จอห์น เคอร์รี เดินทางไปจีนหารือเรื่องสภาพอากาศอีกครั้ง หลังการเจรจาหยุดชะงักจากการที่แนนซี เพโลซีเยือนไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว
จอรห์น เคอร์รี ทูตด้านสภาพอากาศของสหรัฐได้เดินทางไปจีน เพื่อพบกับ นายเซี่ย เจิ้นหัว ผู้แทนพิเศษด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของจีน และประธานองค์กรริเริ่มดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศสากล เพื่อเริ่มการเจรจาทวิภาคีด้านสภาพอากาศที่หยุดชะงักเมื่อปีที่แล้ว หลังจากแนนซี เพโลซี ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันและทำให้จีนไม่พอใจ
การเริ่มการเจรจาเรื่องสภาพอากาศระหว่างสหรัฐ-จีนอีกครั้งจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก และเกิดขึ้นหลังการเยือนของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน
ฝ่ายบริหารของไบเดนกล่าวว่า ความร่วมมือด้านปัญหาสภาพอากาศ เป็นพื้นที่สำหรับความร่วมมือที่มีศักยภาพกับจีน แม้ว่าจะมีความตึงเครียดระหว่างกันในด้านอื่นๆก็ตาม ส่วนกระทรวงต่างประเทศระบุว่า การเยือนจีนของเคอร์รีในครั้งนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มความร่วมมือ และส่งเสริมการประชุม COP28 ซึ่งเป็นการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีสมาชิกเกือบ 200 ประเทศเข้าร่วม อีกทั้งคาดว่า เคอร์รีจะพยายามเรียกร้องให้จีนมีบทบาทมากขึ้น ในการสนับสนุนทางการเงินเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับนานาชาติ ตามการเรียกร้องก่อนหน้านี้ของนางเยลเลน
ทั้งนี้ในฐานะผู้ผลิตก๊าซเรือนกระจกหลักของโลก จีนได้ให้คำมั่นว่าจะปล่อยคาร์บอนสูงสุดภายในปี 2573 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งหมดภายในปี 2560 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศจะลดการใช้ถ่านหินตั้งแต่ปี 2569 แต่ในเดือนเมษายนนี้ จีนใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่กรีนพีซกล่าวว่า จีนให้ความสำคัญกับการจัดหาพลังงานให้พอใช้มากกว่า ยึดมั่นคำสัญญาการลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกังวลว่า จีนจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ตามที่ประกาศไว้