นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการนำเข้ายา หรือวัคซีนจากต่างประเทศว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 สำหรับกรณีเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เช่น โรงพยาบาลเอกชน ต้องมายื่นเป็นผู้รับอนุญาตนำ หรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักรก่อน จากนั้นจึงยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล เนื่องจากผู้รับอนุญาตนำเข้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อคุณภาพ และความปลอดภัยของวัคซีนที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร หากส่งเอกสารครบถ้วนตามที่กำหนดจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน 30 วัน
นายแพทย์เกียรติภูมิ ย้ำอีกว่า ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้อนุมัติทะเบียนวัคซีนโควิด-19 แล้ว จำนวน 6 รายการ ได้แก่ วัคซีนแอสตราเซนเนกา นำเข้าโดยบริษัท แอสตราเซนเนกา (ประเทศไทย) จำกัด, วัคซีนโคโรนาแวค ของบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ไซเอ็นซ์ จำกัด นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม, วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน นำเข้าโดยบริษัท แจนเซ่น ซีแลค จำกัด, วัคซีนโมเดอร์นา นำเข้าโดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด วัคซีนของซิโนฟาร์ม นำเข้าโดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด และวัคซีนโคเมอร์เนตีของไฟเซอร์ นำเข้าโดย บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทย จำกัด