนักแผ่นดิน”ดังกระหึ่ม

วันที่ 13 ก.ค. 66 กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) โดยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่มศปปส.พร้อมคณะ เดินทางมายื่นหนังสือถึงสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) เพื่อย้ำชัดเจตนารมณ์ของประชาชนที่รักสถาบันฯ และเพื่อตอกย้ำถึงจริยธรรมของ ส.ว. ที่พึ่งมีต่อผลประโยชน์ชาติมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน

โดยยื่นหนังสือถึงเรื่องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีผลผูกพันทุกองค์กรในเรื่องการล้มล้างการปกครอง การเรียกร้องให้มีการแก้ใขรัฐธรรมนูญ(รธน.)ว่าด้วย “พระราชฐานะ” ของพระมหากษัตริย์ ที่ทรง อยู่ภายใต้ รธน. และอยู่เหนือความรับผิดชอบทางการเมือง ตามหลักกฎหมาย รธน. ที่ระบุว่าพระมหากษัตริย์ทรงกระทำผิดมิได้ และให้มีการยกเลิกกฎหมายที่ห้ามเข้าไปล่วงละเมิด หมิ่นประมาท หมิ่นพระบรมเดชานุภาพสถาบันพระมหากษัตริย์

จะส่งผลกระทบต่อ “สถานะ” ของสถาบันฯ และนำไปสู่การบ่อนทำลายการปกครองในที่สุด การแก้ไข รธน.และกฎหมายดังกล่าว จะส่งผลให้สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่อยู่ในสถานะที่เคารพสักการะ อันนำไปสู่การสร้างความปั่นป่วนและกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่เกินความพอเหมาะเกินควร โดยมีผลทำให้กระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และจะนำไปสู่การบ่อนทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด

ดังนั้นการที่ส.ว.คนใดที่โหวตให้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีนั่นเท่ากับเป็นการสมรู้ร่วมคิดกระทำการขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบาย ที่เป็นปฏิปักษ์ปรปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 นำกฎหมายอาญามาตรา 112 ออกจากหมวดความมั่นคง เปลี่ยนแปลงแก้ไขรธน. โดยเฉพาะหมวด 1 และหมวด 2 เป็นต้น

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นการลดทอนพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์และหรือล้มล้างการปกครองนั่นเอง อนึ่งส.ว.ก่อนเข้ารับหน้าที่ สมาชิกวุฒิสภาต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้

(ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่ง รธน.แห่ง ราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ดังนั้นการที่สมาชิกวุฒิสภาท่านใดที่โหวตให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี นั่นเท่ากับว่าเป็นการสนับสนุนและหรือสมรู้ร่วมคิดกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ และเหมาะสมหรือไม่ที่จะครองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

อย่างไรก็ตามศปปส.จึงอยากเห็นความสง่างามของส.ว. ซึ่งถือว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในสภาสูงของรัฐสภาอันทรงเกียรติของไทย คงรักษาเกียรตินั้นด้วยชีวิต ดั่งคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ด้วยถ้อยคำที่ว่า “ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ “ไบรท์ ชินวัตร” อดีตแกนนำม็อบราษฎรเมืองนนท์ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนฝั่งมาเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มปกป้องสถาบัน เดินทางมาให้กำลังใจ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. โดยวันนี้มายื่นหนังสือให้สมาชิกวุฒิสภา ให้กำลังใจการทำหน้าที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

โดยนายไบรท์ ได้กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งมีความจงรักภักดี รักแผ่นดินเกิดของตัวเอง พร้อมทั้งชวนติดตาม ส.ว. หรือ ส.ส. คนไหนจะเป็นอย่างไรในการโหวตนายกฯในวันนี้ ตนขอให้พี่น้อง ศปปส. ที่มายื่นหนังสือในวันนี้ประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งฝากถึงคนที่มีความคิดเห็นต่าง คนที่มักจะอ้างว่าฉันรักประชาธิปไตยแต่พวกเดียว คนอื่นเขาก็รักประชาธิปไตยเหมือนกัน ก่อนที่เราจะรักประชาธิปไตย เราต้องไปเข้าใจคำว่า คนคิดเห็นต่าง เขาไม่ใช่คนผิด ไม่ใช่แค่เห็นต่างคุณก็ไปว่าเขาแล้ว แบบนี้คุณยังไม่เคารพเขาเลย แล้วคุณจะไปรักประชาธิปไตยได้อย่างไร ไหนคุณบอกว่าสิทธิเสรีภาพต้องเท่าเทียมกัน แค่เขาคิดเห็นต่างจากพวกคุณ คุณก็ด่าเขา ว่าเขาเป็นสลิ่มบ้าง ว่าเขาโง่เขลาบ้าง อยากฝากเตือนพี่น้องที่บอกว่าเป็นด้อมทั้งหลาย ด้อมแต่ละกลุ่ม รักได้ แต่ให้พอประมาณ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆบอกว่า พวกคุณไม่ชอบสมมุติเทพ ตอนนี้พรรคการเมืองพรรคหนึ่งกำลังจะกลายเป็นสมมุติเทพแล้ว ใครพูดวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นอะไรก็ไม่ได้ คุณก็แห่กันเอาทัวร์ไปลงไปด่าเขา แบบนี้ไม่น่ารัก นี่เขาไม่ได้เรียกว่าความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตย แต่เขาเรียกว่า ความสกปรกแบบสถุน อย่าทำนิสัยแบบนั้น

 

ทั้งนี้ นายนพดล พรหมภาสิต หรือ “รอยตุ๊” เลขาธิการศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า รถกระบะ ศปปส. วิ่งเปิดเพลง ‘หนักแผ่นดิน’ ชูธงชาติ หน้ารัฐสภา โดยมีผู้ใช้โซเซียลมีเดียเข้ามาคอมเม้นต์กับจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นด้วยและชื่นชมเป็นอย่างมาก อาทิ คอมเม้นหนึ่งบอกว่า “เปิดให้ทั่วกรุงไปเล้ยยยครับ” / “ไอเดียเยี่ยมค่ะ แต่ต้องระวังตัวด้วยนะคะ” / “เริ่ดดดดดดด” / “จี๊ดมาก” / “น่ารักมาก” / “มันต้องอย่างนี้” / “ให้เพลง เล่าเรื่อง” /ร่วมใจเปิดเพลงหนักแผ่นดิน” / “หนักจริงแต่เช้าเลยแล้วสึ่อพวกนื้หนักด่วยหรึเปล่าคะถ้าหนักน่าจะจัดการไปเลยไหนๆก็ทำแล้ว” / “เวลาสามนิ้วปราศัย รถเครื่องขยายของรัฐควรเปิดเพลงหนักแผ่นดินคลอไปด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศสร้างจิตสำนึก เป็นการแก้เกมตามระบอบประชาธิปไตย”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์" เผยกฎระเบียบ "ตร.ใหม่" ป้องกันตั๋วช้าง คัดสรรตำรวจเพื่อประชาชน
ชาวอสม.เฮ! “สมศักดิ์” เผยข่าวดี ปีหน้า “ธกส.” ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 6
“กรมที่ดิน” ยันทำตามคำสั่งศาลปกครอง ปมรังวัดเขากระโดง
"ปิยบุตร" อ้างเฉย "ก้าวไกล" พลาดตั้งรัฐบาล ไม่เกี่ยวรื้อ แก้ 112 แต่เพราะเพื่อทักษิณกลับบ้าน
“อนุทิน” ย้ำปมเขากระโดง ทุกฝ่ายใช้สิทธิ์ตามกม. ขออย่าโยงสัมพันธ์พรรคร่วม
"ชาวบ้านหนองมะกอก" อุทัยธานี ต่อยอด "เงินหมื่น" ซื้ออะไหล่ซ่อมอุปกรณ์การเกษตร ลดค่าใช้จ่ายเกษตรกร
“วีริศ” สั่งการรถไฟฯ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ 20-26 พ.ย.นี้
“พิชัย” แจงเงินหมื่นเฟสสอง ให้คนชรา 60 ปีขึ้นไป ไม่เกินตรุษจีน 68 เฟสสามรอเมษายน-มิถุนายน
"รมต.จิราพร" เผยคนไทยปลื้มใจ ได้เฝ้ารับเสด็จและชมความงดงาม “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค”
DSI จ่อบุกเรือนจำสอบ ‘กฤษอนงค์’ ปมคลิปเสียงอ้างจ่าย 10 ล้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น