ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยมีวาระที่น่าสนใจคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยมีวาระที่น่าสนใจคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ข่าวที่น่าสนใจ
โดย 8 พรรคร่วมรัฐบาล เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งจะต้องผ่านการเห็นชอบ และมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา ซึ่งหมายความว่า การเลือกนายกฯ ให้วุฒิสภา หรือ ส.ว. จำนวน 250 คน เข้ามาร่วมโหวต นายกฯ กับ สภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. จำนวน 500 คน สองสภารวมกัน 750 คน เกินกึ่งหนึ่งคือ 376 คน หากลงคะแนนแล้วไม่มีใครได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งก็จะวนโหวตต่อไป จนกว่าจะมีผู้ได้คะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ดำเนินการให้ที่ประชุม ลงมติวาระเลือกนายกรัฐมนตรี ตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ในการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
โดยมีจำนวนสมาชิกรัฐสภารวม 749 คน แยกเป็น สมาชิกผู้แทนราษฎร 500 คน และ สมาชิกวุฒิสภา 249 คน หลังจาก น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ยื่นหนังสือแสดงความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นสมาชิก สว. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้เป็นที่น่าจับตามอง ในระหว่างที่มีการขานชื่อโหวตนายกฯนั้น สมาชิกวุฒิสภาหลายรายที่กล่าวโหวตเสร็จแล้ว ได้ทยอยเดินออกจากสภาฯ และเดินทางกลับทันที โดยพบว่าส.ว.กิตติศักดิ์ ได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที หลังโหวตไม่เห็นชอบนายพิธา เป็นนายกฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น