สถาบันราชานุกูล ตั้งอยู่ตรงหัวมุม สี่แยกประชาสงเคราะห์ เป็นหน่วยงานที่ดูแลผู้ป่วย เด็กพิการซ้ำซ้อน และยังปรับเป็นโรงพยาบาลสนามผู้ป่วย covid-19 สำหรับเด็กพิการซ้ำซ้อน ทุกครั้งที่ผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ากระชับพื้นที่ ผู้ชุมนุมก็มักจะถอยร่นจากแฟลตดินแดงเข้ามาจนถึงแยกประชาสงเคราะห์ จากนั้นก็มีการเผาทรัพย์สินทางราชการต่างๆ ทั้ง แท่งแบริเออร์ ทำลายป้อมยาม ปาประทัด จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงกระสุนยางหรือแก๊สน้ำตาใส่อยู่เป็นประจำ ทำให้ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
แพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล บอกว่า การชุมนุมในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด โดยเฉพาะน้องๆ ที่พิการซ้ำซ้อนที่สถาบันดูแลรักษาอยู่เมื่อมีเสียงดัง น้องๆจะแสดงอาการเกรี้ยวกราด กรีดร้อง บางรายถึงกับลงไปชัก ซึ่งพฤติกรรมที่แสดงออกมา เป็นเพราะว่าน้องๆไม่สามารถพูดออกมาได้ เจ้าหน้าที่และผู้ปกครองต้องคอยปลอบโยน ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน บางคนไม่สามารถเดินทางมาเข้าเวรทำงานได้ บางรายมีอาการแพ้แก๊สน้ำตา ที่ผ่านมาก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดินแดงให้เข้ามาช่วยดูแล แต่ก็เข้าใจว่ากำลังเจ้าหน้าที่ค่อนข้างน้อย จึงต้องให้ รปภ.คอยดูแลอีกทาง
ขณะเดียวกัน สถาบันราชานุกูล ก็ยังได้ทำโรงพยาบาลสนามสำหรับน้องๆพิการซ้ำซ้อนที่ติดเชื้อโควิด 19 ก็ต้องมีพ่อแม่มาอยู่ด้วย ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชุมนุมไม่ต่างกัน โดยพยาบาลวิชาชีพที่ดูแลผู้ป่วย covid-19 บอกว่า เหตุปะทะอยู่ห่างออกไปแค่ช่วงกำแพงกั้น ก็จะได้ยินเสียงค่อนข้างชัด ทั้งเสียงระเบิด กลิ่นควันไฟจากการเผา เจ้าหน้าที่ก็มาทำงานลำบาก ส่วนน้องๆที่ต้องรักษาตัวอยู่ก็ตกใจ แต่น้องๆไม่สามารถพูดออกมาได้ก็ต้องคอยดูแลปลอบโยนกันไป
ผู้สื่อข่าวได้วีดีโอคอลพูดคุยกับคุณแม่ของน้องที่พิการซ้ำซ้อนแล้วก็ติดเชื้อ covid19 ด้วย แต่เป็นอาการที่อยู่ในระดับสีเขียว ซึ่งตัวคุณแม่ก็ติดเชื้อเช่นเดียวกัน โดยมารักษาที่สถาบันราชานุกูลแห่งนี้บอกว่า ลูกสาวป่วยพิการซ้ำซ้อนเดินไม่ได้ พูดไม่ได้และติดเชื้อโควิด ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงประทัด ลูกสาวจะกรีดร้องตกใจกลัวและมีอาการชักเกร็ง แม่จึงเข้าไปปลอบให้อาการ ทุเลาลง