โค้งสุดท้าย…..ลุ้นนายกฯ

ก้าวไกลยังดิ้นรนฝ่ายส้มยังดิ้นสู้ แว่วข่าวธนาธรบินไกลไปฮ่องกงเจอทักษิณคนแรก อ้อนขอโอกาสก้าวไกลร่วมรัฐบาล ยันถอยม.112 ไม่เดินหน้านิรโทษ แลกไม่ถูกถีบจากการเป็นรัฐบาลให้พิธาเป็นรองนายกฯควบกระทรวงเกรดเอก้าวไกลยังได้ 14 เก้าอี้รัฐมนตรี อีกด้านฟันธงคุยกันจบแล้วระหว่างทักษิณกับขั้วอำนาจปัจจุบัน เพื่อไทยสลับขั้วย้ายข้างถีบก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน แบ่งเค้กกันเสร็จสรรพทักษิณเลยมั่นใจขอกลับบ้าน

ตั้งแต่เลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 จวบจนวันนี้ก็ปาเข้าไปเกือบ 2 เดือนครึ่งแล้ว แต่ไทยก็ยังไม่มีนายกฯคนที่ 30 ไม่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศเสียที ด้วยเหตุที่พรรคอันดับ 1 ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างก้าวไกลแม้จะได้คะแนนเลือกตั้งมาถึง 14.4 ล้านเสียง ได้ส.ส.มา 151 คน แต่ก็จนปัญญาแสวงหาเสียงสนับสนุนจากส.ส.และส.ว. ทำให้ไม่สามารถได้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสองสภาคือ 376 หมดโอกาสผลักดันพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯของพรรคขึ้นเป็นนายกฯได้สำเร็จ ด้วยเหตุที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ และส.ว.ในสภาสูง ต่างไม่เห็นด้วยที่จะให้พิธาเป็นนายกฯไม่สนับสนุนก้าวไกลที่มีแนวคิดล้มเจ้ามีแนวคิดในการแก้ไขม.112 ขึ้นมาบริหารประเทศ แม้ก้าวไกลจะชนะการเลือกตั้งแต่ก็ไม่สามารถรวมเสียงข้างมากเสนอนายกฯตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้จึงต้องยอมยกสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคอันดับ 2 อย่างเพื่อไทยที่ได้เสียงส.ส.ตามหลังมา 141 เสียง

แต่การตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยก็ไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะแม้จะได้ฉันทามติจากก้าวไกลให้จัดตั้งรัฐบาล แต่เพื่อไทยก็ยังถูกผูกคอล่ามขากับ 8 พรรค 312 เสียงด้วยสัตายาบัน 23 ข้อที่ก้าวไกลเขียนขึ้นมาเป็นหลักในการจัดตั้งรัฐบาลตั้งแต่ไก่โห่หลังจบเลือกตั้งใหม่ๆ งานนี้เพื่อไทยก็เลยกระอักกระอ่วนใจเพราะไร้อำนาจเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งๆที่ความจริงสภาพของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ก็แตกเละไม่มีชิ้นดี ไม่มีใครยอมรับก้าวไกลในฐานะพรรคอันดับ 1 ของขั้ว   เพราะเป็นพรรคเจ้าปัญหาที่ทำให้เลือกนายกฯตั้งรัฐบาลไม่ได้  จุดยืนล้มเจ้าทำลายทำร้ายสถาบันเข้าเส้นเลือด จนทำให้ถูกส.ส.​กับ​ส.ว.บอยคอตไม่สนับสนุน​  ตอนนี้ก็กลายเป็นจุดอ่อนเป็นบ่อที่ทำให้ ขั้ว 8 พรรคมีสิทธิ์ซวยล่องจุ๊นไม่ได้เป็นรัฐบาลมากถึง 99 % เพราะไม่ยอมถอยไม่ถอยลดราวาศอกอคติด้านมืดในใจที่ทีต่อสถาบัน​ ​ ในส่วนเพื่อไทยก็ดันกลายมาเป็นพรรคการเมือง​หน้าบาง​   ไม่ยอมฉีกสัตายาบันไม่ยอมถีบก้าวไกลออกไปพ้นๆเสียที ทั้งๆที่ตัวเองอยากจะเป็นรัฐบาลใจจะขาดอยากไสหัวก้าวไกลไปให้พ้นๆทาง​ แต่เพราะกลัวจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศ กลัวจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนหักหลังพวกเดียวกันเอง​  กลัวจะถูกฝ่ายประชาธิปไตยเกลียดไม่เลือกส.ส.ของตัวเอง​ ​ ถึงขั้นทำให้พรรคถึงจุด​เสื่อมทรุดถดถอย

ด้วยเหตุนี้เพื่อไทยก็เลยต้องเล่นเกมหน้าอย่างหลังอย่าง​  ปากก็บอกว่ารักก้าวไกล แต่ในใจอยากถีบฝ่ายส้มให้ตกเรือใจจะขาด​ให้รู้แล้วรู้รอดไป​    เพราะเป็นมารคอหอยขวางทางเข้าสู่อำยาจ   แต่ส้มก็ไม่โง่ให้แดงหลอกง่ายๆ​ เพราะเคยตีโง่ตำแหน่งประธานสภามาครั้งนึงแล้ว​   แถมการมี MOU ข้าวต้มมัดผูกสองพรรคเข้าด้วยกัน พลอยทำให้เพื่อไทยขยับทิ้งก้าวไกลลำบาก ทั้งๆที่ความจริงอยากย้ายขั้วสลับข้างไปตั้งรัฐบาลกับ 5 พรรครัฐบาลรักษา​การแบบสุดๆ แต่กลัวขายหน้าชาวบ้านและสังคมประนาม เพราะเพิ่งไปหมั่นกับสาวก้าวไกลเมื่อสองเดือนก่อน ยังไม่ทันจะแต่งงานจะถอนหมั่นไปเอาสาวอื่นทำเมียเข้าประตูวิวาห์แทนเสียแล้ว เอาจริงๆฝ่ายส้มก็ชั่วที่ล้มเจ้าชังชาติ ส่วนฝ่ายแดงก็โคตรเลวเพราะเห็นแต่เรื่องประโยชน์ตัวเอง​ ยึดเรื่องเอาพ่อกลับบ้านอย่างเดียวเป็นหลัก​  ชั่วกับเลวมาเจอกันก็เลยทำให้ชาติบ้านเมืองบรรลัยอยู่เช่นทุกวันนี้​  ประชาชนตาดำๆเลยต้องทนรับกรรมเพราะไร้นายกฯไม่มีรัฐบาลมาบริหารประเทศ   ด้วยเหตุที่การเมืองยังตกลงผลประโยชน์ระหว่างกันไม่ลงตัว ด้านหนึ่งก้าวไกลก็พยายามรักษาที่นั่งใน 8 พรรค ทำทุกวิถีทางไม่ให้ถูกถีบออกจากเรือ ล่าสุดมีข่าวหลุดออกมาว่า​   ธนาธรเจ้าของพรรคตัวจริงร้อนตัวถึงขั้นบินไปคุยกับทักษิณที่ฮ่องกง​  ขอเวลาเจอโทนี่เป็นคนแรกเพื่อคุยดีลส้ม​  ไป 24 ก.ค.2566 กลับ 25 ก.ค.2566 เบื้องต้นเจ้าของพรรคส้มยืนกรานขออยู่เป็นรัฐบาลต่อโดยมีข้อแม้จะถอย ม.112 ให้​  ไม่เสนอไม่แก้กฎหมายลดความคุ้มครองสถาบันมาตรานี้ รวมถึงไม่นิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทั้งหมด แต่ต้องแลกด้วยข้อเสนอดังนี้​  หนึ่งพิธาเป็นรองนายกฯควบกระทรวงเกรดเอกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ก้าวไกลได้รัฐมนตรี 14 ตัวเหมือนเดิม แต่เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบว่าผลออกมาอย่างไร แต่เชื่อว่าคงยาก เพราะทักษิณก็รู้อยู่แล้วว่าก้าวไกลหมดสิทธิ์ที่จะต่อรองแล้ว เพราะกลายเป็นพรรคหมาหัวเน่าทางการเมืองไม่มีใครเอาไม่มีใครคบ

ประเด็นต่อมาอีกด้านก็บอกว่าภายในพรรคแดงฝ่ายเพื่อไทยเองตอนนี้ก็กระเพื่อมไม่แพ้กัน เพราะความเห็นของพ่อกับลูกไม่ตรงกันด้านหนึ่งฝ่ายอุ๊งอิ๊งอยากให้เพื่อไทยจับกับก้าวไกลต่อไปไม่อยากให้แยกจากขั้วประชาธิปไตย เพราะสะดวกที่จะเป็นพันธมิตรกับฝ่ายส้มล้มเจ้ามากกว่า แม้อาจจะต้องเป็นศัตรูกันในอนาคต ซึ่งแนวทางนี้ตรงกับความคิดของ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ที่ไม่เอาพรรค 2 ลุงอย่าง “พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ” เหมือนกัน ตรงนี้ก็เลยทำให้ดีลลับสลับขั้วถีบก้าวไกลยังไม่สำเร็จเสร็จสมบูรณ์​  เพราะเศรษฐากับแพทองธารไม่เอาด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็ตรงกับที่ “นายหญิง” คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เคยพูดกับนักข่าวเอาไว้ในทำนองว่า “เด็กๆเขาไม่เอาลุง ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไร” แถมล่าสุดยังมีข่าวว่าทักษิณพูดกับคนในพรรคว่า “เศรษฐาให้อยู่ทำเนียบ อุ๊งอิ๊งให้เฝ้าพรรค” ท​ี่ไม่รู้ส่งสัญญาณ​นัยยะอย่างไร   ส่วนข่าวอีกฝากก็เห็นต่างและบอกว่าดีลลับจบแล้ว ระหว่างทักษิณกับรัฐบาลรักษาการ​คุยกันจบแล้ว​  ขั้วใหม่ก็จะมีพรรคอันดับ (2+3+4+5+7) เพื่อไทย 141 ภูมิใจไทย 71 พลังประชารัฐ 40 รวมไทยสร้างชาติ 36 ชาติไทยพัฒนา 10 ประชาชาติ 9 เสรีรวมไทย 1 รวมกันก็ 308 เสียง ยังไม่นับพรรคเล็กๆปลาซิวปลาสร้อยอีก ขณะที่ขั้วฝ่ายค้านก็จะมีก้าวไกล​ 151​ เสียง​ เป็นแกนนำ ประชาธิปัตย์​ 25​ เสียง​ ที่เพื่อไทยไม่เอาไม่ต้องการทำงานด้วย ไทยสร้างไทย​ 6​ เสียงของ “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ทักษิณคุณหญิงพจมาน และ ” 3 เจ๊ใหญ่” ในเพื่อไทยไม่เอามาร่วมงานด้วยแน่นอน รวมถึงเป็นธรรมที่อยู่ห้อยกับก้าวไกลไปตลอด รวมฝ่ายค้านก็จะมี (151+25+6+1) 183 คน งานนี้คุยกันจบแฮปปี้เอนดิ้งทักษิณเลยมั่นใจประกาศกลับไทย 10 ส.ค.2566​

ส่วนใครจะเป็นนายกฯก็ค่อยไปว่ากัน แต่ไม้แรกถ้าเศรษฐาถูกเสนอชื่อขึ้นเป็นนายกฯตอนที่เพื่อไทยกับก้าวไกลยังไม่แตกกัน แสดงว่าเศรษฐาต้องเข้าปิ้งอดเป็นนายกฯแน่นอน ถึงตอนนั้นก็ไปลุ้นว่าจะเป็นใครระหว่าง “แพทองธาร-อนุทิน-ประวิตร” แต่ถ้ามีการฉีกสัตยาบันกันจบเพื่อไทยแตกหักกับก้าวไกลได้ก่อนโหวตนายกฯ ทักษิณคุยกับขั้วรัฐบาลปัจจุบันลงตัวโอกาสเศรษฐาก็อาจจะมีแต่น้อย อย่าลืมว่าเศรษฐาไม่มีพวก ไม่ลงเงิน ไร้บารมี คนในพรรคไม่ยอมรับ แถมยังมีคดีที่ชูวิทย์เตรียมออกมาแฉอีก อุ๊งอิ๊งอายุน้อยแค่ 38 ปี ประสบการณ์ยังไม่มี แถมแม่ไม่อยากให้เป็นใหญ่เร็วทามกลางสถานการณ์ขัดแย้งกลางเขาควายก็คงยาก ลุงป้อมมากบารมีแถมมีส.ว.หนุนแต่อายุมากวัยรุ่นคนรุ่นใหม่บอยคอตไม่ยอมรับ อนุทินเป็นพรรคเบอร์ 3 แต่ไม่มีส.ส.ไม่มีส.ว.ในมือถ้าไม่มีกำลังภายในมาช่วยก็ขึ้นเป็นนายกฯยาก โค้งสุดท้ายนายกฯ ต้องดูว่ายก 3 จะนัดโหวตกันเมื่อไหร่ วันนอร์ประธานสภาบอกจะนัดวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.2566 ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินปมโหวตซ้ำพิธาไหมในวันพุธที่ 3 ส.ค.2566 ถ้าไม่รับตีตกโอกาสโหวตนายกฯกันในวันที่ 4 ส.ค.2566 เลยก็มีความเป็นไปได้สูง ไม่อย่างนั้นก็ต้องรอไปอีกยาว เพราะวันนอร์มีคิวไปประชุมสภาอาเซียนที่อินโดนีเซีย 5-10 ส.ค.2566  แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับลูกการโหวตนายกฯก็คงถูกเลื่อนไปอีกยาว การเมืองตอนนี้ยังเปลี่ยนได้ทุกขณะ นายกฯคนใหม่ก็ยังต้องลุ้น แต่ในสำรับที่ลุ้นนายกฯไม่มีชื่อพิธา และฝ่ายค้านติดป้ายได้เลยก้าวไกลเป็นผู้นำ
/////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น