"ปวิน" หัวร้อน โต้ข่าวจัดรวมพลล้มเจ้า แจงแค่งานวิชาการปชต. ไม่มีพูดถึงเบื้องสูงไทย

จากกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประเด็นที่มีการพาดพิงในทวิตเตอร์ โยงรับเงินต่างชาติ ในการเร่งแก้ไข 112 ว่า ไม่มีใครมาลงทุนการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เข้าใจว่ามีการพาดพิงตน และพาดพิงในช่วงเวลาปี 2561 ขณะนั้นตนเองยังไม่ได้เป็นส.ส. ซึ่งได้เป็นส.ส.ในปี 2562 และในปี 2561 ตนยังเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง

ได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมร่วมค่ายการประชุมต่าง ๆ ในหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส สวีเดน บราซิล การที่หยิบยกว่ามีเบี้ยรายวัน ที่เรียกว่า pocket money ประมาณ 24 ยูโร ซึ่งไม่ได้มาก บางทีก็จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ เข้าใจว่าไม่มีอะไรมาก การที่บอกว่ามีที่พักให้ก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้จัดงานจะมีการเตรียมให้กับคนที่เข้าร่วมประชุม

การที่ไปหยิบยกเรื่องที่ตนเคนเป็นนักกิจกรรมเเล้วไปเข้าค่ายร่วมประชุมเกี่ยวกับประชาธิปไตย เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนไม่มีทางผิด กลับกัน คนที่รู้สึกว่าการไปเข้าร่วมค่ายที่ส่งเสริม ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เป็นความผิดอย่างไร คนที่ออกมาพูดต้องการอะไร ตนเข้าใจ ยินดีที่จะเปิดให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะตนเป็นนักการเมือง บุคคลสาธารณะสามารถวิจารณ์ได้ แต่ก็ต้องไปพิจารณาว่าการวิจารณ์แบบนี้จะต้องไม่กระทบต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจจะได้รับอันตรายได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดทางด้านนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ต้องหาคดี 112 ลี้ภัยต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อวามผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเป็นหนึ่งในผู้ถูกแฉว่าจัดงานประชุมแก๊งล้มเจ้าที่ฝรั่งเศส เพื่อเร่งแก้มาตรา 112 ตามใบสั่ง โดยนายปวิน ระบุว่า จริงๆ ไม่อยากเขียนอธิบาย เพราะเป็นเรื่อง non-issue และไม่อยากตอบโต้พวกงี่เง่าปัญญาอ่อน ไอ้เรื่องตั๋วปารีสห่าเหวอะไรเนี่ย มโนกัน..หาย นี่เป็นแค่เรื่องการจัดงาน workshop ทั่วไป ที่ดิชั้นจัดมาเป็นสิบๆ ครั้ง นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง และคนที่เป็นเจ้าภาพจัดจริงๆ คือนักวิชาการชาวพม่า Dr.Muang Zarni ที่ได้เรียกนักวิชาการ ศิลปิน และนักกิจกรรมการเมืองของอาเซียน และเอเชียใต้ เข้าร่วมการประชุม ภายใต้หัวข้อ Southeast Asia and South Asian Workshop and Retreat ที่มี agenda เรื่องส่งเสริมประชาธิปไตยทั่วไปในภูมิภาค ไม่ได้พูดเรื่องเมืองไทยเฉพาะ และไม่ได้พูดเรื่องสถาบันกษัตริย์ไทยเลย ผู้จัดที่มีดิชั้นรวมอยู่ด้วยเสนอชื่อนักกิจกรรมที่อยู่ในปารีส เพราะงานจัดที่ฝรั่งเศส นักวิชาการ นักกิจกรรมการเมือง และศิลปินของไทย เข้าร่วม เหมือนที่ประเทศอื่นๆ ก็ส่งคนเข้าร่วมเหมือนกัน แค่นั้นเองเท่านั้น

นายปวิน อ้างต่อว่า ไม่มีขบวนการล้มเจ้าห่าเหวอะไร ไม่มีการรับเงินจากองค์กรไหน ยกเว้นค่าเดินทางและค่า per diem ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการจัดงานวิชาการเท่านั้น รายละเอียดของโปรแกรมการจัดงาน ดังที่แนบมา ส่วนผลของการจัด Workshop คือการจัดตั้งองค์กร FORSEA ที่ส่งเสริมประชาธิปไตยในภูมิภาค ที่ดิชั้นเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง และในการเปิดตัว FORSEA ในปีถัดไปที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เราได้นายกมหาเธร์มาเปิดงาน ดิชั้นยังเชิญนักวิชาการ นักกิจกรรมและศิลปินหลายคนเข้าร่วม อาทิ ทนายอานนท์ เนติวิทย์ และไข่แมว (ไข่แมวเป็นศิลปินที่น่ารัก ไม่เหี้eเหมือนศิลปินคนอื่นๆ ที่เคยเชิญ)

ทั้งนี้นายปวิน ยังได้แนบลิ้งค์แถลงการณ์ของ ผู้อำนวยการ FORSEA คือ Dr. Zarni ที่ตอบโต้ TOPNEWS พร้อมกล่าวว่าปล่อยเฟคนิวส์เรื่องนี้

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าโพสต์ดังกล่าวของนายปวิน ได้ตั้งค่าปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก “ปราชญ์ สามสี” โพสต์ข้อความ “แฉ” โดยอ้างข้อมูลของผู้ที่เคยอยู่ในขบวนการนี้ ว่ามีขบวนการต่างชาติจัดสัมมนาที่ฝรั่งเศส โดยมีการสนับสนุนเงินทุนจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้น มีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. ก้าวไกล ร่วมอยู่ด้วย โดยปราชญ์ สามสี ระบุข้อความว่า จากโพสต์ ที่นาย สมรนนท์ แย้มอุทัย หรือที่สังคมรู้จักกันในชื่อนายซิ่ว ได้โพสต์ ถึงนายรังสิมันต์ โรม สส. ก้าวไกล โดยแสดงความไม่พอใจใน เรื่องที่ สส. พรรคก้าวไกลบางคน ดื้อรั้น ที่รีบเร่งแก้ไข หรือ ยกเลิกมาตรา 112 โดยไม่สนการจับขั้วรัฐบาล จนทำให้สูญเสียโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล ไปอย่างน่าเสียดาย เรื่องนี้ทำให้นายซิ่วตัดสินใจ แฉถึงความห่วงในการแก้ไข มาตรา 112 เป็นผลพวงมาจากเรื่องปากท้องของขบวนการล้มเจ้าในต่างประเทศที่จะเดือดร้อนหาก ก้าวไกลขึ้นเป็นรัฐบาลโดยปล่อยวางเรื่องการแก้ไขมาตรา112 โดยนายซิ่วแอบใบ้ไว้ว่า นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล สามารถดำรงอยู่ในประเทศฝรั่งเศสได้อย่างไร

ฝ่ายที่ยังเชื่อในรังสิมันต์ โรม และเครือข่ายฝ่ายซ้าย ได้โจมตีนายซิ่วอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่า มโนขึ้นมาเอง ซึ่งทำให้นายซิ่ว ต้องงัดไม้เด็ดว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการเชิญไปรับเงินทุนต่างชาติในการโจมตีรัฐบาลไทยในเวลานั้น
พร้อมแสดงหลักฐานเป็นจดหมายเชิญ ที่แสดงให้เห็นว่าคนที่ไปที่เยอรมนีเวลานั้น ล้วนเป็นนักเคลื่อนไหว จากประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ก็มีนายรังสิมันต์ โรม และภรรยาชาวอินโดนีเซียอีกด้วย ในรายชื่อนั้นยังปรากฏ คนไทยอีกหลายคนที่ เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมีวีรกรรมทำกันไว้เยอะ ทั้งหมิ่นสถาบันฯ ขู่อาฆาตผู้จงรักภักดี อีกด้วยนะครับ ข้าพเจ้า หาข้อมูลประกอบไว้ให้แล้วว่า ใครเป็นใคร

ทั้งนี้ จากข้อมูลจดหมายที่นายซิ่วได้เอามาเปิดเผย นั้น จะเห็นได้ว่า เป็นจดหมาย ที่โดนส่งต่อมาจากนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ โดยมีการแนบไฟล์ จดหมายเชิญ จากมหาวิทยาลัยบอนน์ประเทศเยอรมนี โดยมีนายโอลิเวอร์ พาย ( Oliver Pye ) รองประธานกรรมการ มูลนิธิอาเซียนเฮาส์ ( Asienhaus Stiftung) เป็นผู้เซ็นต์กำกับรับรอง

โดยกิจกรรม เต็มไปด้วยกิจจกรรมทางการเมือง เพื่อสนองการประท้วงต่อต้านรัฐบาลไทย รวมไปถึงการประท้วงต่อต้านมาตรา112 ทั้งนี้ จากข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เปิดเผยหลายแห่งระบุตรงกันว่ามูลนิธิ มูลนิธิอาเซียนเฮาส์ กระทรวงเศรษฐกิจฯ ของรัฐบาลเยอรมนีในเวลานั้น ส่วนพรรคการเมืองในเยอรมนี จะได้เงินมาจากนายทุนในยุโรปคนใด เรื่องนี้ยังต้องติดตามต่อไป

ดังนั้น เรื่องที่ นายซิ่วจะบอกว่าตนเอง รับงานจากต่างชาติแทรกแซงไทย อันนี้ก็น่าจะมีมูลความจริง แต่สำหรับนักการเมือง ที่ยังคงเล่นบทนักเคลื่อนไหวต่อต้านกฎหมายไทยทั้งผัวทั้งเมียนั้น สังคมไทยต้องพิจารณาดูว่าสมควรหรือไม่ ที่จะมองเป็น #ขบวนการนอมินีข้ามชาติ”