ต่อมาเวลา 13.4 5น. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.อภิปรายว่า นายพิธาไม่สมควรได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี การที่พรรคก้าวไกลได้ 14 ล้านเสียง อย่าสำคัญผิดว่าได้ 3 0เสียงล้านเสียง เพราะเสียงที่เหลือเป็นของพรรคอื่นที่ประชาชนลงคะแนนให้ พรรคเพื่อไทยก็ได้ 10ล้านเสียง ที่ไม่เลือกนายพิธาเป็นนายกฯ การทำหน้าที่นายกฯต้องมีพฤติกรรมชัดเจน ไม่หลบลู่สถาบัน 4 ปีส.ว.ถูกด่ามาตลอด แต่ทนอยู่เพื่อปกป้องบ้านเมืองที่มีสร้างแนวคิดให้ประชาชน และยุยงเด็กไปในแนวทางที่ผิด ให้ละเมิดสถาบัน ถ้าบอกว่าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีและจะเลิกแก้มาตรา112 ตนก็ไม่เชื่อ คิดว่าหลอกลวง วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง
“ส.ว.สมชาย” จัดเต็มซัด “พิธา” ปลุกปั่นเด็กร่วมม็อบ ละเมิดสถาบันฯ ย้อนพฤติกรรมกดดันส.ส.-ส.ว.ยิ่งชัดไม่เหมาะนั่งนายกฯ
ข่าวที่น่าสนใจ
จากนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ใช้สิทธิถูกพาดพิงชี้แจงการยุยงสนับสนุนเด็ก ยืนยันเด็กรุ่นใหม่ยุยงปลุกปั่นไม่ได้ เขามีความคิดเป็นของตัวเอง สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ไม่เหมือนสมัยก่อน ส่วนการใช้ตำแหน่งส.ส.ไปประกันตัวเด็กนั้น เพื่อต้องการให้เข้าถึงเสรีภาพการเข้าถึงทนาย และสันนิษฐานว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน ถ้ายังไม่มีคำพิพากษา
ขณะที่นายเสรี โต้กลับว่า มีหลักฐานเป็นคลิประบุชัดเจนที่เด็กพูดเองมีพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลัง แต่นายพิธา ยืนยันว่า เรื่องคลิปต่างๆมีเฟคนิวส์ ใครจะทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีการตรวจสอบ จะพูดอะไรต้องพิสูจน์ก่อน ต้องมีวุฒิภาวะการตรวจสอบ แต่นายเสรี ยืนยันว่าที่ผ่านมาอยู่ในสายตาท่านมาตลอด ไม่ใช่เฟคนิวส์ เป็นเรื่องจริง
จากนั้น นายสมชาย แสวงการ ส.ว.อภิปรายว่า ขณะนี้มีกองทัพอวตารแก้วสามประการในโซเชียล พยายามมากดดัน บูลลี่ส.ว.ให้เลือกตามมติเสียงข้างมาก แม้จะมีส.ว.บางส่วนขอปิดสวิตช์ตัวเอง แต่ก็ยังการขู่ บูลลี่ไม่ให้ปิดสวิตช์ ไม่ขอพูดถึงวิชามารมีทุกรูปแบบ แต่ยืนยันส.ว.ทั้งหมด มีสิทธิทำหน้าที่เท่าเทียมส.ส.ทุกประการ ทุกคนทำหน้าที่อย่างสุจริต ไม่มีอคติ อามิสสินจ้าง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาใช้มวลชนบนท้องถนน กองทัพอวตารในโซเชียลโจมตีส.ว. แต่ตนจะทำหน้าที่ด้วยความไม่เกรงกลัวใดๆทั้งสิ้น เชื่อมั่นว่า ส.ว.ทุกคนเคารพเสียงเลือกตั้งที่เห็นด้วยกับทุกพรรคการเมือง ขอร้องหลังจากเลือกเสร็จแล้วไม่ว่านายพิธาจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ ขอให้เลิกอ้างเสียงข้างมากมากดดัน เพราะผิดหลักประชาธิปไตย เป็นอนาธิปไตย
ส.ว.สมชาย รนะบุอีกว่า ต้องเลิกอ้างเสียงข้างมาก 14 ล้านเสียง แล้วบังคับคนทั้งประเทศว่าต้องเห็นด้วย แบบนั้นผิดหลักประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ เรากำลังเข้าสู่การเมืองที่เราอยากเห็นประชาธิปไตยรุ่นใหม่ เราอยากเห็นความสงบ วันนี้เราเดินเข้าสู่ครรลองประชาธิปไตยแล้ว อย่าใช้สังคมกดทับ อย่าใช้ประชาธิปไตยแบบฟุ่มเฟือย หรือเลือกพวกข้าเท่านั้นที่ถูก เลือกพวกเอ็งผิด แบบนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตย ถ้าเลือกทางเดินแบบสุดโต่ง สร้างลัทธิสุดโต่งครอบงำเยาวชน ผมในฐานะสมาชิกรัฐสภา พิจารณาแล้วเห็นว่านายพิธา ยังไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง