UNESCO ประกาศ รับรอง "อุทยานธรณีโคราช" เป็นอุทยานธรณีโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวนำรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน
ข่าวที่น่าสนใจ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ว่า ได้รับทราบกรณีที่ “อุทยานธรณีโคราช” ได้รับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks)
ซึ่งการได้เป็นสมาชิกอุทยานธรณียูเนสโกครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติเพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านคุณค่าของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและด้านการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวนำรายได้สู่ชุมชน ท้องถิ่นและประเทศ
ประชาชนในพื้นที่มีงานทำ เกิดรายได้และความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนให้ประชากรในพื้นที่เกิดจิตสำนึก ในการอนุรักษ์ หวงแหน ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างยั่งยืน และยังเป็นแหล่งศึกษา วิจัย ของนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการเสนออุทยาน ธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกต่อสำนักเลขาธิการยูเนสโก เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน (ตามความเห็นชอบของ ครม. เมื่อ 19 พ.ย. 62)
ต่อมายูเนสโกได้ประเมินคุณค่าทางวิชาการด้านธรณีวิทยาของอุทยานธรณี โคราช พบว่า มีความสำคัญโดดเด่นระดับโลก และได้ส่งผู้ประเมินภาคสนามมาตรวจประเมินระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย. 65 เพื่อนำเสนอรายงานแก่สภาอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก และได้รับการรับรองจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก ในการประชุมเมื่อวันที่ 10-24 พ.ค. 66 ณ องค์การยูเนสโกสำนักงานใหญ่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
หลักเกณฑ์การเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกนั้น มีหลายข้อด้วยกัน อาทิ
- ต้องเป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นหนึ่งเดียว หรือเป็นสถานที่ซึ่งอาจมีเพียงที่เดียว
- มีลักษณะทางภูมิทัศน์ที่มีความสำคัญทางธรณีวิทยาโลก
- มีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบริหารจัดการมากขึ้น
- เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายอุทยานธรณีโลก (Global Geopark Network :GGN) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล แบ่งปันประสบการณ์ ดำเนินโครงการหรือกิจการรมร่วมกันในเครือข่าย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หลังจากมีสถานะเป็นอุทยานธรณีโลกแล้ว ภายใน 4 ปี จะต้องได้รับการประเมินอีกครั้ง เพื่อรักษาคุณสมบัติและคุณภาพของอุทยาน โดยหากผ่านเกณฑ์ก็จะได้รับการต่ออายุคราวละ 4 ปี แต่หากไม่ผ่านหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการบริหารอุทยานธรณีโลกต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามขั้นตอนและข้อเสนอแนะของยูเนสโกให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี หากไม่ดำเนินการก็จะถูกถอนออกจากการเป็นอุทยานธรณีโลกต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากได้รับการรับรองครั้งนี้แล้ว จะทำให้ประเทศไทยมีอุทยานธรณีโลก จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
- อุทยานธรณีโลกสตูล ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 61
- อุทยานธรณีโลกโคราช
มีอุทยานธรณีประเทศไทย 3 แห่ง ได้แก่
- อุทยานธรณีผาชัน
- สามพันโบก (จ.อุบลราชธานี)
- อุทยาธรณีเพชรบูรณ์
- อุทยานธรณีขอนแก่น
ซึ่งปัจจุบันอุทยานธรณีขอนแก่นอยู่ระหว่างขอรับรองเป็นอุทยานธรณีโลก
รู้จัก “อุทยานธรณีโคราช”
- มีพื้นที่ครอบคลุม 5 อำเภอ คือ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ
- มีแหล่งธรณีวิทยา แหล่งธรรมชาติ และแหล่งวัฒนธรรมในพื้นที่จำนวน 35 แหล่ง
- ในจำนวนนี้เป็นแหล่งธรณีวิทยาที่มีคุณค่าระดับนานาชาติ 4 แหล่ง ได้แก่
- แหล่งอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินฯ
- แหล่งไดโนเสาร์อิกัวโนดอนพันธุ์ใหม่ของโลก
- แหล่งฟอสซิลช้างดึกดำพรรพ์
- แหล่งฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
- นอกจากนี้ ยังมีภูมิประเทศเชาเควสตาแบบคู่ (เควสตาโคราช) ซึ่งเป็นภูเขามีลักษณะคล้ายมีดอีโต้ ที่นับว่ายาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
- ตลอดจนมีโบราณสถาน วัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชนและความหลากหลายทางชีวภาพที่สอดคล้องกับแนวทางการเป็นอุทยานโลกของยูเนสโก
Office Mate : IT Magazine – Mouse & Keyboard : คลิกที่นี่
- อุปกรณ์เสริมคอมฯ ครบเซ็ท ลดจัดหนักสูงสุด 75%* + ของแถมฟรี กระเป๋าผ้าสุดคิ้วท์ มูลค่า 199.-
- ราคาพิเศษเฉพาะออนไลน์
- ซื้อครบ 499.- ส่งฟรี*
ข่าวที่เกี่ยวข้อง