วันที่ 24 ก.ค. 66 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประสานพูดคุยกับสว.โหวตเลือกนายกฯว่า การพูดคุยกับสว.พรรคเพื่อไทยมีคณะทำงานไปพูดคุยรายบุคคลไม่มีการเชิญมาลักษณะองค์กรหรือตัวแทนสว. เช่น ตนก็ไปประสานสว.ที่รู้จักแล้วเอาสิ่งที่ได้รับมาสรุปกัน โดยการพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมวันที่ 25 ก.ค. นั้นวาระสำคัญคือนำการบ้านที่ 8 พรรคร่วมมอบให้เพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำไปดำเนินการ สิ่งที่เราจะเสนอคือคำตอบของสว. และสส.ว่าตอบอย่างไรมีความเห็น เงื่อนไข อย่างไร
ถามว่ามีคำแนะนำจากสว.บางส่วนออกมาบอกว่าหากไม่มีพรรคก้าวไกลเขาพร้อมโหวตให้ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นคำตอบของสว.แต่ละท่าน เป็นข้อมูลนำเข้าที่จะไปพูดคุยในที่ประชุม ซึ่งที่ตนไปคุยกับ สว.หลายคนที่พูดคุยก็ได้ยืนยันว่าไม่ยึดติดว่าใครได้เป็นรัฐบาล แต่เจตนารมณ์คือยึดหลักการณ์เดิมเหมือนที่ได้เสนอไปในรัฐสภาวันที่ 13 ก.ค.
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะสรุปเนื้อหาที่พูดคุยกับสว.ได้เมื่อไหร่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราพยายามทำให้เสร็จก่อนหารือกับ 8 พรรค วันที่ 25 ก.ค. เมื่อถามถึงข้อเสนอให้เลื่อนโหวตออกไป 10 เดือนจนกว่าสว.จะหมดอำนาจ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร สิ่งที่เราต้องมาดูในรายละเอียดคือผลสัมฤทธิ์จะเป็นตามที่เราคาดหวังหรือไม่ แต่ระบบรัฐสภาเป็นระบบเสียงข้างมาก หนึ่งเสียงชนะสองเสียงไม่ได้ แม้เราอยากจับมือกันไป 10 เดือน ถ้าเสียงข้างมากเขาไม่ยอม แทนที่จะได้สิ่งที่เราต้องการเหมือนไปส่งเสริมสิ่งที่ทุกคนไม่อยากทำ ข้อแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ตลอดนี่คือผลกระทบทางการเมือง
สิ่งที่คาดการกันไว้อาจเกิดขึ้นได้ เพราะสส.หนึ่งคนมีสิทธิ์เท่ากัน แต่ใครจะมีเสียงมากกว่ากันในระบบเสียงข้างมาก เป็นสิ่งที่พึงระวัง เราคิดแบบโลกสวยไม่ได้ในทางการเมืองมันมีหลายมิติ ก็ต้องมาคิดกันว่าถ้าเราไม่ทำแพ็กกันแน่นอยู่แบบนี้แล้วคนอื่นไม่มีวิธีคิดหรือ เขาก็มีวิธีคิด และเขาก็สามารถรวบรวมเสียงได้ในที่ประชุมรัฐสภา ถามว่าเราทำอะไรได้ เราก็ต้องยอมรับ แม้แต่การโหวตข้อบังคับว่าการเลือกนายกฯเป็นญัตติทั้งที่เราบอกว่าไม่ใช่เมื่อแพ้เราก็ต้องยอมรับ นพ.ชลน่าน กล่าว