ศาลปกครองกลาง ยกฟ้อง กรณีบีทีเอส ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ ม.36 และ รฟม. แก้ทีโออาร์กีดกันการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ครั้งที่ 2 ระบุ รฟม.ดำเนินการประมูลชอบด้วยกฎหมายแล้ว ด้านบีทีเอส เตรียมพิจารณาจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่

วันที่ 25 ก.ค.66 ศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้อง ในคดีที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม กรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 (ครั้งที่ 2) และออกเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน โดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนให้แตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม ตามประกาศเชิญชวนฯ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2563 เนื่องจากศาลเห็นว่า ประกาศเชิญชวนฯ ดังกล่าวไม่มีลักษณะประการใด ที่จะทำให้เป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดย ศาลปกครองกลางได้มีคำวินิจฉัยว่า ประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ -มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 และเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ที่ออกโดยคณะกรรมการมาตรา 36 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ไม่มีลักษณะประการใด ที่จะทำให้เป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อบีทีเอส ตามมาตรา 420 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คณะกรรมการมาตรา 36 และรฟม. จึงไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนให้แก่บีทีเอส

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีที่ บีทีเอส มีคำขอให้เพิกถอนมติที่เกี่ยวข้องกับการออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ -มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 และเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน เมื่อประเด็นที่พิพาทในคดีนี้เป็นการวินิจฉัยว่า ประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ -มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 และเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งประกาศเชิญชวนที่พิพาทเป็นการประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ยื่นข้อเสนอเพื่อคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ โดยไม่ได้มุ่งหมายให้ใช้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเฉพาะเจาะจง แต่ประสงค์ให้ใช้สำหรับการเชิญชวนเข้าร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ประกาศเชิญชวนดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นคำสั่งทางปกครองทั่วไป เข้าลักษณะเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางการปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา9 วรรคหนึ่ง(1)แห่งพระราชบัญญัติจึงจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ. 2542 มติของคณะกรรมการมาตรา36 และรฟม. ที่เกี่ยวข้องกับการออกประกาศหรือมติของคณะกรรมการมาตรา 36 และ รฟม.ในการประชุมแต่ละครั้งเพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติในการคัดเลือกเอกชน เห็นชอบร่างประกาศเชิญชวนและร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนจึงเป็นเพียงขั้นตอนการเตรียมการและดำเนินการภายในของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครองทั่วไป คือ ประกาศเชิญชวนฉบับที่พิพาทในคดีนี้ จึงไม่มีผลกระทบต่อสิทธิ์หรือหน้าที่ของ บีทีเอส ที่จะเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากมติของคณะกรรมการ ม.36 และ รฟม.ที่เกี่ยวข้องเพื่อออกประกาศเชิญชวนที่จะมีสิทธิ์ฟ้องคดีต่อศาลตาม มาตรา 42 วรรค(1)แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ. 2542 จึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง

ขณะที่ทีมทนายความของ บีทีเอส ระบุเพียงสั้นๆ ว่า หลังจากนี้จะนำคำพิพากษากลับไปประชุมและหารือร่วมกันอีกครั้งว่า จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ โดยคดีนี้จะต้องดำเนินการยื่นอุธรณ์ภายใน 30 วันนับจากวันที่อ่านคำพิพากษา

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)