“สว.สมชาย” ซัดเดือดก้าวไกล เปลือยธาตุแท้ปมแก้ 112 ตอกย้ำมุ่งทำลายความมั่นคงสถาบันหลักชาติ

"สว.สมชาย" ซัดเดือดก้าวไกล เปลือยธาตุแท้ปมแก้ 112 ตอกย้ำมุ่งทำลายความมั่นคงสถาบันหลักชาติ

23 ก.ค.2566 นายสมชาย แสวงการ สว. ในฐานะเลขานุการวิปวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ ระบุว่า #สวปกป้องสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
#คนไทยที่จงรักภักดีต้องอ่าน
#ปฏิรูปสถาบันหวังดีหรือประสงค์ร้าย
#เปลือยธาตุแท้:แนวทางอุดมการณ์ก้าวไกล

 

 

 

ตอนที่ 1 แก้รัฐธรรมนูญลดพระราชสถานะพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์

จากที่ผมเคยแสดงหลักฐานร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ของพรรคก้าวไกลที่เคยเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎร2ครั้งว่า
เป็นการลดฐานะกฎหมายคุ้มครองพระมหากษัตริย์ในฐานะพระประมุขแห่งรัฐ เอาออกจากหมวดความผิดต่อความมั่นคง และลดโทษจนบางเบาต่ำกว่ากฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา อันเป็นที่มาส่วนหนึ่งทำให้สส.สว.ที่รู้เท่าทันจึงไม่ไว้วางใจให้นายพิธา จากพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 แล้ว

หากยังพบความเคลื่อนไหวและการดำรงความมุ่งหมายที่กังวลยิ่งกว่า!!!
คือ ร่างเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า คีย์แมนคนสำคัญ ปรมาจารย์ทางความคิดและอุดมการณ์การเมืองผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ที่น่าจะยังดำรงความมุ่งหมายเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด2 พระมหากษัตริย์ ที่เคยเผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อ2564 และอาจเตรียมยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ในอนาคตอันใกล้
โดยนายปิยะบุตร ได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ น่ากังวลใจอย่างยิ่ง ดังนี้

ร่างแก้ไขในมาตรา 3 ให้ยกเลิกหมวด2

พระมหากษัตริย์ของรัฐธรรมนูญ2560 ตั้งแต่มาตรา6ถึงมาตรา24และใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 6 พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ
ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชน ชาวไทย และทรงเป็นกลางทางการเมือง
การสืบทอดตำแหน่งพระมหากษัตริย์เป็นไปตามหลักการสืบราชสมบัติ
ทางสายโลหิตตาม ที่ กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญนี้และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์”

โดยผมจะค่อย ๆ ทยอยอธิบายรายละเอียดรายมาตราให้พี่น้องประชาชนทราบ เพื่อให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์อย่างแท้จริงว่า แนวทางอุดมการณ์ก้าวไกล ที่อ้างนั้น พวกเขาคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์เพื่อส่งเสริมหรือลดพระราชสถานะพระราชอำนาจ กันแน่?

 

 

 

เพราะนับแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ได้เทอดทูนให้พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมืองให้เป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ จะกล่าวหาหรือฟ้องร้องมิได้ เช่นระบุไว้ในมาตรา6 ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
แต่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายปิยะบุตร ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้ยกเลิกความทั้งหมดทิ้งและแก้ไขให้พระมหากษัตริย์ยังทรงต้องเป็นกลางทางการเมือง น่าจะถือว่าเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีเจตนาแฝงเร้นและส่งผลลดทอนพระราชสถานะและพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ลง
กล่าวคือ

 

1)อ้างว่า กำหนดพระราชสถานะประมุขของรัฐ ศูนย์รวมจิตใจ และความเป็นกลางทางการเมือง

ประเด็นนี้ไม่มีความจำเป็นต้องบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
เพราะข้อเท็จจริงรับรู้ในสังคมไทยตั้งแต่ประวัติศาสตร์ชาติและจารีตประเพณีในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุขนั้น พระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขและทรงเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของพสกนิกรชาวไทยอยู่แล้วมาตลอด

การเสนอเพิ่มเรื่องความเป็นกลางทางการเมืองนั้น เป็นหลักการพื้นฐานที่บังคับใช้ในลักษณะจารีตประเพณีในทางรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องเขียนไว้เป็นเพิ่มเติมในรัฐธรรมนูญอีกเช่นกัน

การแก้ไขเช่นนี้ จึงอาจเชมีเจตนาแฝงเร้นหรือใช้เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ
ว่า ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยและเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริงนั้น

แต่ในความเป็นจริง “สถาบันพระมหากษัตริย์ตามร่างนี้ จะเหลือเพียงแค่เป็น*สัญลักษณ์ของประเทศเท่านั้น พระราชอำนาจต่างๆที่เคยมีและรัฐธรรมนูญรับรองไว้ถูกจำกัดลงมาก และยังเป็นการนำการเมืองไปเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น “

ยังจะนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และสภาผู้แทนราษฏรที่มาจากการเลือกตั้งได้ในอนาคต

ข่าวที่น่าสนใจ

2)รัฐธรรมนูญแก้ไขนี้เป็นการ *ลิดรอนพระราชอำนาจที่มีอยู่เดิม
โดยกำหนดให้พระมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจเท่าที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ซึ่งย่อมเป็นไปไม่ได้ที่รัฐธรรมนูญจะเขียนได้ครอบคลุมทั้งหมด
อีกทั้งยังต้องได้รับคำแนะนำความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีก่อนด้วย

 

และยังถือเป็นการยกเลิก หลักการคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ในรัฐธรรมนูญ ที่ได้วางหลักและกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้วนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม ฉบับวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475
ที่มีการคุ้มครองทั้งในส่วนที่เป็นสถาบันและในส่วนพระองค์ไว้

 

*กระทบกับพระราชสถานะ ความคุ้มครองที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบันที่ระบุไว้ในมาตรา 6 ว่า
“องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆมิได้”

สอดรับกับแนวทางการเคลื่อนไหวแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ที่มุ่งคุ้มครองสถาบันของพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้าและเครือข่ายมาตลอด

3)*เปลี่ยนกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ ให้เป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ ในประเด็นนี้นับว่ามีปัญหาอย่างมากเนื่องจาก กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์เป็นกฎหมายเก่าแก่ของไทยที่กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวข้องกับวิธีการเลือกและแต่งตั้งพระรัชทายาท ลำดับการขึ้นครองราชย์สมบัติ ซึ่งเป็นเรื่องในส่วนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่รัฐธรรมนูญที่ผ่านมาและฉบับปัจจุบันได้ใช้ยอมรับกันมาตลอด โดยมีค่าบังคับใช้

เท่ากับรัฐธรรมนูญ ไม่เคยเกี่ยวข้องในการกำหนดรายละเอียดต้องตรา
ขึ้นเป็นพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับที่มาและอำนาจขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญหรือวิธีพิจารณาคดีอาญาของศาล

การเปลี่ยนให้กฎมณเฑียนบาลมาเป็นพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ อาจส่งผลร้ายแรงตามมา ที่ฝ่ายการเมืองจะสามารถเข้ามาแทรกแซงในการกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์และลำดับการขึ้นครองราชย์ได้อย่างง่ายดายโดยเสียงข้างมากในรัฐสภา อันส่งผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ และถือเป็นการลดทอนพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ในเรื่องการสืบราชสมบัติหรือการสืบราชสันตติวงศ์ที่มีการใช้กฎมณเทียนบาลสืบเนื่องกันมาตลอดทุกรัชกาล โปรดติดตามรายละเอียดในแต่ละมาตราในตอนต่อไป

ดร.สมชาย แสวงการ
สมาชิกวุฒิสภา

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น