"ถาวร" สอนมวย "ก้าวไกล" ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน ยกเลิก"กอ.รมน."

จากกรณีที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายรอมฎอน ปันจอร์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า การ ยุบ กอ.รมน. เริ่มนับหนึ่งแล้ว ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 พ.ศ. …. ถึงมือประธานแล้ว

นายรอมฎอน ยังระบุอีกว่า ทำงานต่อไม่รอแล้ว สันติภาพและความมั่นคงเป็นเรื่องของประชาชนพลเรือนมือเปล่าด้วยนะครับ วันนี้ที่สภาฯ มีการเคลื่อนไหวสำคัญเกี่ยวกับสันติภาพในชายแดนใต้ / ปาตานี ในหลายๆเรื่อง เรื่องแรกคือ การยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ด้วยการเสนอร่างกฎหมายอย่างเป็นทางการ ส่วนอีกเรื่องเป็นการเข้าชื่อเสนอญัตติให้สภาผู้แทนฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญว่าเรื่องการสร้างสันติภาพ ตอนนี้ลงนามโดย ส.ส.ก้าวไกล รวม 30 คนแล้ว (ต้องการอย่างต่ำ 20 มีคนที่ลงไม่ทันด้วย ต้องขออภัยด้วย)

ล่าสุด วันนี้ ( 21 ก.ค.) ทีมข่าวได้สอบถามมุมมองจากแหล่งข่าวที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งให้ทรรศนะว่า การเสนอยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ควรจะพิจารณารายละเอียดทั้งหมดเสียก่อน และจะต้องทำความเข้าใจถึงโครงสร้างให้ชัดเจน โดยตนมองว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีหน่วยงานหลักตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ฉะนั้น หากจะยุบหน่วยงานนี้ไปเลยก็จะมีผลเสียต่อกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่ตั้งอยู่ตามจังหวัดต่างๆ และกระทบไปถึงกำลังพลที่สังกัดอยู่ในหน่วยงานอีกด้วย

ฉะนั้น การยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในส่วนของข้อเสีย ไม่ควรที่จะยุบหน่วยที่อยู่ตามจังหวัดที่เป็นชายขอบของประเทศ ที่ยังมีความเปราะบางเรื่องความมั่นคง รวมถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงมีสถานการณ์ความรุนแรงต่อเนื่อง หากยกเลิกหน่วยไปก็จะเหลือแค่เพียงฝ่ายปกครองที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นคนควบคุมดูแล หากเกิดภัยทางความมั่นคง ฝ่ายปกครองจะประสานหรือผู้ว่าราชการจังหวัดจะสั่งให้หน่วยทหารเข้ามาช่วยเหลือได้ทันหรือไม่
และส่วนที่ควรยุบนั้น ตนมองว่า ควรเป็นจังหวัดที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของความมั่นคง หรือภารกิจที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงโดยตรง เช่น เรื่องการป้องกันการลักลอบตัดไม้ หรือเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ เรื่องของงบประมาณ ที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น ต้องให้มีการตรวจสอบที่ชัดเจน สังคมตรวจสอบได้ โดยเฉพาะงบประมาณหลัก ส่วนเรื่องของงบประมาณการข่าวของหน่วย ควรจะโอนให้หน่วยงานการข่าวของกองทัพ หน่วยข่าวกรอง หรือฝ่ายการข่าวของรัฐบาลมากกว่า รวมไปถึงงบประมาณลับที่เปิดเผยได้และไม่ได้ จริงๆแล้วไม่ควรจะปิดบัง หากยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ก็รอให้จบภารกิจจึงค่อเปิดให้สังคมรับทราบถึงงบประมาณลับเหล่านี้

ด้าย นายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยถึงการที่พรรคก้าวไกลเสนอร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นั้นเป็นการเสนอนโยบายในเชิงหาเสียงอย่างเดียวเพื่อให้ได้เสียงมากที่สุดกับคนบางกลุ่ม และไม่ได้ปูพื้นฐานความรู้ในทุกๆมิติให้แก่ประชาชน โดยที่ไม่สนว่าประเทศชาติจะเกิดอะไรขึ้น ตนจึงขออนุญาตสอนพรรคก้าวไกลว่า พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร วิวัฒนาการมาจากการแก้ไขปัญหาคอมมิวนิสต์ ซึ่งใช้ได้ประโยชน์มาแล้วในการใช้นโยบาย 66/23 พอเกิดปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดเหตุไม่สงบมีผู้คนล้มตายนับหมื่นคนและบาดเจ็บอีกหลายราย เจ้าหน้าที่รัฐจึงจะต้องบูรณาการความมั่นคง การพัฒนา และ การบรรเทาสาธารณภัย โดยระดมความร่วมมือจากทางภาครัฐจากทหาร, ตำรวจ, พลเรือน รวมไปถึงภาคประชาชน การเมืองท้องที่และท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีความอ่อนนุ่มไม่ใช่แข็งกระด้างมีทหารตำรวจอย่างเดียวที่ปฏิบัติหน้าที่ ใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แบบบูรณาการร่วมกันนำมาสู่การแก้ไขปัญหา เพราะฉะนั้นพรรคก้าวไกลควรกลับไปศึกษาให้ดีว่า การหาเสียงอย่างเดียวและยุยงส่งเสริมใช้เด็กเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การยกเลิกม.112 โดยที่ไม่ดูถึงผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตอนนี้พรรคก้าวไกลยังดูไร้เดียงสามากไป

ข่าวที่น่าสนใจ

สิ่งที่ควรจะยกเลิกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการพิเศษ นำไปสู่การทุจริต นั่นคือสิ่งที่พรรคก้าวไกลควรทำ หรือถ้าหากตรวจพบหน่วยงานราชการกระทำความผิดส่อทุจริตรังแกประชาชน ก็ลงไปตรวจดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอนกฎหมายตามหน้าที่ของฝ่ายค้าน และมีกฎหมายอีกฉบับหนึ่งคือ พ.ร.บ.อุ้มหาย หากอยากคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้ใช้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ที่ประกาศใช้ใน พ.ศ. 2565 มาคุ้มครองประชาชนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด “อย่าคิดจินตนาการให้สวยหรูโดยที่พวกคุณไม่ได้อยู่ในพื้นที่” และอยากขอท้าให้พรรคก้าวไกลไปปักหลักตั้งบก.ส่วนหน้าหรือที่ทำการพรรคส่วนหน้าอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มาปฏิบัติงานจริงจังอย่าพูดแต่หน้าสื่อ ซึ่งตนไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมาเคยลงพื้นที่ปฏิงานจริงมาแล้วหลายปีจึงทราบว่า ประชาชนประสบปัญหาและต้องการอะไร และจะเกิดอะไรขึ้นหาก กอ.รมน.ถูกยกเลิก กระบวนการติดอาวุธใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีไม่ต่ำกว่า 3,000 คน จะปฏิบัติการที่รุนแรงกับหน่วยงานภาครัฐและประชาชนที่ไม่เห็นด้วย และการอยู่ร่วมกันพหุวัฒนธรรมจะเปลี่ยนไปและขัดต่อพระราชดำรัสของในหลวงร.9 และร.10 ว่า “เข้าใจ เข้าถึง เข้าพัฒนา” จึงอยากให้ขอให้ยกเลิกการร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เสีย

อยากเสนอแนะสิ่งที่ควรดำเนินการแก้ไขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตนเคยลงพื้นที่สำรวจมาแล้ว 3 ข้อ คือ 1.เศรษฐกิจในครัวเรือน 2.ยาเสพติด และ 3.ด้านความปลอดภัยและความมั่นคง นี่คือ 3 ปัญหาที่จะต้องแก้ไขในตอนนี้ และอยากให้พรรคก้าวไกลจำใส่กระโหลกเอาไว้ “เข้าใจ เข้าถึง เข้าพัฒนา” คือหัวใจการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้

ทั้งนี้ นายถาวร ยังแนะนำให้พรรคก้าวไกล 1.อย่ายุให้เด็กกระดำความผิดเดี๋ยวจะถูกดำเนินคดี 2.จะแก้สิ่งไหนควรศึกษาเสียก่อน ควรไปปรึกษาพรรคเพื่อไทย เพราะพ.ร.บ. ฉบับนี้ถูกตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ.2551 โดย นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ กลับไปถามพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคพันธมิตรอยู่ในขณะนี้ว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่ร่างขึ้นเพื่อประโยชน์ใด 3.ไปสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยตนเองเพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง.