วันที่ 23 กรกฎาคม 66 นาย แทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของพรรคก้าวไกลซึ่งอาศัยโอกาสไปปราศรัยขอบคุณพี่น้องประชาชน กล่าวโจมตีส.ว. และตัดพ้อต่อว่า ว่าอาจจะถูกถีบออกจากเรือแทนที่จะให้ได้ช่วยอุดรูที่รั่วอยู่ ซึ่งก็หมายถึงการเชิญพรรคอื่นๆมาร่วมรัฐบาลโดยล้วนแต่เป็นพรรคที่ประกาศชัดว่า “ไม่เอาก้าวไกล” เพราะทุกฝ่ายคงเห็นตรงกันว่า ขืนให้คนทำ”เรือรั่ว”มาร่วมอุดเรืออยู่ด้วยคงมีแต่ทำให้ “เรือล่ม” คือ”พัง”กันหมดมากกว่า แม้ตอนนี้ยังไม่มีใครถีบใคร มีแต่กำลังเจรจากันเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศไม่สร้างทางตันแบบที่ก้าวไกลทำ โดยตนเชื่อว่าสาเหตุที่นายพิธาเข้าใจว่าจะถูกถีบออกไปก็เพราะจับสัญญาณการมารวมกันของพรรคที่มีจุดร่วมกัน คือ ไม่มีเงื่อนไขที่เป็นปัญหา คือการมุ่งแต่จะแก้ไขมาตรา 112 แบบไม่ยอมลดเพดาน ลดอคติ ลดอัตตาลงของก้าวไกล ตนจึงอยากให้นายพิธาและด้อมส้มตั้งสติและมีสมาธิ ยอมรับและเป็นส่วนหนึ่งสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น
“อี้ แทนคุณ” ย้อน “พิธา” ต้นเหตุเรือล่มพาประเทศสู่ทางตัน ชี้ควรยอมรับสายลมการเปลี่ยนแปลง
ข่าวที่น่าสนใจ
นายแทนคุณ กล่าวว่า ตนมองว่าการเริ่มต้นที่ดีในความเปลี่ยนแปลง 3 ประการ คือ 1.เปลี่ยนจากการเมืองจากที่มีคู่ขัดแย้งมาสู่การเมืองเชิงสมานฉันท์ในกรอบความร่วมมือแบบที่เรียกว่า”พันธมิตรมินต์ช็อกฯ”2. เปลี่ยนการเมืองจากโลกเสมือนจริงในจักรวาลคู่ขนานมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่เป็นรูปธรรมการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคตดี ที่ไม่มีก้าวไกล 3.การเมืองแบบความกร้าว เกรียน กร่าง ใครเห็นต่างเอาทัวร์ส้มไปลงผูกขาดประชาธิปไตยไว้ที่พวกตน สร้างสงครามผ่านแฮชแทก ปลุกม็อบ เปลี่ยนมาสู่การให้เกียรติ กลมเกลียว ประนีประนอมผสมผสาน ถ้อยดีถ้อยอาศัย มีวุฒิภาวะและทำงานเป็นทีม ไม่เด่นและดับคนเดียว เพราะส.ส.ทุกพรรคทุกคนล้วนมาจากประชาชนทั้งสิ้น
“ อยากฝากถึงบรรดาม็อบทั้งหลายที่เคลื่อนไหวสนับสนุนการกระทำผิดที่เกิดจากตัวนายพิธา ขาดคุณสมบัติเองว่าอยากให้ประเทศเดินหน้าหรือกลับไปสู่วงจรเดิม ที่ขัดแย้งกันรุนแรง มีการสูญเสียและเกิดรัฐประหารอีกเพราะคนไทยทะเลาะกันเองเพราะนายพิธาคนเดียวและเลวร้ายกว่านั้นมีบางประเทศอาจใช้เป็นโอกาสแทรกแซงประเทศไทยก็เป็นได้จึงอยากให้นายพิธายอมรับความเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ว่าเกิดจากความดื้อดึงและผิดพลาดของตนเองทั้งสิ้น” นายแทนคุณ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง