“ทิพานัน” ซัดชุดใหญ่ “พิธา” ไร้วุฒิภาวะผู้นำ ผิดจากตัวเอง โทษไปทั่ววืดนายกฯโดนกลั่นแกล้ง

“ทิพานัน” ย้อนถาม “พิธา” เป็นผู้นำที่มีวุฒิภาวะแบบไหนนำความสะเพร่าส่วนตนแต่ดึงมวลชนช่วยแก้ไข ย้ำจะเป็นนายกหรือมาเฟียโซเชียลอยู่ที่การกระทำ ชี้ช่วงเลือกตั้งบอก 300 นโยบายเท่ากัน แต่วันโหวตดึงดันแต่ม.112 ชวนประชาชนจับตา “พิธาที่มีแต่พิรุธ” ในอีกหลายคดี

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า การที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่านการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 นั้น เป็นขั้นตอนที่ไม่ว่าพรรคไหน คนไหน ก็ต้องผ่านขั้นตอนนี้ อันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ที่ได้เขียนไว้ก่อนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ซึ่งทุกพรรคการเมืองทราบเงื่อนไขและลงรับสมัครเลือกตั้งตามกติกาอย่างเท่าเทียมกัน และเมื่อผลการเลือกตั้งจบทุกพรรคการเมืองก็ต่างออกมายืนยันว่าให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ควรจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ไม่ใช่กล่าวโทษกลไกและกติกาที่ทราบดีและยอมรับก่อนเลือกตั้ง

“ซึ่งที่ผ่านมานายพิธาอาจรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรที่เป็นอุปสรรคในการรวมเสียงโหวตให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ไม่ได้ นายพิธาต้องพิจารณาตนเองว่ามีความรับผิดชอบในเรื่องคุณสมบัติและนโยบายที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ และส.ส.ได้หรือไม่ ซึ่งหากนายพิธารู้ก็ต้องไม่ละเลยจนนำไปสู่ความล้มเหลว อย่าทำตนเหมือนไร้วุฒิภาวะอันสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ และความผิดพลาดนี้อาจทำให้ประชาชนสงสัยได้ว่า แท้จริงแล้วมาเพื่อเป็นรัฐบาลตามเป้าหมายหรือมาเพื่อปั่นป่วนกันแน่” น.ส.ทิพานัน กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับการพาดพิงใดๆ ว่ามีการกลั่นแกล้งจากผู้รับผิดชอบตามกฎหมายกำหนดนั้น ก็ขอให้นายพิธาศึกษาข้อกฎหมายและระวังป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแบบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. เป็นคดีอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางโดยมีมูลเหตุมาจากเห็นว่ามีกระบวนการสืบสวนสอบสวนภายในที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการใช้กฎหมายกลั่นแกล้ง ซึ่งต่อมาศาลฯ ยกฟ้อง และนายธนาธรถูกเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต.ฟ้องกลับเพราะเป็นการกล่าวหาเท็จ จนนายธนาธรต้องโพสต์ข้อความขอโทษทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 65

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สิ่งที่นายพิธาควรทำคือการแก้ไขปัญหาอย่างมีวุฒิภาวะ มีสติปัญญา มีภาวะผู้นำ เช่นควรกลับไปบอกผู้ลงคะแนนเสียงให้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างตรงไปตรงมา หรือหากนึกไม่ออกก็อาจจะบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นความสะเพร่าของนายพิธาเอง ไม่มีผู้ใดกลั่นแกล้ง ทั้งการถือครองหุ้นสื่อที่ไม่ยอมจัดการให้เรียบร้อยก่อนสมัคร ส.ส.และสมัครเป็นแคนดิเดตนายก ทั้งการดึงดันหมกมุ่นเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปากท้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ทั้งที่ช่วงเลือกตั้งมีนโยบาย 300 นโยบายเพื่อความเท่าเทียมและเท่ากัน แต่หลังเลือกตั้งกลับให้ความสำคัญเพียงแต่มาตรา 112 ดื้อดึงดันจนละเลยคะแนนเสียงของผู้สนับสนุนที่ลงคะแนนให้จากการชอบนโยบายอื่นไปหมดสิ้น

“และสิ่งที่อยากแนะนำ คือ อย่าไปหลงเชื่อผู้ที่อยากให้นายพิธาไปปลุกระดมมวลชนจนนำมาซึ่งสถานการณ์ที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ จนมาซึ่งประชาชนราว 67 ล้านคนที่เฝ้ามองการกระทำของนายพิธาว่าจะมีวุฒิภาวะแบบนายกรัฐมนตรีในฝันหรือจะไปเป็นมาเฟียโซเชียล ซึ่งพฤติกรรมการบริหารจัดการของนายพิธาก็ต้องชวนประชาชนร่วมกันตรวจสอบเพราะนายพิธาที่มีแต่ข้อพิรุธอีกหลายกรณีมาก และสุดท้ายหวังว่านายพิธาจะมีวุฒิภาวะที่ดี เดินหน้าแก้ไขในสิ่งที่ตนเองผิดพลาดในเร็ววัน เพื่อสานฝันเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ” น.ส.ทิพานัน กล่าว


LOVE IS IN THE HAIR ผมสวยได้ทุกทรง
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 18 Jul – 31 Jul 2023

ลดเพิ่มสูงสุด 10% ไม่มีขั้นต่ำ
ลดเพิ่มสูงสุด 20% เมื่อช้อป 3,000.-

Code : MIDJUL
คลิกเพื่อช้อปได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/Hs3ST

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น