วันที่ 28 ก.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ถึงกระแสข่าวลือดิวฮ่องกง ที่พรรคก้าวไกลจะยอมถอยเรื่องม.112 และไม่ร่วมรัฐบาล หวังเสียงสว.โหวตนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยนั่งนายกฯ ว่า สำหรับท่าทีของสว. อย่างที่บอกจะมีพรรคก้าวไกลหรือไม่มีพรรคก้าวไกล ต้องอยู่ที่พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาล ว่ามีการไปแตะหรือกระทบอะไรมาตรา 112 หรือไม่ พรรคก้าวไกลจะร่วมหรือไม่ร่วม สนับสนุนหรือไม่สนับสนุน ไม่เกี่ยวกับวุฒิสภา อยู่ที่พรรคการเมืองจะไปตกลงกัน แต่ข้อสำคัญต้องอยู่ที่หลักการ ซึ่งสว.ยึดมาตลอด ว่าทุกพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาล ต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการเสนออะไรที่ไม่ไปกระทบกับความมั่นคงของประเทศ
ข่าวที่น่าสนใจ
“อย่างที่บอกถ้าไม่มีพรรคก้าวไกล ไม่มีการแก้ 112 ก็ไปอยู่ในหลักการพิจารณาทั่วไป ไม่ใช่จะไม่พิจารณาหรือเสนอใครมาก็เลือกเลย ต้องดูว่าคนที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ มีคุณสมบัติอย่างไร ไม่มีลักษณะต้องห้าม มีนโยบายที่จะก่อให้เกิดปัญหาของบ้านเมืองหรือไม่ ที่ผ่านมามีพฤติกรรมอย่างไร ไม่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบ้าง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ร่วมกับพรรคก้าวไกล แล้ว วุฒิสภาจะต้องเห็นชอบกับทุกเรื่องหรือทุกคน มันอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องพิจารณาให้ถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ” นายเสรี กล่าว
เมื่อถามว่ามีการระบุในเงื่อนไขว่าการตั้งรัฐบาลในช่วงแรกจะไม่มีก้าวไกล แต่หากมีการปรับครม.จะดึงเข้าร่วมรัฐบาลในภายหลัง มองอย่างไร นายเสรี กล่าวว่า โดยหลักการอยู่ที่ระยะเวลาการตั้งรัฐบาล เมื่อตั้งรัฐบาลแล้วก็อยู่ในเงื่อนไขที่เรากำหนดเพื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นเมื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ต้องมีหลักการสำคัญที่จะต้องประกาศกับประชาชนให้ชัดเจนว่าการร่วมรัฐบาลเป็นไปด้วยอุดมการณ์หรือแนวคิดจะทำอะไรไม่ทำอะไร ไม่ใช่มาหลอกประชาชน หลอกชาวบ้านเพื่อตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะในที่สุดเมื่อไม่มีสว.คนเป็นนายกฯ ก็ต้องรับผิดชอบกับประชาชน ถ้าหากพอได้เป็นนายกฯ แล้ว ไปปรับครม.ดึงพรรคก้าวไกลมาอันนี้ก็ไม่เกี่ยวกับสว.แล้ว มันเป็นเรื่องความรับผิดชอบของนายกฯ ที่มีต่อประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง