“ชัชชาติ” รับลูกชายใช้คำไม่เหมาะ วิจารณ์แรงก้าวไกล ชี้ต้องกล้ารับบทเรียนครั้งใหญ่

หลังจากที่นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือ แสนดี บุตรชายนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ลงในสตอรี่อินสตราแกรม ระบุว่า “ถึงพรรคก้าวไกล ขอบอกตรงๆ นะครับ ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแนวร่วมเดียวกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้ว่า

1.การแก้ไขมาตรา 272 ไม่มีวันจะเกิดขึ้น

2.การแก้ไขกฎหมายที่เป็นข้อขัดแย้ง ไม่มีวันจะเกิดขึ้น

3.พิธาจะไม่มีวันได้เป็นนายกฯ

4.ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะโหวตยังไง คุณก็ไม่มีวันชนะ

5.ก้าวไกลไม่ได้ชนะแบบแลนด์สไลด์ ก้าวไกลมีคะแนนมากกว่าเพื่อไทย 10 คะแนน คุณไม่ชนะรอบแรก โอกาสของคุณหมดไปแล้ว

6.วุฒิสมาชิกและประชาชน ไม่สนใจเสียงประท้วงหรือเสียงร้องเรียนของพวกคุณหรอก เพราะยังไงพวกเขาก็จะอยู่ในวาระอีก 1 ปี เลือกตั้งรอบหน้าพวกคุณต้องทำให้ได้ 65% เหมือนปี 2548 ที่ไทยรักไทยชนะ และผมอาจจะพิจารณาอีกที

7.คุณไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่น่าจะเป็นไปได้ ธุรกิจต่าง ๆ ไม่ต้องการให้คุณเป็นรัฐบาล เกษตรกรต้องการนโยบายที่จ่ายเงินโดยตรง ไม่ใช่พวกอุดมการณ์เรื่องเพศพวกนั้น

8.สรุปคือไม่มีใครต้องการให้คุณเป็นรัฐบาล มีแค่พวกเด็กเหลือขอ และเด็กที่ไม่เชื่อฟังเท่านั้น

9. พรรคของคุณอายุเพียง 2 ปี พวกคุณมัวแต่ทำอะไรอยู่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีแค่คดีฟ้องร้อง คนระดับหัวหน้าพรรค 3 คนก็ถูกสั่งจำกัดสิทธิการเมืองไป 10 ปี และพิธาก็อาจโดนเหมือนกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้นายแสนปิติ ยังโพสต์อีกว่า “พูดให้ชัดขึ้น ผมคิดว่านโยบายพรรคก้าวไกลเป็นอะไรที่มีความเป็นไปได้ มีการเปลี่ยนแปลง และมีความสร้างสรรค์ ผมแค่ไม่ต้องการผู้นำหรือผู้คนที่เกี่ยวพันกับการประท้วงในปี 2563 ทั้งหมด ผมยังคงมีจุดยืนมากๆ เรื่องของการโปรประชาธิปไตย และไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยจับมือกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ, อนุทิน ชาญวีรกูล และรวมไทยสร้างชาติ ผมแค่ไม่เห็นด้วย เราทุกคนล้วนมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกัน สำหรับประเทศไทยตอนนี้”

ต่อมาได้มีคอมเมนต์จากชาวโซเชียลและกองเชียร์ก้าวไกล เข้ามาคอมเมนต์ในอินตราแกรมของนายแสนปิติเป็นจำนวนมาก ทั้งมีถ้อยคำบูลลี่ ไม่เหมาะสม ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจลบโพสต์ไอจีของตัวเองนั้น

ล่าสุดทางด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ถึงกรณีนายแสนปิติ ลูกชาย โพสต์ข้อความวิจารณ์พรรคก้าวไกลและคนที่เลือกพรรคก้าวไกลว่า ตนทราบเรื่องเพราะมีคนส่งไลน์มาให้ ตนไม่ได้เล่นอินสตราแกรม ซึ่งตนก็ตกใจ ตนก็ได้ไลน์บอกแสนดีว่าใจเย็น ๆ อย่าไปโพสต์อะไรเลยเรื่องการเมือง แต่ก็บอกว่ายังไงพ่อก็ซัพพอร์ตแสนดี อย่างไรก็ตามจะเอาคำว่าเด็กมาอ้างไม่ได้ เพราะอายุ 23 ปีแล้ว ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้เห็นด้วยกับทุกอย่างที่เขาพูด บางอย่างก็อาจจะใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เราอยากให้เขาพูดเรื่องที่สร้างสรรค์ อย่าไปพูดเรื่องไม่ดีของคนอื่น ซึ่งก็เป็นแนวที่เราปฏิบัติมาตลอด ก็คงต้องคุยกันพ่อลูก บางทีตนอาจจะไม่ค่อยได้คุยกับเขามากช่วงนี้ ก็คงต้องใช้เวลากับเขามากขึ้น

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ตนเองก็คงมีส่วนผิดที่ไม่ค่อยได้คุยกับเขาในเรื่องนี้ แต่ก็ดีใจที่เขาโพสต์ขอโทษ ซึ่งตนไม่ได้บอกเขาให้ขอโทษ บอกเพียงว่าแล้วแต่ลูกตัดสินใจเลย แต่ถ้ารู้สึกไม่เหมาะสมก็ขอโทษ ให้เขาตัดสินใจเอง เมื่อเขาขอโทษตนก็สบายใจขึ้น เช้าวันนี้ก็คุยกันตั้งแต่เช้าที่บ้าน เขาก็เสียใจ และคงไม่โพสต์อะไรในช่วงนี้ เป็นบทเรียนสำคัญทั้งพ่อทั้งลูก เมื่อคืนตนไปดูเขาก็นอนหลับ นอนกอดโทรศัพท์ คงฟังคอมเมนต์จนมึน จนหลับไปเลย แต่ก็อาจจะดีอย่างเขาอ่านภาษาไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง

ทั้งนี้ก็เป็นบทเรียนที่มีค่า ตนคงขอโทษแทนเขาไม่ได้ แต่คงต้องขอโทษในส่วนที่ตนบกพร่องไป ในแง่ของการไม่คุยกับเขาให้เยอะ แต่ถ้าเราอ่านจากที่เขาเขียน เขาก็พยายามเขียนตามความรู้สึกเขาจริง ๆ ส่วนจะเป็นเพราะเรื่องวัฒนธรรมที่แสนดีไปอยู่ต่างประเทศหรือไม่นั้น เขาไปเรียนแค่ 3 ปีเอง อยู่เมืองไทยเยอะกว่า คงอ้างไม่ได้ รวมถึงอ้างเรื่องเป็นเด็กไม่ได้ ต้องรอบคอบกว่านี้ คำพูดเป็นนายเรา