ถึงเวลาถีบหัวส่ง…”ก้าวไกล”

เล่นละครการเมืองกันมาน ใกล้ถึงตอนอวสานถึงเวลาเพื่อไทยถีบหัวส่ง พรรคเทวดาก้าวไกล "ย้ายขั้ว-สลับข้าง" ไปเป็นรัฐบาล ก้าวไกลยังดื้อแม้ถอยหลังเทเก้าอี้นายกฯให้เพื่อไทย แต่ยังขอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่จนกว่าจะรื้อล้างรัฐบาลเก่าถอนอำนาจ 3 ป.ให้หมดไป เศรษฐาระบุมี 112 ไปต่อไม่ได้ เสรีพิศุทธ์ขอก้าวไกลถอยไปเป็นฝ่ายค้าน ด้านพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน "ภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ-ชาติไทยพัฒนา" ออกแถลงการณ์ยี้ก้าวไกล ประกาศเสียงดังฟังชัด "มีมึงไม่มีกู" ไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับก้าวไกล ตราบใดมีพรรคส้มล้มเจ้าอยู่จะไม่ยอมร่วมงานด้วย

หลังจากที่เล่นละครการเมืองให้คนไทยดูกันมานานกว่า 2 เดือน นับตั้งแต่ทราบผลการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค.2566 ถัดจากนั้น 4 วัน ก่อนประกาศจับมือ 8 พรรค เพื่อจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ เมื่อ 18 พ.ค.2566 ณ โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ เรื่อยมาจนถึงการลงนามในสัตยาบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) 23 ข้อ 5 แนวทางปฏิบัตของ 8 พรรคการเมือง เมื่อ 22 พ.ค.2566 ณ โรงแรมคอนราด แกนนำสองพรรคอันดับ 1 กับ อันดับ 2 คือ ก้าวไกลกับเพื่อไทยก็กระหนุงกระหนิงแสดงออกหวานชื่นกันมาตลอด อย่างที่เราเห็นปรากฎในภาพข่าวหมอชลน่านกอดพิธา มีการเปรียบเปรยว่าสองพรรคใหญ่เหมือนเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว หมั้นกันแล้วไม่มีทางที่จะแคล้วจากกัน เวลาผ่านไป 60 กว่าวันบอกได้เลยว่าระหว่างทางของก้าวไกลกับเพื่อไทย มีอุปสรรคมีปัญหาขัดแย้งขบเหลี่ยมกันมาตลอด พูดจาภาษาชาวบ้านตั้งแต่หลังเลือกตั้งก็ “กัดกันยังกะหมา”

ย้อนอดีตก็ตั้งแต่เริ่มต้นลงสัตยาบัน 23 ข้อ สองพรรคส้มแดงคุยกันเกือบตายกว่าจะถอดสลักเอาเรื่อง ม.112 ออกจากเอ็มโอยูได้ เพราะอย่างที่รู้ก้าวไกลอยากใส่เรื่องนี้ไว้ต้นๆรองจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็น MOU ข้อแรกเลยเพื่อประกาศให้รู้จุดยืนและนโยบายแรกๆที่จะทำแต่เพื่อไทยไม่ยอมไม่งั้นจะไปยอมลงนามตั้งรัฐบาลด้วยที่สุดเรื่อง 112 เลยถูกดึงออกไป ถัดมาก็ฟัดกันเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ก้าวไกลอยากได้คนของตัวเองอยากเสนอ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นประธานสภาเพราะจะได้คุมเกมในการเสนอชื่อนายกฯการคุมเรื่องของการแก้ไขกฎหมายในสภา

แต่ฝ่ายเพื่อไทยก็อยากเสนอชื่อ “ตี๋กร่าง+พ่อมดดำ” สุชาติ ตันเจริญ ขึ้นเป็นประธานเช่นกัน เรื่องนี้ก็โดนเพื่อไทยชิงเหลี่ยมขวางทางอีกโดยอ้างว่าก้าวไกลมีเสียง 151 ได้ตำแหน่งนายกฯ ( ความจริงตอนนั้นยังไมมีการโหวตนายกฯ )ที่เป็นประมุขฝ่ายบริหารไปแล้ว เพื่อไทยก็ควรได้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติตามสูตร ก้าวไกล 15+1 นายกฯ เพื่อไทย 14+1 ประธานสภา เถียงกันเป็นบ้าเป็นหลังอยู่หลายวันต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดลาวาศอกกัน จนสุดท้ายตกยกตำแหน่งประธานสภาให้วันมูหะมัด นอร์มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่ใครๆก็รู้ว่าเนื้อในเป็นก๊วนแดงจ๋าเป็นเครือข่ายฝ่ายทักษิณที่แตกสาขาไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพราะชื่อทักษิณขายไม่ออกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องนี้ก้าวไกลก็เสียโง่เพื่อไทยไปอีกดอก

ถัดมาสดๆร้อนคือการโหวตเลือกนายกฯ 13 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา ถ้าใครตามตลอดจะเห็นชัดตอนตัวแทนเพื่อไทยคืออดิศร เพียงเกษ คนที่ด่าก้าวไกลมาตลอด คนที่อัดฝ่ายส้มว่าเป็นพระบวชใหม่พระอ่อนพรรษา ขึ้นพูดอภิปรายพิธาไปก็หัวเราะไป ดูก็รู้ว่า “ล้น” ว่าออก “โอเวอร์แอคติ้ง” คือไม่จริงใจไม่เนียน “โคตรปลอม” ปิดท้ายยังยกยอเอากลอนมาชื่นชมพิธา ใครดูอยู่ยาวๆวันนั้นก็จะรู้ว่าเพื่อไทยเล่นลิเกเอาใจพิธากับก้าวไกล พิธาได้เสียงเห็นชอบ 324 เสียง แม้ว่าเพื่อไทยจะยกมือเห็นชอบให้ทั้งหมดแต่พิธาก็ไม่ผ่านความเห็นชอบ แถมล่าสุด 19 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา ในการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 ก็มีประเด็นการทำหน้าที่ของวันนอร์ซึ่งถูกตั้งข้อครหาว่าไปไม่สุดทำไม่เต็มที่เสมือนหนึ่งอยากปิดเกมให้เส้นทางพิธาเป็นนายกฯจบไวๆ ไม่ยอมใช้อำนาจประธานวินิจฉัย ข้อบังคับการประชุมสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 41 ว่ามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปพิธายังโหวตนายกฯต่อในยก 2 ได้

มองในแง่ร้ายมีคนคิดว่าวันนอร์ปากว่าตาขยิบกับเพื่อไทย ปากก็บอกเป็นกลางแต่การทำหน้าที่ก็ไม่ได้เป็นบวกเป็นคุณกับพิธาและฝ่ายก้าวไกลเลย ถึงขนาดปิยบุตร แสงกนกกุล ตัวตึงก้าวไกลออกมาโพสต์เฟซ ถ้าประธานสภาเป็นปดิพัทธ์ชะตากรรมพิธาและโอกาสของก้าวไกลควงได้ลุ้นมากกว่านี้ ” หากปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นประธานรัฐสภา วันนี้ ผมมั่นใจว่า เขาจะกล้าใช้อำนาจประธานยืนยันว่า การเสนอชื่อนายกฯ ไม่ใช่ ญัตติ หรือต่อให้ลากไปเป็นญัตติซ้ำ แต่ก็มีข้อยกเว้นในข้อ 41 ตอนท้ายว่า เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เสนอซ้ำได้ ” ป็อกแป๊กหัวขบวนส้มระบายความในใจ เพราะประธานสภาใจไม่ถึงทำให้พิธาหลุดโค้งนายกฯไปโดยปริยาย

ถึงบอกว่าส้มกับแดงเสมือน “น้ำกับน้ำมัน” ไม่มีทางจะเข้ากันได้อย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้ตอนเลือกตั้งลองไปไล่ดูได้เลยว่าส.ส.เขตของเพื่อไทยส่วนใหญ่แพ้เลือกไม่ได้กลับมาสภาเพราะใครก็เพราะฝ่ายส้มล้มเจ้าก็เพราะพวกก้าวไกลทั้งนั้น สองพรรคเป็นศัตรูแย่งมวลชนฐานเดียวกัน ตอนนี้แดงโดนส้มแย่งคนรุ่นใหม่แย่งคนแก่แย่งคนเมืองแย่งคนเหนือแย่งคนอีสานไปเกือบหมด ในหัวใจของบรรดาส.ส.เพื่อไทยถามว่าเกลียดพรรคใดที่สุดอยากทำลายพรรคใดให้ย่อยยับที่สุดมองว่าพรรคใดเป็นศัตรูมากที่สุดก็ก้าวไกลคนใกล้ตัวนี้แหละที่เปรียบเสมือนหอกข้างแคร่ ที่เพื่อไทยถูกหยุดแลนด์สไลด์ก็เพราะโดนก้าวไกลนี้แหละขโมยซีนไปจาก 310 ที่นั่งที่เป็นเป้าหมายเหลือจริงได้มาแค่ 141 คนเท่านั้น ก่อนหน้านี้เพื่อไทยก็พยายามกัดฟันตีนเนียนเล่นตามบท “พระรอง” มาตลอด วันนี้บทหนังถูกเปลี่ยนใหม่ก้าวไกลถูกถีบไปเป็นตัวรอง  เพื่อไทยถูกชูขึ้นมาเป็นพระเอกรับบทนำ

มีหรือที่เพื่อไทยจะไม่เล่นการเมืองแบบล้างแค้น จัดการไฟสุมอกอย่างก้าวไกลให้ไปพ้นๆทาง กรณีพิธาถูกเขี่ยพ้นวงโคจรนายกฯไปแล้ว จากนี้เพื่อไทยถูกยกขึ้นมาเป็นแกนนำรัฐบาลแล้ว เกมมาอยู่ในมือเพื่อไทยแล้วจะเดินยังไงจะไปแบบไหนถึงจะได้อำนาจมาไว้ในมือ ล่าสุดชัยธวัช ตุลาธน เลขาฯฝ่ายส้ม ออกมาแถลงจะโหวตนายกฯให้กับเพื่อไทย แต่ยังสงวนท่าทีเกาะหลัง 8 พรรคเป็นแกนนำรัฐบาลต่อไป เพื่อไทยจะเอาไงต่อหากก้าวไกลไม่ยอมเกาะจากแผ่นหลังยังเกาะเป็นผีเหมือนหนังชัตเตอร์ต่อไปแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นล่าสุดบรรดาพรรคการเมืองในสารบบต่างออกมาประกาศจุดยืน “มีกูไม่มีมึง” แก้เผ็ดพวกล้มเจ้า เอาคืนพรรคชังชาติ โดดเดี่ยวพรรคเทวดา เพราะประกาศจุดยืนจะไม่ร่วมหัวจมท้ายเป็นรัฐบาลกับเพื่อไทยหากมีก้าวไกลอยู่ เรียงหน้ากันมาครบทั้งภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ฯลฯ เพื่อไทยจะเอาไงต่อ  รักษาภาพประชาธิปไตยจะไม่มีโอกาสได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ล่าสุดแม้แต่ตัว “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทยเองก็ออกมาบอกกลายๆว่าถ้ามีก้าวไกลไปต่อคงลำบาก แต่เลี่ยงบาลีเพื่อไม่ให้ผิดใจกับพรรคส้มในทำนองว่า ” ถ้ารัฐบาลยังมี ม. 112 ก็ไปต่อลำบากเพราะ ส.ส.กับ ส.ว.ไม่มีทางโหวตให้ ” ขณะที่ฝ่ายพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ถึงขนาดออกมาพูดชัดก้าวไกลต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่งั้นเพื่อไทยไปต่อไม่ได้ ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่มีวันเลิกราระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทยยังไงก็แยกทาง ละครใกล้ถึงตอนอวสาน ถึงเวลาเพื่อไทยถีบหัวส่งก้าวไกลให้ตายเดี่ยว ก่อนย้ายขั้วสลับข้างตั้งรัฐบาลใหม่บริหารประเทศ ตอนนี้ก็นับถอยหลังรอเวลาประกาศแยกทางกันก็เท่านั้นเอง เพื่อไทยอยากตายหมู่หรือปล่อยให้ก้าวไกลตายเดี่ยวไปคนเดียวก็คิดดู เพราะทำการเมืองแบบทำลายชาติทำร้ายสถาบัน ไม่มีฝ่ายใดพวกไหนองคาพยพใดในประเทศไทยจะเห็นดีเห็นงามด้วย

ล่าสุดที่ชัยธวัชออกมาแถลงวันนี้ก็ด่ากราดฟาดงวงฟาดงาไปถึงทุกกลุ่ม ” ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ชี้ชัดว่าทุกองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้งการเมืองจารีต ทุนผูกขาด และสถาบันองค์กรต่างๆ ที่เป็นบริวารแวดล้อมทั้งหมด ไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเอาเรื่องมาตรา 112 มาบังหน้า และอ้างความจงรักภักดีมาปะทะกับการเลือกตั้งของประชาชน นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหวังตัดสิทธิ์ทางการเมืองของแกนนำพรรค และยุบพรรคก้าวไกลให้ได้” พรรคเทวดาดีอยู่คนเดียว ทำผิดทำเลวทำอุบาทว์กับชาติบ้านเมืองกับคนไทยกับสถาบันไม่รู้เท่าไหร่แต่ไม่เคยคิดโทษตัวเองเลย โหวตให้ตายเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาลยังไงก็ไม่มีทางที่พวกคุณมึงจะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เพราะคนไทยที่รักชาติรักสถาบันจะไม่มีวันยอมพวกคุณมึง รอดูจุดจบก้าวไกลถูกยุบพรรคและถูกถีบไปเป็นฝ่ายค้าน
////////////////////////////

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น