สื่อตะวันตกเผย ยูเครนสูญเสียอาวุธที่นาโตส่งให้ไปประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ช่วงเริ่มต้นของการตอบโต้รัสเซีย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ปูตินระบุ ยูเครนเสียกำลังพลไปถึง 10 เท่า จากการตอบโต้ชุดใหญ่ เมื่อไม่นานนี้
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ของอังกฤษรายงานโดยถึงข้อมูล จากเจ้าหน้าที่ยูเครนและตะวันตกว่า ความสูญเสียของยูเครน ในช่วงสัปดาห์แรกของปฏิบัติการตอบโต้รัสเซีย เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนั้น ถือว่าหนักกว่าที่คาดไว้มาก เพราะยูเครนตั้งใจที่จะเจาะแนวป้องกันของรัสเซีย ช่วงนั้น ยูเครนต้องสูญเสียชุดอาวุธของนาโตไปเกือบ 1 ใน 5 ของทั้งหมดที่นาโตจัดหาให้ ซึ่งบทความนี้ของไฟแนนเชียลไทม์ ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับบทความของนิวยอร์กไทม์ สื่อดังของสหรัฐ ที่เปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ยูเครนสูญเสียอาวุธไปเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ จากที่ส่งเข้าสู่สนามรบ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของการตอบโต้ ซึ่งทางนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวสหรัฐ ก็ยืนยันเช่นกันว่า ยูเครนสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก แต่ก็ยังมีกำลังสำรองมากเช่นกัน
ไฟแนนเชียลไทม์ยังรายงานต่อว่า หลังจากประสบกับความล้มเหลว การตอบโต้ไม่บรรลุผล ในระยะแรกของการปฏิบัติการ ผู้บัญชาการทหารของยูเครนได้เริ่มนำยุทธวิธีใหม่มาใช้ โดยได้เปลี่ยนเป็นการระดมยิงปืนใหญ่ ใส่ตำแหน่งของรัสเซีย แทนที่จะพยายามบุกทะลวงทุ่นระเบิดของรัสเซีย ด้วยยานเกราะของนาโต อย่างไรก็ดี ทหารยูเครนก็ยอมรับว่า กองกำลังรัสเซียแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ โดยรัสเซียเริ่มสูญเสียรถถังและยานเกราะน้อยลงอย่างมาก นับตั้งแต่ใช้กลยุทธ์สำรองมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์นอกรอบการประชุมสุดยอดรัสเซีย-แอฟริกาว่า กองทัพยูเครนได้เพิ่มการตอบโต้รัสเซีย แต่ยังคงประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก ล่าสุด ยูเครนได้ทำการโจมตีครั้งใหญ่ เข้าไปในเขตซาโปริซเซีย ที่รัสเซียยึดครองอยู่ ยูเครนได้มีการใช้รถถังและรถหุ้มเกราะมากมายประมาณ 50 คัน ซึ่งในจำนวนนี้มี 39 คันได้ถูกทำลายลง คือรถถัง 26 คัน และรถหุ้มเกราะอีก 13 คัน ขณะที่ในส่วนของกำลังพลนั้น กองทัพยูเครนก็สูญเสียทหารไปกว่า 200 นาย ด้านกองทัพรัสเซียก็สูญเสียเช่นกัน แต่ยูเครนสูญเสียทหารมากกว่ารัสเซียถึง 10 เท่าในระหว่างการสู้รบ