ภายหลังจากที่พรรคก้าวไกล แถลงยอมให้พรรคเพื่อไทย เสนอนายกรัฐมนตรีและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯคนที่ 30 ถือเป็นครั้งที่ 3 ในฝั่งของสมาชิกวุฒิสภามีความเห็นที่หลากหลาย
“สว.กิตติศักดิ์” ย้ำ หากเพื่อไทยยัง ร่วมหอลงโรง ก้าวไกล ไม่ยอมหย่ากัน ก็ไม่โหวตให้ทั้งคู่ ชี้ นโยบายก้าวไกลมีปัญหากระทบความมั่นคงหลายเรื่อง ขณะที่ “สว.พีระศักดิ์” ขอรอดู 27 ก.ค.นี้ก่อน เพื่อไทย เสนอใครนั่งนายกฯ ด้านหมอพรทิพย์ ยัน ขอปิดสวิซต์ต่อ
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ยืนยันชัดเจนหากทางเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลยังไม่ไปอำเภอเพื่อเซ็นใบหย่ากัน ตนก็ไม่โหวตให้แน่นอนเพราะ ไม่สามารถปล่อยให้ พรรคก้าวไกลมีอำนาจปกครองบ้านเมืองได้ เพราะกระทบต่อความมั่นคงหลายด้านตั้งแต่แก้มาตรา 112 แก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องแก้ รัฐธรรมนูญเพื่อ นิรโทษกรรม ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคก้าวไกลสนับสนุนให้เด็กเยาวชนกระทำความผิดกฎหมายละเมิด ม.112 ซึ่งไม่ขอก้าวก่ายพรรคเพื่อไทย ว่าจะไปรวมกับพรรคใดบ้างหากตัดก้าวไกลออกไปแล้ว เพราะถ้าหากตั้งเงื่อนไขจะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ทำให้ไม่มีนายกไม่มีรัฐบาลตรงนั้นเราไม่ทำ พร้อมยืนยันว่า หากพรรคเพื่อไทยยังมีพรรคก้าวไกลรวมเป็นรัฐบาล นายกิตติศักดิ์ก็ไม่เลือกไม่โหวตให้ถ้าบ้านเมืองไม่ถึงทางตัน สามารถที่จะเปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนพรรคที่พร้อมจะเป็นและพร้อมปกป้องไม่กระทบต่อมาตรา 112 ก็มีอยู่เยอะแยะหลายพรรค แต่ถ้ายังคิดว่ายังไงก็จะจะร่วมหอลงโรงอยู่กับพรรคก้าวไกล ตนก็ไม่โหวตให้ทั้งคู่ หากมีพรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะให้ผ่าน เพราะตนไม่มีธงใดๆ ทั้งสิ้น ไม่อยากก้าวก่าย
“ส่วนพรรคเพื่อไทยจะเสนอใคร ตั้งใครเป็นนายก ผมพร้อมจะสนับสนุนเพราะฉะนั้นบ้านเมืองจะติดขัดอยู่อย่างนี้ อาจเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ได้ และไม่อยากให้มีการเสนอนายกคนนอกเข้ามา ไม่อยากให้มีเหตุการณ์อย่างนั้น เพราะว่าในระบบมีคนดีที่มีคุณภาพพร้อมจะเป็นนายกได้อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่เลือกก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร” สว.กิตติศักดิ์ ย้ำ
ด้าน สว.พีระศักดิ์ พอจิต ซึ่งได้สนับสนุนนายพิธาตั้งแต่แรก เปิดเผยว่า เมื่อเปลี่ยนคนก็ต้องดูว่าเป็นใครเพราะพรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตถึง 3 คน ต้องรอให้มีการแถลงข่าวก่อน ถึงจะตัดสินใจ ตอนนี้จะไปบอกว่าเลือกหรือไม่เลือกไม่ได้เพราะยังไม่เห็นการแสดงตัว ว่าพรรคเพื่อไทยจะชูใครและมีใครร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย ส่วนตัวนายพีระศักดิ์มองว่าการเลือกนายกกับการแก้มาตรา 112 เป็นคนละประเด็นกันซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติในการเสนอแก้กฎหมายเป็นขั้นตอนไปแต่ขั้นตอนนี้คือการดูว่าใครจะเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ทั้งนี้ตนเองเคารพเสียงส่วนใหญ่อยู่แล้ว มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้นและไม่ติดที่มีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ด้วย
ด้าน แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. ระบุว่า ไม่ขอมองหรือแสดงความเห็นหากพรรคเพื่อไทยจะเสนอนายกฯในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ แต่ส่วนตัวยังยืนยันหลักการเดิม คือไม่อยากใช้สิทธิ์ในการเลือก เพราะได้ตั้งใจไว้แล้วซึ่งเห็นด้วยในหลักการตั้งแต่ครั้งแรกที่พิจารณาเพราะพรรคก้าวไกลมาขอดังนั้น เราจึงขอกลับไปบ้างว่าหากจะให้ใช้สิทธิ์ก็ขอให้เอามาตรา 112 ออกแต่ตอนนี้ผ่านไปหมดแล้ว หากเป็นพรรคเพื่อไทยก็ไม่เกี่ยวข้องกับตนแล้ว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับว่าใครดีหรือไม่ดี และไม่เกี่ยวข้องกับว่าพรรคเพื่อไทยยังรวมกับพรรคก้าวไกลอยู่หรือไม่ ขอปล่อยให้เป็นไปตามสิ่งที่จะเป็น เพราะเป็นหน้าที่ของสส. ยึดตามหลักการตั้งแต่แรก คือ การปิดสวิตช์ตัวเอง ไม่ขอออกเสียง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-