สืบเนื่องจากกรณี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้กล่าวในรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 ตอนหนึ่งพาดพิงไป สส. พรรคก้าวไกล เขต 3 ว่า เคยต้องโทษคดีอาญา เข้าข่ายขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัคร สส. ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560
“พื้นฐานของคนพวกนี้มันเท่าผมที่ไหน เป็นได้ไง นักโทษ และผมจะเอาออกด้วยซ้ำไป เพราะเอานักโทษเคยติดคุก ไปเป็นสส.ได้ไง แล้วแบบนี้กองเชียร์ก้าวไกลว่าดีหรือ นักโทษ ระยอง เขต 3 ผมเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริงทำจริง ผมรับผิดชอบมาทั้งชีวิต”
ทั้งนี้ภายหลังมีการตรวจสอบพบว่า สส.ระยอง พรรคก้าวไกล เขต 3 คือ นายนครชัย ขุนณรงค์ หรือ ไอซ์ ระยอง และเคยต้องคดีลักทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ช่วงปี 2542 โดยเป็นคดีหมายเลขดำที่ 6962/42 และคดีหมายเลขแดงที่ 6766/42 ซึ่งนายนครชัยเป็นจำเลยร่วมกับนายอนุชา น้อยจำนงค์
โดยพฤติการณ์กระทำผิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2542 ที่ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ปรากฎว่าทั้งคู่ได้ร่วมกันลักทรัพย์ของนางสาวทองดา (สงวนนามสกุล) ประกอบด้วย สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย 1 เล่ม , กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ ราคา 100 บาท กระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล 1 ใบ ราคา 150 บาท บัตรประชาชน 1 ใบ นาฬิกาโรเล็กซ์ 1 เรือน ราคา 1,000 บาท นาฬิกายี่ห้อจำรัสคลังนก 1 เรือน ราคา 500 บาท รวม 6 รายการ เป็นเงิน 1,750 บาท
และจากรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองกระทำความผิดจริง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จึงมีความเห็นส่งฟ้อง ไปยังอัยการ จังหวัดชลบุรี
จากนั้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2542 อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง และ เรื่องได้เข้าสู่กระบวนการชั้นศาล ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษจำคุก คนละ 1 ปี 6 เดือน บวกโทษจำเลยที่ 1 อีก 1 ปี 6 เดือน เนื่องจากมีคดีค้างเก่า โดยศาลมีคำสั่งลงโทษจำเลยที่ 1 (นายอนุชา) เป็นเวลา 3 ปี จำเลยที่ 2 (นายนครชัย) เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน
อีกทั้งเมื่อตรวจสอบกับ กกต.จังหวัดระยอง พบข้อมูลเพิ่มว่า กรณีดังกล่าวมีการร้องเรียน ตั้งแต่ช่วงสมัครรับเลือกตั้งสส. แต่ขณะนั้นกกต.จังหวัดระยอง มีหลักฐานเป็นเพียงเลขสำนวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ กกต.ได้มีหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร
และเมื่อนำเลขสำนวนไปที่ศาลชั้นต้นเพื่อค้นหาคำพิพากษากลับไม่พบ เพราะต้องค้นหาด้วยหมายเลขคดีแดง ทำให้ผอ.กกต.จังหวัดระยอง ต้องประกาศยอมรับให้นายนครชัย เป็นผู้สมัครไปก่อน กระทั่งภายหลังกกต.กลางประกาศผลการเลือกตั้ง ได้มีผู้มายื่นคำร้องต่อกกต.จังหวัดระยอง อีกครั้ง
โดยคำร้องดังกล่าวได้มีการแนบหลักฐาน เป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นมีหมายเลขคดีแดงมาด้วย ระบุว่านายนครชัย ให้การรับสารภาพในชั้นการพิจารณาของศาล จึงได้สั่งลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ซึ่งนายนครชัย ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ จึงถือว่าคดีถึงที่สุด แต่ทั้งนี้ทางสำนักงานกกต.จังหวัดระยอง อยู่ระหว่างขอคัดสำเนาคำพิพากษา เพื่อให้ได้หลักฐานชัดเจนว่านายนครชัย ต้องคำพิพากษาจริง และนำพิจารณาว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีในฐานความผิดที่กฎหมายกำหนดเป็นลักษณะมิให้ใช้สิทธิสมัครจริงหรือไม่