ศปปส. หอบหลักฐานเอาผิด 3 ราย โพสต์หมิ่นฯสถาบันผิด ม.112

วันนี้ ( 14 ก.ค.) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
เมื่อเวลา 13.30 น. นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำหลักฐานการโพสต์เฟซบุ๊กของบุคคลที่มีความเห็นแตกต่าง 20 โพสต์ จาก 3 บัญชี เข้าพบ พนักงานสอบสวน กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (กก.3 บก.ปอท.) เพื่อเสนอให้ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตรวจสอบและดำเนินคดีตาม ป.อาญามาตรา 112

นายอานนท์ กล่าวว่า วันนี้ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน และ นักรบเลือดสีน้ำเงิน รวบรวมหลักฐานที่มีผู้กระทำผิดมาตรา 112 จากในโซเชียลฯ จำนวน 20 โพสต์ จาก 3 รายชื่อ เข้าแจ้งพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ตรวจสอบและดำเนินคดีตามความผิดดังกล่าว โดยโพสต์ที่เราพบเจอและรวบรวมมาร้อง ปอท.ให้ดำเนินคดี ม.112 วันนี้เป็นโพสต์ด้วยถ้อยคำรุนแรงหยาบคายทั้งสิ้น ไม่ใช่เป็นการแสดงความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต ตนอยากฝากทุกฝ่ายว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล กฎหมายมาตรา 112 จะต้องคงอยู่กับประเทศไทย เพื่อปกป้องพระมหากษัตริย์เหมือนเดิมตลอดไป วันนี้ศูนย์รวมประขาชนปกป้องสถาบันจะยังคงดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไปในเรื่องแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่โพสต์จาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงในโซเชียลฯ

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้กลุ่มเห็นต่าง ชอบใช้วาทกรรมว่า การใช้มาตรา 112 เป็นการกลั่นแกล้งคนเห็นต่างทางการเมือง ซึ่งจริงๆ ไม่เกี่ยวข้องการเมืองแต่อย่างใดเลย มาตรา 112 อยู่ในหมวดของความมั่นคง บุคลที่เราพบว่ากระทำผิดตามมาตรา 112 จะมีการรวบรวมหลักฐานมอบให้พนักงานสอบสวน โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรอง ตรวจสอบแต่ละโพสต์ว่ามีความผิด หรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องไปหาหลักฐานมาเพิ่มเติม จากนั้นจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนพิจารณาคดีอีกครั้งซึ่งกว่าแต่ละคดีจะขึ้นสู่ชั้นพิจารณาของศาลได้ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ตนเชื่อว่ามาตรา 112 จะไม่มีการกลั่นแกล้งทางการเมืองกับใครทั้งสิ้น

กรณีก่อนหน้านี้ ตำรวจ บก.ปอท. จับกุมดำเนินคดี นักเคลื่อนไหวทางการเมืองรายหนึ่ง (จินนี่) ตามความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ไลฟ์สด ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาเข่าข่ายผิดกฎหมาย เมื่อเดือนพ.ค.65 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินการของศปปส. ยืนยันว่า ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งนักกิจกรรมทางการเมืองรายนั้นแน่นอน การตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน ก็ต้องใช้ระยะเวลานานเป็นปีกว่า คดีจะขึ้นสู่ศาล ตัวผู้ต้องหาเองก็มีสิทธิที่จะประกันตัวไปต่อสู้คดีได้ตามพยานหลักฐานที่เขามี เราคนมาแจ้งความเองก็จะต้องไปขึ้นเบิกความในศาลตามความเป็นจริง

ตนตักเตือนบุคคลที่เห็นต่างและ แสดงออกด้วยการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงมานานกว่า 3 ปีแล้ว ก็ยังมีคนที่จาบจ้วงอยู่ทุกวันๆ ไม่ใช่ว่าเราจะจ้องเอาคนเหล่านั้นมาแจ้งความหมดทุกราย บางคน เช่น เด็กและเยาวชน เราคำนึงถึงอนาคตของเขา เราจะเข้าไปตักเตือนก่อนเสมอขอให้หยุดกระทำ แต่ถ้าเตือนครั้งแรกแล้วยังไม่หยุดก้ต้องแจ้งความดำเนินคดี จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่หลงผิด ไม่รู้ความจริง ว่า การโพสต์อะไรจะเข้าข่ายผิด ม.112 หรือไม่ ถ้ามีความหมิ่นเหม่แล้วขออย่ากระทำเลย ถ้า ศปปส.เราตรวจพบเราก็จะต้องเอามาแจ้งความทุกราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง