“ส.ว.ประพันธ์” ยัน Top News เสนอโหวต”พิธา” ซ้ำไม่ได้

"ส.ว.ประพันธ์" ยัน Top News เสนอโหวต"พิธา" ซ้ำไม่ได้

15 ก.ค.66 นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภาและนักกฎหมายชื่อดังให้สัมภาษณ์กับ Top News ว่า ประธานสภามีหนังสือนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 19 กรกฎาคมที่จะถึงนี้หากพรรคก้าวไกลจะเสนอญัตติที่ลงมติและตกไปแล้วกลับมาเสนออีกไม่ได้ เพราะขัดกับข้อบังคับข้อ 41 เว้นแต่มีเหตุและพฤติการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ประธานสภาอาจจะนำมาพิจารณาได้แต่การจะเสนอนายพิธา ขึ้นมาอีกครั้ง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่พิจารณาไปแล้ว จึงจบไปแล้ว ถ้าเสนอมาไม่เข้าข้อบังคับ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ สภาก็ไม่สามารถโหวตได้ หากเถียงว่าสามารถโหวตใหม่ได้ ก็จะเกิดการเสนอให้ลงมติ ว่าเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาคิดเห็นอย่างไร เพราะประธานสภาไม่มีอำนาจวินิจฉัย ไม่ใช่ประธานมีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว ต้องถือมติของรัฐสภา ถ้ามติบอกว่าญัตติตกไปแล้วก็โหวตไม่ได้

ขณะเดียวกัน เป็นช่วงที่ต้องจับตาระหว่างนั้น ศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัย ให้นายพิธาหยุดปฎิบัติหน้าที่ด้วยซ้ำไปเพราะคดีที่กกต. ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญรับไว้แล้วซึ่งจะมีการประชุมในวันเดียวกันนั้น คาดว่าในช่วงบ่ายก็จะทราบผล

ทั้งนี้ที่ผ่านมาทุกกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณาคดีลักษณะอย่างนี้ เคยสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ทั้งหมดแล้วทุกราย ทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม รวมไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมด้วย สั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ทุกคนไม่เว้นใคร เพราะฉะนั้นกรณีของนายพิธาก็ไม่พ้นจากหลักเกณฑ์นี้ เพราะเป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้กับนักการเมืองทุกคน จึงไม่มีเหตุอันสมควรจะเสนอญัตติซ้ำอีกครั้งให้มาพิจารณานายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนจะเป็นพรรคการเมืองลำดับที่ 2 เสนอชื่อโดยชอบธรรมเลยหรือไม่ ก็ให้ไปว่ากันตามกระบวนการรัฐสภา แต่ต้องให้สิ้นกระแสความไปก่อนว่า ชื่อนายพิธาไม่มีโอกาสกลับมาโหวตได้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องของพรรคการเมือง และส.ส.ในการพูดคุยรวมเสียงกัน เพื่อสนับสนุนใครขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็มีการเสนอขึ้นมาใหม่ถ้าเป็นแบบนั้นถึงจะสามารถโหวตใหม่ได้ ซึ่งในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ สภาต้องรับญัตติเสนอนายพิธาเข้ามาก่อนจึงจะสามารถโหวตในวันนั้นได้ หากไม่มีการเสนอญัตติเข้ามาก็ไม่มีเรื่องให้พิจารณา ก็ต้องรอกันต่อไปอีกคาดว่า1-2 สัปดาห์ให้เวลาพรรคการเมือง และส.ส. 500 เสียงในสภาไปรวมเสียงกันใหม่ ว่าใครจะเสนอใครเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ว่ากันเอง

“เมื่อนายพิธาไปไม่ได้แล้วก็ต้องเป็นโอกาสของคนอื่น พรรคการเมืองอื่น กติกาว่าไว้อย่างนั้น ไม่ใช่ว่าประเทศนี้ต้องให้นายพิธาคนเดียว ถ้าไม่มีนายพิธาเป็นนายกฯประเทศจะล่มสลายหรือเปล่า ไม่ใช่ ยังสามารถมีคนอื่นมาเป็นนายกฯ ได้และอาจจะเป็นได้ดีและเก่งกว่านายพิธาด้วยก็ได้”

ทั้งนี้ต้องพิจารณาอีกครั้ง หากพรรคอันดับ2 คือพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเพราะตอนนี้ยังมองไม่ออกและมองไม่เห็นว่าจะมีพรรคไหนจับมือกับใครบ้างและจะเสนอใครเป็นนายกฯ ซึ่งต้องขอดูข้อมูลข้อเท็จจริงในตอนนั้นถึงจะสามารถออกความเห็นได้เพราะยังไม่เกิดขึ้น ยังมีความไม่แน่นอน แต่ที่แน่นอนคือการไม่เห็นชอบของสภาให้นายพิธาเป็นนายกฯ และก็ไม่เห็นชอบนโยบายของพรรคก้าวไกลด้วยเพราะมีนโยบายที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แถมตัวบุคคลก็มีบุคลิกลักษณะเป็นผู้นำที่มีปัญหาต่อประเทศ ทั้งขาดคุณสมบัติแนวทาง วิธีคิด เป็นอันตราย พฤติกรรมที่ ไม่สร้างความสามัคคี มีหลายองค์ประกอบว่านายพิธาไม่เหมาะสม สมาชิกจึงไม่เห็นชอบ หากแกนนำจัดตั้งรัฐบาลยังมีพรรคก้าวไกลรวมอยู่ด้วยก็ต้องมา คิดพิจารณา ทบทวนอีกครั้ง ต้องรอให้มาถึงวันนั้นก่อนจึงจะบอกได้

ส่วนคำร้อง ที่ยื่นถึงศาลรัฐธรรมนูญมี2 คดี ในส่วนของคุณสมบัติส่วนตัวของนายพิธา กกต. เห็นว่าคุณสมบัติและสมาชิกภาพสิ้นสุดแล้วและคดีที่ 2 นายพิธาในฐานะหัวหน้าพรรคและพรรคก้าวไกลถูกร้องมีพฤติกรรมกระทำการใช้สิทธิเสรีภาพไปในทางที่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องไว้แล้ว ยอมรับว่าคดีนี้ศาลอาจมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคนี้ได้ เมื่อยุบพรรค ทั้งนายพิธา กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ทั้งหมดก็จะสิ้นสภาพด้วย โดยผู้ที่เป็นส.ส.สามารถย้ายพรรคได้ แต่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองประมาณ 10 ปีขึ้นไป

ถ้าหากศาลวินิจฉัยออกมาเป็นโทษแก่นายพิธาและพรรคก้าวไกล จะส่งผลให้มวลชนจำนวนมากออกมาลงถนนเกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า ประเทศไทยก็ผ่านการยุบพรรค มาหลายครั้งแล้ว การที่จะมาชุมนุมลงถนนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาได้ไม่สามารถทำให้คนที่ตายแล้วฟื้นคืนกลับมาได้มีแต่คนที่ออกมาชุมนุมจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายเพราะไม่เคารพกฎหมาย มาชุมนุมเพราะคัดค้านคำพิพากษาของศาล ก็จะล่วงละเมิดอำนาจศาลอีก ไม่มีเหตุผล เมื่อทำผิดกฏหมายก็ต้องว่าไปตามกฏหมาย ถ้าบ้านเมืองนี้ตกอยู่ภายใต้ความกลัว ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ไม่ว่าม็อบหรือมวลชนไม่มีใครกลัว แต่เขาจะกลัวอย่างเดียว คือม็อบหรือการชุมนุมที่มีความชอบธรรม เพราะมีรัฐบาลโกง ทุจริต ขายชาติ คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เสียเอง ประชาชนจะออกมาต่อต้าน นี่เป็นความชอบธรรมที่ประชาชนจะออกมาได้

“หัวหน้าพรรคตัวเองถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเพราะไปทำผิดกฎหมายแล้วไปเกณฑ์ประชาชนออกมาชุมนุมถึงบอกว่าเป็นการเท่ากับพาประชาชนไปตายขุดหลุมฝังศพตัวเอง ชุมนุมได้ทั้งนั้นเป็นสิทธิเสรีภาพแต่ต้องชุมนุมด้วยความเป็นธรรมภายใต้กฎหมายชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ แต่ถ้ามาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายใครจะไปกลัวคุณไม่มีใครกลัวเพราะกลไกอำนาจรัฐมีไว้จัดการคนละเมิดกฎหมายอยู่แล้ว” นายประพันธ์ ย้ำ


LOVE IS IN THE HAIR ผมสวยได้ทุกทรง
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 18 Jul – 31 Jul 2023

ลดเพิ่มสูงสุด 10% ไม่มีขั้นต่ำ
ลดเพิ่มสูงสุด 20% เมื่อช้อป 3,000.-

Code : MIDJUL
คลิกเพื่อช้อปได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/Hs3ST

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น