ย้อนคำ “อุ๊งอิ๊ง” แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ทำใสซื่อโยนบาป ม.112 เครื่องมือการเมือง เบิกเนตรชัด ๆ กี่คดีแล้วศาลลงโทษ”ผตห.”สถานหนัก

ย้อนคำ "อุ๊งอิ๊ง" แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ทำใสซื่อโยนบาป ม.112 เครื่องมือการเมือง เบิกเนตรชัด ๆ กี่คดีแล้วศาลลงโทษ"ผตห."สถานหนัก

ถือเป็นประเด็นใหญ่ทางการเมือง กับอนาคตว่าที่รัฐบาล 8 พรรค ด้วยเหตุผลสำคัญจากเสียงส่วนใหญ่สมาชิกวุฒิสภา รวมถึงสมาชิกผู้แทนราษฎร ขั้วรัฐบาลเดิม ล้วนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของพรรคก้าวไกล ในการเดินหน้าแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะเป็นเหมือนการเปิดช่องทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ สถาบันพระมหากษัตริย์ ในลักษณะก้าวล่วง ขยายตัวเป็นวงกว้าง

 

 

รวมถึงแนวทางเดิมในการเปลี่ยนแปลง มาตรา 112 ของ กลุ่มคณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล มีลักษณะเป็นเหมือนการลากดึงสถาบันเบื้องสูง ให้ลงมาเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับกลุ่มมวลชนที่มีทัศนคติต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ จนนำไม่สู่การใช้สิทธิ์ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ลงมติไม่สนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวจากมติของ 8 พรรค นำโดยพรรคก้าวไกล เห็นชอบให้ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมดำเนินการในการพิจารณาหาทางออก ทำให้เกิดข้อคำถามว่า พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไร กับ ขั้วรัฐบาล 8 พรรคเดิม และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถูกนำเสนอชื่อที่ประชุมรัฐสภา จะเป็นใคร ภายใต้เงื่อนไขเรื่อง มาตรา 112 ที่เป็นปัญหาใหญ่ สำหรับผู้นำประเทศ ต้องมีความชัดเจน ว่า จะไม่ยุ่งเรื่องการรื้อ แก้ไข ให้เกิดปัญหาซ้ำซาก

ข่าวที่น่าสนใจ

จากประเด็นดังกล่าว ถ้าย้อนกลับไปพิจารณา มุมมองของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร พบว่า เคยให้ความเห็นในเรื่องนี้ไว้หลายครั้ง อาทิเช่น

“1 มี.ค.2566″ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ผ่านทาง รายการ Spotlight การเมือง : เดลินิวส์ โดย ตอบคำถามว่า ” มาตรา 112 ที่ต้องแก้กัน ไม่ใช่ล้มเจ้า ขอชัดเจนตรงนี้ว่าไม่ล้มเจ้า มาตรา 112 ที่ผ่านมา ไม่เคยมีคดีที่ถูกฟ้องเยอะขนาดนี้มาก่อน แปดปีที่ผ่านมาคดีเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ถามว่าปัญหาคืออะไร ปัญหาตอนนี้ไม่มีได้กำหนด ใครฟ้องก็ได้ จะเป็นใครก็ได้ จนถูกนำเอากฎหมายฉบับนี้มาเล่น เป็นการป้ายสีกันทางการเมือง เป็นเครื่องมือทางการเมือง ควรเอาไปพูดในสภาฯ กำหนดให้ชัดเจน ว่าใครฟ้องได้ โทษอยู่ที่เท่าไหร่ อย่างไร ใครฟ้องได้บ้าง และใครเป็นผู้ถูกฟ้อง”

 

 

12 เม.ย.2566 อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ ผ่านทางช่องยูทูป The Standard โดยระบุว่า “การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน ในเรื่อง 112 ไม่ใช่ว่ามาตรานี้เตะไม่ได้ เราอยากให้คุยกัน มีการกำหนดขอบเขตชัดเจน ทั้งเรื่องข้อกฎหมาย การบังคับใช้ ต้องรับโทษแค่ไหน ใครเป็นผู้ฟ้อง ถกกันในสภาฯ ขอให้ชัดเจน

เพราะหลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้น พบมีการฟ้องเป็น 100 เคส ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา จากก่อนหน้าถูกฟ้องปีละ 1 เคส 2 เคส มันเป็นกฎหมายที่เอามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ไม่ต้องรอศาลตัดสินก็ติดคุกได้ เราเห็นแบบนั้น เราต้องการหันหน้าคุยกัน และกำหนดขอบเขต ใครเป็นผู้ฟ้อง กำหนดรับโทษสูงสุด ต่ำสุด แค่ไหน แต่เราไม่แน่ใจว่า ของก้าวไกลขอบเขตเขาแค่ไหน ซึ่งแน่นอน นโยบายพวกนี้คือจะเข้าทำนองว่า ไปกับเราด้วยมั้ย ก็เลยขอทราบขอบเขตที่ชัดเจนก่อน

“8 พ.ค.2566” อุ๊งอิ๊ง ให้สัมภาษณ์ ผ่านทาง TikTok และ Instagram Live หัวข้อ “หมดเปลือกเพื่อไทย” โดย คชาภา ตันเจริญ หรือ “มดดำ” เป็นผู้ดำเนินรายการ ว่า “แน่นอนเราไม่ยกเลิกมาตรา 112 แต่เราต้องมาคุยกันในสภา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะขอความเมตตาต่อศาล ว่ามีน้องๆ และผู้เห็นต่างทางการเมืองหลายคนที่ติดอยู่ในนั้น ขอให้มีการปล่อยตัว และต้องมีการแก้ไขระเบียบ ต้องกำหนดว่าใครเป็นคนฟ้อง อัตราโทษเราไม่สนับสนุนเอามาใช้เป็นเกมการเมือง เราต้องมีกฎหมายคุ้มครองประมุขรัฐ แต่ไม่เอามาใช้เป็นเกมส์การเมือง ต้องฟังเสียงประชาชน”

แน่นอนว่าคำพูดของ “อุ๊งอิ๊ง” ในลักษณะดังกล่าว โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า มาตรการบังคับใช้มาตรา 112 ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เรื่องขบวนการล้มล้างสถาบันฯที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีผ่านมา อย่างสิ้นเชิง

 

 

 

นับตั้งแต่การก่อเกิดกลุ่ม 3 นิ้ว อย่าง นายอานนท์ นำภา , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ , น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นต้น ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชัดว่า พฤติการณ์ปลุกระดมปฏิรูปสถาบันฯ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง

ประการสำคัญด้วยแนวทางปฏิบัติที่เกิดขึ้น กับกลุ่มขบวนการ 3 นิ้ว ในช่วงผ่านมา ชัดเจนว่ามีการใช้ถ้อยคำ รวมถึงการแสดงออกถึงการล้อเลียน หมิ่น บิดเบือน ใส่ร้าย สถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างชัดเจน และหลายครั้งในกระบวนการยุติธรรม พิสูจน์แล้วว่า มีความผิดจริงตามคำร้อง พร้อมกำหนดบทลงโทษตามข้อบังคับกฎหมาย

 

 

 

อาทิ 19 ม.ค.2564 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พิพากษาลงโทษ นางอัญชัญ ปรีเลิศ อดีตข้าราชการกรมสรรพากร ซี 8 เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 โดยการสั่งจำคุก 87 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือนรวม 29 กระทง เป็นจำคุก 29 ปี 174 เดือน

โดยพฤติการณ์ใช้งานเว็บไซต์ โดยการใช้นามแฝง anchana siri,มารี รูท, un un และ Petch Prakery กระทำความผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกันในระหว่างประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เผยแพร่ข้อความ

เหตุเกิดที่แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน, แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยให้การรับสารภาพ ดูหมิ่น หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์พระราชินีหรือรัชทายาท ถึง 29 ครั้ง

ประการสำคัญในปี 2566 ที่ “อุ๊งอิ๊ง” อ้างว่ามีการนำมาตรา 112 มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ต้องแก้ไขเพื่อความเป็นธรรม มีข้อเท็จจริงทางคดี ว่า ศาลยุติธรรม ได้พิพากษาลงโทษบุคคลที่กระทำผิด เป็นกรณีตัวอย่างให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับการสร้างความผิดต่อสถาบันฯ เป็นขบวนการด้อยค่า ทำลาย ที่มีอยู่จริงในกลุ่มการเมือง ซึ่งร่วมเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการรื้อแก้ไข มาตรา 112

17 ม.ค. 2566 ศาลอาญาพิพากษาลงโทษ นายสิทธิโชค เศรษฐเศวต ไรเดอร์ส่งอาหารวัย 26 ปี กรณีนำของเหลวคล้ายน้ำมัน ฉีดพ่นใส่กองเพลิงที่ลุกไหม้อยู่บริเวณฐานพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนินนอก แยกผ่านฟ้าลีลาศ โดยการสั่งจำคุก 3 ปี 6 เดือน แต่เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุกรวม 2 ปี 4 เดือน

14 มี.ค. 2566 ศาลอาญา รัชดา พิพากษาลงโทษ “ใจ” (นามสมมติ) นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ วัย 23 ปี กรณีทวีตรูปและพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมคำกล่าวใส่ร้ายอย่างรุนแรง อันเป็นการละเมิดต่อรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นที่เคารพศรัทธาประชาชน โดยการสั่ง 3 ปี ก่อนลด 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 2 ปี เนื่องด้วยจำเลยขณะกระทำผิด มีอายุเพียง 19 ปีเศษ

 

19 มิ.ย. 2566 ศาลอาญา รัชดาฯ พิพากษาลงโทษ “ทีปกร” (สงวนนามสกุล) หมอนวดอิสระ วัย 38 ปี จากกรณีโพสต์ข้อความและแชร์คลิปจากยูทูบ ในลักษณะให้สาธารณชนเข้าใจผิดสถาบันฯ และบิดเบือนทำให้เข้าใจว่าคนที่ทำคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินและสร้างประเทศนี้คือประชาชนไม่ใช่กษัตริย์ ซึ่งใช้จ่ายภาษีของประชาชน อันเป็นการจงใจสร้างความเกลียดชังต่อพระมหากษัตริย์ โดยการสั่งจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา

 

28 มิ.ย.2566 ศาลอาญา รัชดาฯ พิพากษาลงโทษ จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน วารุณี (สงวนนามสกุล) ชาวพิษณุโลกวัย 30 ปี จากการโพสต์ภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรงของพระแก้วมรกต โดยการดัดแปลงภาพ ด้วยเจตนาหมิ่น ล้อเลียน สถาบันพระมหากษัตริย์

 

18 พ.ค. 2566 ศาลอาญา รัชดาภิเษก พิพากษาลงโทษ เวหา แสนชนชนะศึก นักกิจกรรมวัย 39 ปี กรณีใช้บัญชีทวิตเตอร์ “ฟ้าฝน ver.เกรี้ยวกราด” ทวีตข้อความเล่าบิดเบือน โดยเจตนาให้เกิดการดูหมิ่น เกลียดชัง สถาบันฯ จากการอ้างประสบการณ์การถูกคุมขังในคุกเรือนจำชั่วคราวพุทธมณฑล เมื่อช่วงปี 2564 เป็นเวลา 9 ปี เนื่องจากการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดร้ายแรง สร้างความเข้าใจผิดให้แก่ประชาชน และทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ อันทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงสมควรลดโทษเหลือกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 18 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

20 ก.ค.2566 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษา ลงโทษ “สายน้ำ” โดยการสั่งจำคุก 3 ปี ปรับ 6,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก จึงให้ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง จึงให้ลดโทษอีก 1 ใน 3 เหลือจำคุก 12 เดือน ปรับ 4,000 บาท และให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี กรณีสวมครอปท็อป พร้อมเขียนข้อความทำให้เกิดการดูหมิ่น เกลียดชัง สถาบันฯ

และโดยบางส่วนของพฤติการณ์ผู้กระทำผิดเหล่านี้ ทำให้ต้องตั้งคำถามกับ “อุ๊งอิ๊ง” เช่นกันว่า ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย รับรู้แค่ไหนเกี่ยวกับคดีความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นขบวนการทำลายสถาบันชาติ รวมถึงจะดำเนินการกับแนวคิดแก้ไข มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล อย่างไร ข้อสำคัญถึงนาทีนี้ “อุ๊งอิ๊ง” ยังคงความคิด ว่า คดีฟ้องร้องความผิด 112 เป็นเรื่องการกลั่นแกล้ง เช่นเดียวกับแกนนำพรรคก้าวไกล หรือไม่ ??

 


WONDER SALE ดีลมันส์แบบตะโกน

ระยะเวลาโปรโมชั่น 18 กค – 31 กค 2023

ลดเพิ่มสูงสุด 10% ไม่มีขั้นต่ำ

ลดเพิ่มสูงสุด 20% เมื่อช้อป 3,000.-

Code : MIDJUL

คลิกเพื่อช้อปได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/Jsz8z

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น