วานนี้ประเด็นใหญ่การเมืองเรื่องหนึ่งอยู่ที่วันมูหะมัด นอร์มะทา ประธานรัฐสภา เตรียมนัดประชุมสองสภาเพื่อโหวตนายกฯเป็นครั้งที่ 3 ในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.2566 ก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าญัตติที่ห้ามโหวตพิธาเป็นนายกฯเมื่อ 19 ก.ค.2566 เป็นญัตติซ้ำที่ไม่สามารถให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาได้ ตามข้อ 41 ของข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ในวันพุธที่ 3 ส.ค.2566 นี้ ทั้งนี้หากศาลตีตกไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน เชื่อวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.2566 ก็น่าจะโหวตนายกฯยก 3 ได้ แต่ถ้าศาลรับคำร้องงานนี้โหวตนายกฯก็คงเลื่อนไปอีกยาว อย่างน้อยก็ต้องรอให้วันนอร์กลับมาจากการร่วมประชุมสภาอาเซียนที่ประเทศอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 5-11 ส.ค.นี้ก่อน แล้วต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลด้วย ที่งานนี้หากมีการโหวตนายกฯครั้งต่อไปจริงในวันที่ 4 ส.ค.คนที่จะเป็นเต็งหนึ่งเต็งหามในการขึ้นเขียงคนต่อไปก็คือ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯคนแรกของพรรคเพื่อไทย
วานนี้ (27 ก.ค. 2566) ก็ถูก “เสี่ยอ่าง” ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาแฉซูเปอร์ดีลตั้งรัฐบาล ณ โรงแรม เดอะเดวิส พร้อมเปิดเผยหลักฐานการดีลจัดตั้งรัฐบาล โดยมีเบื้องหลังการเดินทางกลับไทยของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ที่ชูวิทย์ยืนยันว่าเกี่ยวข้องกันแบบเต็มๆ เพราะเพื่อไทยยอมเอาเสียงประชาชนที่เลือกตั้งมาแลกกับการกลับบ้านของนายใหญ่ทักษิณ งานนี้เสี่ยอ่างฟันธง พรรคภูมิใจไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ที่งานนี้ชูวิทย์ด่าออกอากาศว่า สูตร 279 คือ สูตรปล้นคะแนนประชาชน เพราะเป็นการยืมมือพรรคภูมิใจไทยในการสลัดพรรคก้าวไกลออกจากพรรคเพื่อไทย โดยในรัฐบาลชุดใหม่จะมีพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคอื่นๆ รวมกันทั้งหมด 279 เสียง ก่อนชู เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯคนที่ 30 ส่วนฝ่ายส้มล้มเจ้าจะถูกดีดไปเป็นพรรคฝ่ายค้านที่สมาชิกจะประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรครวมไทยสร้างชาติ และ พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 221 เสียง
” สูตรที่พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถรับได้ จึงทำให้มีการยื่นข้อเสนอว่า จะร่วมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่มี 2 ลุง และพรรคก้าวไกลจะถอยไปเป็นฝ่ายค้าน” ชูวิทย์ร่ายยาว ก่อนจะทำนายว่าลุงป้อมจะถอยหลังวางมือทางการเมืองแล้วให้ “บิ๊กป็อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.ที่เป็นน้องชายมากุมอำนาจแทน นอจากนี้ชูวิทย์ยังยืนยันอีกว่า ประเทศไทยจะมีนายกฯและครม. ชุดใหม่ไม่เกิน 15 ส.ค. แน่นอน ชูวิทย์สวมบทหมอดูแต่งานนี้ไม่วายกัดเศรษฐาเหมือนเคย โดยทวงถามความเหมาะสมของคนเป็นนายกฯคนใหม่ของประเทศไทยว่ามีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์จริงหรือไม่ ดูเหมือนชูวิทย์ยังตามจองเวรและทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางเศรษฐาไม่หยุด พร้อมยังประกาศว่า “ขงเบ้ง” หรือ “เสี่ยเบ้ง” ยังเป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของเศรษฐาเช่นเคย แถมเป็นคนกุมความลับของเศรษฐาด้วย
อย่างไรก็ตามในกระดานตั้งรัฐบาลล่าสุด เมื่อก้าวไกลหมดปัญญาเป็นนายกฯตั้งรัฐบาล ความชอบธรรมเลยตกไปอยู่กับพรรคอันดับ 2 เพื่อไทย ที่ถือว่าเข้าทางตีนของทักษิณแบบเต็มๆ จากที่เป็นนักโทษหนีคดีเป็นสัมภเวสีอยู่แดนไกลนาน 17 ปี นับตั้งแต่ถูกรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 โดยพล.อ.สนธิกับคณะคปค. วันนี้ปี 2566 โอกาสของทักษิณในการกลับบ้านเกิดกำลังจะสิ้นสุดและเป็นจริงๆ หลัง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนประกาศบน FB พ่อทูนหัวจะกลับเหยียบแผ่นดินไทย 10 ส.ค.2566 ทักษิณอ่านเกมขาดหลังเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 เมื่อก้าวไกลได้ 151 เพื่อไทยได้ 141 โอกาสของตัวเองในการกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน 7 คนมาถึงแล้ว ยิ่งก้าวไกลติดชนักล้มเจ้ามีประเด็นแก้ไขกฎหมาย 112 ถึงขั้นส.ส.ไม่เอาส.ว.ไม่รับ ชัดเจนขนาดพิธาชนะเลือกตั้ง14.4 ล้านเสียง มีด้อมส้มเชียร์ท่วมท้น ยังได้เสียงเห็นชอบแค่ 324 จาก 750 มีส.ว.มาโหวตให้แค่ 13 คน โหวตให้ตายก็ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ เมื่อโอกาสของก้าวไกลปิดลงประตูสู่อำนาจของเพื่อไทยก็สว่างไสวโล่งแจ้ง ทักษิณรู้ดีว่าโอกาสของเพื่อไทยในการเป็นรัฐบาลมาถึงแล้วเช่นเดียวกับโอกาสในการกลับบ้านที่รอบนี้ใกล้เคียงความจริงที่สุด
ในทางการเมืองทุกคนรู้ดีว่าทักษิณคือเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงเสียง ต่อให้บอกว่าไม่ยุ่งแล้วไม่เกี่ยวแล้ว อมพระประธานในวัดมาพูดคนก็ไม่เชื่อ ตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้ถนนทุกสายวิ่งไปหาทักษิณหมด เพราะแม้วถือแต้มต่อมีไพ่เหนือคนอื่นเที่ยวนี้เลยกินรวบจัดอำนาจเองทั้งหมด คิดดูถึงขั้นกล้าประกาศวันกลับไทยมั่นใจอำนาจในมือขนาดไหน เที่ยวนี้ธนาธรไปคนแรกตั้งแต่ 24 ก.ค.2566 เพราะสถานการณ์ก้าวไกลร่อแร่เจียนอยู่เจียนไป ถ้าไม่คุยกับทักษิณธนาธรก็คงไม่มั่นใจว่าสองพรรคจะไปต่อยังไง คล้อยหลังธนาธรกลับมาจากฮ่องกงจึงมีข่าวก้าวไกลจะยกมือให้แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย แต่ต้องแรกกับการไม่เอาสองพรรคลุงเข้ามาร่วมรัฐบาล และอนาคตเมื่อได้นายกฯแล้ว เพื่อไทยต้องดึงก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล บนพื้นฐานให้พิธาเป็นรองนายกฯควบรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ รวมถึงก้าวไกลยังได้เก้าอี้รัฐมนตรี 14 ตัวตามที่คุยกันไว้ในตอนแรก ฝ่ายส้มคิดไว้ว่าเป็นแบบนั้น
ขณะที่ข้อมูลอีกด้านระบุว่าทักษิณปิดซุปเปอร์ดีลกับรัฐบาลปัจจุบันเรียบร้อยโรงเรียนป้อม ขั้วรัฐบาลใหม่จะมีแกนนำเป็นเพื่อไทย 141 เสียง ภูมิใจไทย 71 พลังประชารัฐ 40 เสียง รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง ชาติพัฒนากล้า 2 เสียง ประชาชาติ 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง รวม 312 เสียง ตอนแรกที่ดีลกันไว้เสียงมันจบแค่ตรงนี้ไม่มีพรรคสีฟ้าประชาธิปัตย์ที่ตกขบวนเพราะปัญหาขัดแย้งภายในพรรคและเป็นศัตรูขั้วตรงข้ามแดงมาตลอด แต่ล่าสุด “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขั้วอำนาจใหม่ไหวตัวทันและกลัวจะตกขบวนถึงขั้นให้ “นายกฯชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ที่เป็นขุนพลเอกคู่ใจ ลงทุนบินไปพบทักษิณถึงฮ่องกงเพื่อเจรจาซูเปอร์ดีลในการร่วมรัฐบาล ข่าวว่าเดชอิศม์ถือสาส์นจากเฉลิมชัยไปยืนยันกับทักษิณว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคจำนวน 19 เสียงที่อยู่กับตัวเองจะไปหนุนแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทยและขั้วใหม่ และพร้อมร่วมรัฐบาลไปด้วยกัน โดยที่ทักษิณไม่ต้องกังวลบรรดาส.ส.อาวุโสในพรรค อาทิ ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ ซึ่งมีส.ส.ในมือราว 5-6 คน ที่เป็นขั้วตรงข้าม
เนื่องจากอำนาจในประชาธิปัตย์ตอนนี้ส.ส.ส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของเฉลิมชัยหมดแล้ว และเร็วๆนี้จะมีการล้างไพ่ล้างพรรคกันใหม่ ที่บรรดาผู้อาวุโสผู้เฒ่าคนเก่าคงถูกยกขึ้นหิ้งถูกลดอำนาจลดบทบาทกันหมด ขั้วใหม่อย่างเฉลิมชัย เดชอิศม์ ชัยชนะจะผงาดคุมพรรคสีฟ้า โอ้เอยอนิจจาประชาธิปัตย์ จากพรรคยิ่งใหญ่ถูกสถาปนาเป็นสถาบันทางการเมืองของไทย ก่อตั้ง 6 เม.ย.2489 จวบจนวันนี้ 77 ปี มีหัวหน้าพรรคมา 8 คน มีหัวหน้าพรรคมา 8 คน เป็นนายกฯมาแล้วถึง 4 คน คือ ควง อภัยวงศ์ ม.ร.ว.เสนีย์ปราโมช ชวน หลีกภัย และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีประธานสภามาแล้วก็หลายหน มารุต บุนนาค พิชัย รัตตกุล ชวน เคยเป็นพรรครัฐบาลมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง มีรองนายกฯ มีรัฐมนตรีจนนับไม่ถ้วน ในอดีตก็แก่งแย่งแข่งกันเป็นนายกฯแข่งเป็นรัฐบาลกับพรรคตระกูลชินมาตลอด ไล่ตั้งแต่ยุค ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย ไม่เคยมีสักครั้งที่ยอมก้มหัวยอมสยบยอมอยู่ใต้ตีนทักษิณฝ่ายแดงทุนนิยมสามานย์ แต่วันนี้เฉลิมชัยกับขั้วใหม่กำลังทำให้เกียรติภูมิของพรรคสีฟ้าหายไป เพราะเตรียมรื้อพรรคยึดพรรคโละคนเก่าเอาเลือดใหม่ฝ่ายตัวเองมาหมด นับประสาอะไรขนาด 4 หัวหน้าพรรค “ชวน-บัญญัติ-อภิสิทธิ์-จุรินทร์” ยังแทบไม่มีที่ยืนแม้ตารางนิ้วเดียวในพรรคสีฟ้า
ถ้าส.ส. 19 เสียงประชาธิปัตย์ยอมไปอยู่กับเพื่อไทยไปเป็นน้ำใต้ศอกของทักษิณจริง ขีดเส้นใต้หนาๆไว้ได้เลยว่าจุดเริ่มต้นยุคตกต่ำที่สุดของที่สุดของพรรคสีฟ้ามาถึงแล้ว บอกได้เลยว่าประชาธิปัตย์เตรียมม้วนเสื่อกลับบ้านได้เลย ปี 2562 ยุคมาร์คได้ 53 ปี2566 ยุคอู๊ดด้าเหลือแค่ 25 คราวหน้ายุคเสี่ยต่อบอกเลยหลักหน่วยต่ำสิบนอนมา ขนาดรอบนี้ได้น้อยกว่าเก่าเฉลิมชัยยังไม่รักษาคำพูดเรื่องกลับสามอ่าวเลิกเล่นการเมืองเลย สัจจะวาจายังไม่รักษาประชาธิปัตย์จะไปรอดได้ไง คนใต้เกลียดทักษิณยังกะขี้ไม่ชอบเพื่อไทยฝ่ายโกงฝ่ายล้มเจ้ายุคแรกยิ่งกว่าใคร คิดไม่ได้เดาไม่ออกก็ตัวใครตัวมัน บอกได้เลยเข้าร่วมกับเพื่อไทยวันไหนประกาศไปอยู่กับทักษิณเมื่อใด นับถอยหลังปิดพรรคได้เลยจากนี้ไม่มีทางที่พรรคสีฟ้าจะกลับมาเหมือนเดิม ต่ำแล้วจะต่ำกว่านี้อีก ต่อไปจะเป็นพรรคยอดหญ้าพรรคเรี่ยดิน เป็นพรรคตกอับพรรคไร้อันดับ เพราะไม่มีจุดยืนห่าเหวอะไรหลงเหลือให้คนเชื่อถือศรัทธาเลย
อย่าลืมว่าคนใต้คนรักประชาธิปัตย์ไม่เอาทักษิณไม่ชอบเพื่อไทยเข้าเส้น แซะในหลวงโกงชาติวิบัติทำบ้านเมืองแตกแยกคนไทยแตกร้าวตั้งพรรคพวกบริวารโกงกินสูบเลือดประเทศไม่สิ้นสุด ส้มโคตรอุบาทว์แดงก็เลวชาติไม่ต่างกัน คนไทยอย่าลืมคนไทยอย่าหลง ส้มก็ต้องขับไล่แดงก็อย่าไปเอา อธิบายเหตุผลชักแม่น้ำทั้ง 5 ขนาดไหนก็ไม่มีใครฟัง “เฉลิมชัย-เดชอิศม์-ชัยชนะ” จะลองเล่นเกมนี้ก็เอา อยากได้อำนาจอยากเป็นรัฐบาลอยากมีงานต่อก็ลองดู จากพรรคมีส.ส.เป็นร้อยสถาบันการเมืองยิ่งใหญ่เก่าแก่สุดในวงการ แต่อนาคตทางเลือกทางนี้พรรคจะพังแน่นอน งานนี้ปิดฉากสถาบันการเมืองได้เลย ประชาธิปัตย์พังยับปิดฉากจบแน่นอนไม่เชื่อคอยดู
//////////////////////
