เปิดแนวทางศาลรธน.รับ-ไม่รับ ปมร้อนชงชื่อ “พิธา” ซ้ำ

เปิดแนวทางคำวินิฉัยศาลรัฐธรรมนูญรับ-ไม่รับ ปมร้อนผู้ตรวจการแผ่นดินส่งคำร้องมติรัฐสภาไม่ให้เสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมเทียบเคียงหลักกฎหมาย-คดีตัวอย่างที่ศาลเคยรับ-ไม่รับวินิจฉัย

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าในวันที่ 3 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งรับ-ไม่รับคำร้องกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินส่งคำร้องเพื่อให้วินิจฉัยกรณีรัฐสภาลงมติไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำเป็นครั้งที่สองนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งผลการวิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไรคงไม่อาจก้าวล่วงได้

ทั้งนี้จากการรวบรวมความคิดเห็นจากอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนักกฎหมายมหาชนได้คาดการณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจเป็นไปได้ดังนี้

สำหรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องจะมี 2 ลักษณะ คือ

ลักษณะที่ 1.ศาลรัฐธรรมนูญมองว่า เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะไปดำเนินการกันเอง ซึ่งข้อนค้างชัดเจนถ้าศาลจะเลือกทางนี้ เพราะในรัฐธรรมนูญมาตรา 148 และ 149 เขียนไว้ชัดเจนว่า ร่างข้อบังคับของสภาไม่ว่าจะเป็นสภาผู้แทน วุฒิสภา หรือรัฐสภานั้น หากยังเป็นร่างสามารถส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพิจารณาได้ว่าขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนเรื่องว่า ถ้าเป็นข้อบังคับจะทำอย่างไร ซึ่งตรงนี้อาจทำให้ศาลรัฐธรรมนูญอาจพิจารณาว่า การที่รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ และข้อบังคับที่ผ่านการพิจารณาจากศาลรัฐธรรมนูญตอนที่เป็นร่าง จึงกลายเป็นเรื่องของฝ่ายสภาที่จะดำเนินการ และสิ่งนี้คือกรณีท่หนึ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับ

 

 

 

ลักษณะที่ 2. กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า เรื่องที่เป็นการกระทำโดยรัฐบาลจะไม่เข้าข่ายในการที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ ทั้งนี้สำหรับเรื่องที่เป็นการกระทำโดยรัฐบาลในการประชุมการยกร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นของบรรดาผู้ที่เป็นคนยกร่างระบุไว้ว่า การกระทำของรัฐบาลมี 3 ลักษณะ คือ 1.การกระทำโดยคณะรัฐมนตรี 2.การกระทำที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อรัฐสภา และ 3.การกระทำที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐสภาต่อรัฐบาล

ดังนั้นจึงต้องมาดูว่า ขณะนี้เรามีรัฐบาลหรือไม่ และต้องมาดูว่าการกระทำของรัฐสภาที่เกี่ยวข้องกับการได้มาของนายกรัฐมนตรีเป็นความรับผิดชอบของรัฐสภาต่อรัฐบาลหรือไม่ และถ้าใช่ ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะไม่รับพิจารณา เนื่องจากเป็นการกระทำทางนิติบัญัติ จึงไม่สามารถก้าวล่วงกันได้ ส่วนการกระทำโดยรัฐบาลต้องตีความในกรอบกว้างโดยรวมถึงการกระทำของรัฐสภาด้วยที่มีผลต่อรัฐบาล ซึ่งทั้งสองกรณีนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับคำร้องไว้พิจารณา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาเชื่อว่า แนวทางการวินิจฉัยจะเป็น 3 ลักษณะ

ลักษณะที่ 1.รับเพื่อวินิจฉัยว่า ไม่ได้ เพราะเหตุว่าเป็นการกระทำของฝ่ายนิติบัญญัติในลักษณะเทียบเคียงตอนที่ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาในเรื่องการปฏิญาณตนของนายกรัฐมนตรี และ ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เนื่องจากไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรใดตามรัฐธรรมนูญ เพราะการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์เป็นการกระทำทางการเมืองของ ครม.อีกทั้งการฏิญาณตนไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการกระทำโดยนิติบัญญัติ

ลักษณะที่ 2.รับมาและวินิจฉัยว่า ไม่ได้เป็นญัตติ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะต้องส่งเรื่องกลับไป ส่วนสภาจะดำเนินการอย่างไรก็เป็นเรื่องของสภา เช่นจะให้เสนอชื่อนายพิธิซ้ำแล้วซ้ำอีก หรือพรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลโดยวิธีใด ซึ่งทุกอย่างเป็นหน้าที่ของสภาจะไปจัดการกันเอง

ส่วนที่ลักษณะที่ 3 คือศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า ข้อบังคับรัฐสภาข้อ 41 เป็นญัตติตามที่ ส.ส. และส.ว.ผู้อภิปรายลงมติในสภาถูกต้องแล้ว โดยศาลอาจชี้ว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 157 กำหนดไว้แบบนี้จึงเป็นญัตติ และถ้าเป็นญัตติก็เป็นเรื่องที่สภาต้องไปคุยกัน เพราะญัตติไม่สามารถเสนอซ้ำได้หากไม่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง โดยเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงยกตัวอย่าง เช่น ตอนนั้นเสนอชื่อนายพิธาคนเดียวและถ้าเสนอชื่อประกบถือว่า เปลี่ยนแปลงหรือไม่ หรือก่อนหน้านี้เป็น 8 พรรคเสนอ ถ้าเปลี่ยนเป็น 9 พรรคเสนอถือว่า เปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สภาต้องไปหารือกันเอง ซึ่งแนวทางศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยน่าจะวินิจฉัยประมาณนี้

 

 

สิ่งที่กล่าวหามาคือการเทียบเคียงแนวทางวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่น่าจะเป็นไปได้ในวันที่ 3 สิงหาคม ซึ่งถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องก็จะเป็นหน้าที่ของประธานสภาที่จะประชุมวิป 3 ฝ่ายเพื่อกำหนดวันโหวตนายกรัฐมนตรี และเมื่อดูท่าทีของนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาที่อาจเรียกประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 สิงหาคม จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจจะมีคำสั่งไม่รับคำร้องร้อนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเข้ามาก็เป็นไปได้

 

 


“ใหม่ Galaxy Z Fold 5 | Flip 5 สีพิเศษ โปรสุดคุ้ม จองวันนี้รับส่วนลดสูงสุด 6 ต่อ

🔥 เพิ่มความจุเป็น 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 10,000.-
🔥 ฟรี! Samsung Care+ 2 ปี มูลค่าสูงสุด 19,990.-
🔥 เก่าแลกใหม่ลดสูงสุด 6,500.-
🔥 ส่วนลด 30% เมื่อซื้อ Watch 6 series
🔥 รับเครดิตเงินคืน 5%* สูงสุด 3,300.-
🔥 ลูกค้าใหม่ โค้ด NEWMEM ลดเพิ่ม 1,000.-

จำนวนจำกัด 1,000 เครื่องเท่านั้น
เฉพาะที่ samsung.com

📅 26 ก.ค. – 10 ส.ค. 66
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด”

คลิกเพื่อพรีออเดอร์ได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/w14hd

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เจพาร์ค ศรีราชา” จัดพิธีอัญเชิญเทพเจ้าโอคุนินุชิ ประทับในศาลเจ้าโอคุนิ ศาลเจ้าชินโตแห่งที่สามของประเทศไทย
ก้าวสู่ปีที่ 5 Future Food Leader Summit 2025 ชวนสร้างไอเดีย บนแนวคิด “อาหารฟื้นฟูเพื่ออนาคต” เปิดตัว Future Food AI ครั้งแรกในเอเชีย
TIPH คว้าอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดของกลุ่มโฮลดิ้งส์ ตอกย้ำศักยภาพผ่านการประเมินจากทริสเรทติ้ง
"บิ๊กเต่า" เตรียมส่งทีมสอบ "บอสพอล" ปมเส้นเงิน 8 แสน โยงแม่นักการเมือง ส.
"วราวุธ" ขออย่านำ "เกาะกูด" เป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ MOU 44 ไม่เกี่ยวข้อกังวลทุกฝ่าย
แม่ค้าขนมครกโอดยอมกัดฟันสู้ หลังราคาน้ำกะทิขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทแต่ยันขายขนมครกราคาเดิมกลัวลูกค้าหด
"นายกฯ" เผย ครม.อนุมัติ 2.5 พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกร หลังน้ำลด
หนุ่มขับรถกระบะไปส่งหมู หลับในขับรถพุ่งชนฟุตบาท พลิกคว่ำตีลังกาชนเสาไฟ ดับคารถพร้อมเพื่อนต่างด้าวที่นั่งมาด้วยกันเสียชีวิต 2 ศพ
ครม.ตั้ง “บิ๊กรอย” นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม “คารม-ศศิกานต์” เป็นรองโฆษกรบ.
พบแล้ว "สุสานหรู" ถูก "ซินแส" ใช้ลวงเหยื่อ ซื้อที่ดินต่อดวงชะตาชีวิต ก่อนสูญเงินกว่า 30 ล้านบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น