หลังจากหยุดการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 ไปตั้งแต่ 19 ก.ค.2566 ล่าสุดก็ได้ฤกษ์กลับมาโหวตมาลุ้นนายกฯรอบใหม่ในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.2566 ที่งานนี้ตัวประธานรัฐสภาอย่างวันมูหะมัด นอร์มะทา อยากลุ้นให้โหวตนายกฯจบๆไปวันวันศุกร์ที่จะถึงนี้เลย เพราะตัวเองมีคิวจะเดินทางไปประชุมรัฐสภาอาเซียนที่ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ 5 -11 ส.ค. 2566 เพราะฉะนั้นถ้าโหวตวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.นี้ไม่จบหรือโหวตแล้วแต่ยังไม่ได้ตัวนายกฯ โอกาสที่การโหวตนายกฯครั้งต่อไปต้องรอไปราวกลางเดือนส.ค.ประมาณวันที่ 17 ส.ค.นู้นแหละถึงจะได้โหวตนายกฯคนใหม่ในรอบที่ 4
กรณีนี้คืออย่างเร็วที่สุดหากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีตีความญัตติการโหวตพิธาเมื่อ 19 ส.ค.เป็นญัตติซ้อนที่ขัดกับข้อ 41 ข้อบังคับรัฐสภา พ.ศ.2563 ที่ญัตติใดเสนอแล้วตกไปไม่สามารถเสนอกลับมาได้อีกในสมัยสภาเดียวกัน เว้นแต่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้นต้องลุ้นศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาเรื่องนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค.2566 ว่าจะรับคำร้องหรือไม่ ถ้าไม่รับคำร้องการโหวตนายกฯก็อาจจบเร็ว แต่ถ้าศาลรับคำร้องการโหวตนายกฯก็คงต้องรออีกยาวเพราะต้องรอให้คดีพิธาจบก่อน
อย่างไรก็ตามหากคำร้องพิธาถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตกไปในวันที่ 3 ส.ค.นี้ เชื่อแน่ว่าวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.นี้รัฐสภาจะลุกเป็นไฟแน่ๆ เพราะถึงคิวเพื่อไทยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯของตัวเองให้รัฐสภาโหวตบ้าง และตอนนี้ก็แน่นอนแล้วว่าเต็ง 1 ที่เพื่อไทยจะส่งโหวตเป็นนายกฯขึ้นเวทีคนแรกก็คือ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน อดีตบิ๊กบอสแสนสิริ ที่ในวัย 60 ปีกำลังมีลุ้นคว้าเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ของไทยหลังจากที่พิธาล่องจุ๊นไปแล้ว แต่เส้นทางของเศรษฐาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแถมเที่ยวนี้ตัวเองก็มีปัญหาเฉพาะหลายเรื่อง ประการแรกการยอมรับนับถือของสมาชิกในพรรคมีน้อย เพราะขาลอยมาไม่ได้เป็นส.ส.เป็นผู้แทนหรือเป็นสมาชิกพรรคที่ไต่เต้าต่อสู้มาเหมือนคนอื่น บุคคลิคความเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ พูดจาขวานผ่าซาก
ตรงนี้ก็ทำให้หลายคนในพรรคไม่ชอบลุคของเศรษฐาเอาเสียเลย จนถูกมองว่าขึ้นลิฟต์มาเป็นนายกฯ ไม่ได้ลำบากไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไรเลย แต่จู่ๆจะมาคั่วตำแหน่งนายกฯเลย ไหนจะมีเรื่องไม่ชอบมาพากลตอนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับเรื่องการซื้อที่ดิน ที่ประเด็นนี้ทาง “เสี่ยอ่าง” ชูวิทย์ ลักษณวิศิษฏ์ เอาออกมาขู่เอาออกมาแฉว่าเศรษฐาอาจมีเอี่ยวทำเรื่องที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือขัดจริยธรรม แค่นั้นไม่พอตอนนี้ก็มีคลิปที่เศรษฐาไปพูดเรื่องจะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม. 112 โผล่ว่อนเต็มโซเชี่ยลชนิดส.ว.ส่งต่อกันอุตลุต และน่าจะได้ดูครบทั้ง 250 คน ประเด็นนี้ก็น่าจะทำให้เครดิตในตัวเศรษฐาลดลงไปมากโขเพราะมีจุดยืนไม่ต่างจากพิธา
แค่นั้นไม่พอในส่วนของเพื่อไทยจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดว่าจะเอาอย่างไร แต่แกนนำหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์แบบมั่นใจว่า 4 ส.ค. 2566 จะโหวตนายกฯแบบม้วนเดียวจบ ที่ตอนนี้ 8 พรรคมีเสียงรวมกัน 311 เสียง ต้องหาเสียงส.ส.กับส.ว.อีก 65 เสียง เศรษฐาถึงจะได้เป็นนายกฯ ที่ก็อยากอีกเช่นกัน เพราะตราบใดที่ก้าวไกลยังอยู่กับเพื่อไทย บรรดาส.ส.และส.ว.ก็จะไม่โหวตให้เศรษฐาซ้ำรอยพิธาเหมือนเดิม เพราะ 5 พรรครัฐบาลเดิมอย่าง “ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา”
ก็ยืนกรานถ้ามีก้าวไกลจะไม่ให้โหวตให้แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย ส.ว.สภาสูงก็ตะเภาเดียวกัน ตรงนี้เพื่อไทยจะพลิกเกมยังไงจะเอาอะไรมาสู้ ขณะเดียวกันก็น่าติดตามว่าแม้จะมีข่าวว่าเพื่อไทยเตรียมถีบก้าวไกลลงจากเรือเพราะเป็นอุปสรรคขัดลาภขวางการเป็นรัฐบาล แต่จนถึงบัดนี้เพื่อไทยกับก้าวไกลก็ยังกอดคอรักกันเหนียวแน่น ก้าวไกลเอาอะไรมามั่นใจว่าเพื่อไทยจะไม่หักหลังทิ้งไปตั้งรัฐบาลใหม่ ทั้งๆที่สถานการณ์ทุกอย่างบังคับ สภาพแวดล้อมเป็นใจ สองพรรคมีแค่ MOU 23 ข้อเท่านั้นที่ผูกมัดกัน แต่ตอนนี้ก็ชัดเจนว่าเพื่อไทยไปต่อไม่ได้ตราบใดที่มีก้าวไกลอยู่ ขณะที่ฝ่ายก้าวไกลก็ยืนกรานชัด 8 พรรคไม่เอา 2 พรรคลุงไม่มีเพื่อนเป็นเผด็จการ
ทางเดียวเท่านั้นที่เพื่อไทยจะปลดแอกตั้งรัฐบาลได้ ก็คือ ถีบเพื่อไทยไปให้พ้นๆทาง ถามว่าแล้วเพื่อไทยจะถีบก้าวไกลออกตอนไหนจะทำอย่างไร ล่าสุดมีความพยายามจะนัดคุย 8 พรรคก่อนหน้าวันโหวตนายกฯหนึ่งวัน แว่วว่าเพื่อไทยจะบอกผลที่ไปหารือกับ 5 พรรคและส.ว. คือ ทุกฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข ม. 112 และไม่ประสงค์จะทำงานร่วมรัฐบาลกับก้าวไกล ขณะที่เพื่อไทยก็คงไม่คิดดึงพรรคสองลุงอย่าง “พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ” มาร่วมรัฐบาลให้เป็น 10 พรรคเพราะจะเสียหลักการเสียคำพูดของตัวเอง ถ้าจบอีหรอบนี้เศรษฐาก็อาจต้องยอมตายฟรีทางการเมือง เพื่อแลกกับการทำให้สังคมเห็นว่าเพื่อไทยรักษาจุดยืนความเป็นพรรคขั้วประชาธิปไตย ไม่หักหลัง ไม่ทรยศ ไม่ทำลายทำร้ายเพื่อนร่วมอุดมการณ์แม้จะต้องเสียโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลไปให้กับพรรคอันดับ 3 ภูมิใจไทยก็ตามที
อย่างไรก็ตามขอให้จับตาหมากกลของเพื่อไทยที่อนาคตแม้จะมีการปลดล็อคเอาก้าวไกลออกจากการร่วมรัฐบาลแต่ฝ่ายส้มก็จะยกมือให้แคนดิเดตนายกฯของฝ่ายแดง โดยจะมีการตั้งรัฐบาลแบบที่ไม่มีพรรค 2 ลุงเช่นกัน โดยสูตรนี้นอกจากจะมี 8 พรรค 311 เสียง จะมีภูมิใจไทย 71 เสียง ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง ชาติพัฒนากล้า 2 เสียง และงูเห่าจากประชาธิปัตย์ 19 มาช่วยเติม แต่อนาคตขอให้จับตาจะมีการตีเนียนปรับครม.เขี่ยภูมิใจไทย ถีบชาติไทยพัฒนา ทิ้ง 19 เสียงของประชาธิปัตย์ และพรรคเล็กๆออกหลังจากนั้นจะเอาก้าวไกลมาเสียบแทน แนวทางนี้สมชาย แสวงการ ส.ว.ตัวตึงก็ออกมาเตือนสภาสูงให้ระวังเล่ห์กลของเพื่อไทย ตอนโหวตนายกฯก็ทำทีว่าทิ้งก้าวไกลแต่พออยู่ไปก็จะกวักมือเรียกก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล สูตรหลอกส.ว.สูตรนี้แม้จะคิดได้ แต่เอาเข้าจริงก็คงสำเร็จยากคงไม่มีทางที่ส.ว.คนไหนจะโง่ไปยกมือให้กับเศรษฐาโดยเชื่อว่าอนาคตเพื่อไทยจะไม่เอาก้าวไกลเข้ามาร่วมรัฐบาล
ขณะที่สูตรเรื่องของการตั้งรัฐบาลโดยให้เพื่อไทยสลายขั้ว 8 พรรคแล้ว ย้ายขั้วสลับข้างมาอยู่กับขั้วรัฐบาลปัจจุบัน หรือสูตรโดดเดี่ยวก้าวไกลให้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว 151 เสียง อาจจะมีไทยสร้างไทยของเจ๊หน่อย 6 เสียง เป็นธรรม 1 เสียง และ อาจรวมประชาธิปัตย์ 25 เสียงเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน แต่การจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้เพื่อไทยจะโดนเรงต้านมหาศาลเหมือนอย่างที่จตุพรบอกว่าถ้าออกแนวทางนี้คนเต็มถนน บ้านเมืองจะกลับมาวุ่นวาย เพราะนอกจากเพื่อไทยจะหักหลังฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเองแล้ว
ยังถือเป็นการกลืนน้ำลายไปจับมือกับพรรคสองลุงตั้งรัฐบาลอีก เจอผิดพลาดสองเด้งแบบนี้เพื่อไทยก็คงอยู่ยากไปลำบากเหมือนกัน ยิ่งพอเรื่องสลับขั้วย้ายข้างถูกจับไปโยงกับการกลับบ้านของทักษิณล่าสุดเจ้าตัวประกาศว่าจะกลับไทยในวันที่ 10 ส.ค.2566 แต่ล่าสุดของล่าสุดข่าวว่าฟ้าเปลี่ยนสี ลมเปลี่ยนทิศ ทักษิณประเมินแล้วว่ายังเสี่ยงอยู่มากที่จะกลับไทย กลับมาก็มี 3 คดีตัดสินสิ้นสุดแล้วมีติดคุก 10 ปีรอโทนี่อยู่ ส่วนเรื่องพระราชทานอภัยโทษก็คงยาก เพราะคดีทุจริตไม่เคยได้รับการลดโทษง่าย ๆ แถมล่าสุดดวงของทักษิณก็ไม่ดีเอาเสียเลย
ถึงขนาดหมอปลาย พรายกระซิบ หมอดูดังยังออกมาเบรกไม่ควรกลับตอนนี้ เพราะท่านยมบาลกระซิบฝากถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ จะกลับมาคิดดีๆ เปลี่ยนใจได้ยังทัน ” ท่านยมฯ พูดทุกครั้งว่าไม่อยากให้กลับ เพราะฉะนั้นจะอยู่ใกล้ๆ นี่หรืออยู่ที่ไหน คุณทักษิณเปลี่ยนใจได้นะ ถ้าเข้ามาก็เข้ามาแบบลับๆ ก่อน แล้วถึงจะประกาศ แต่ทุกครั้งเตือนว่าให้รักษาชีวิตตัวเองดีกว่า จะไม่ปลอดภัย ยอมเสียสัจจะเถอะ บอกจะกลับมา 20 ครั้งใช่ไหมคะ มีครั้งที่ 21 เถอะเพื่อชีวิตตัวเองและครอบครัวจะปลอดภัยกว่า ถ้าไม่กลับช่วงนี้ อีก 2-3 ปีมีสิทธิ์ค่ะปลอดภัยกว่า ถ้ารออีก 3 ปีจะกลับมาแบบพิเศษ แต่ถ้ากลับในปีนี้ก็มีโอกาสติดคุก 70-80%” อาจไม่กลับมาตามที่ให้ลูกสาวอย่างอุ๊งอิ๊งประกาศ ตรงนี้ยิ่งทำให้ข่าวเรื่องการย้ายขั้วสลับข้างดูดรอปดูมีโอกาสน้อยลงไปมาก
ยิ่งมีข่าวนายใหญ่เปลี่ยนใจไม่กลับแบบนี้เพื่อไทยยิ่งเซยิ่งทรุดเข้าไปใหญ่ เอาง่ายๆตั้งรัฐบาลเลือกนายกฯเที่ยวนี้ ทุกพรรคมีข้อจำกัดทุกพรรคมีเดดล็อคกันหมด ไม่มีทางที่จะตั้งรัฐบาลมีนายกฯได้แบบราบรื่นโดยง่าย ต้องมีบางฝ่ายที่ต้องเจ็บต้องมีบางพรรคที่ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ไม่งั้นประเทศเดินหน้าไม่ได้ชาติไปไม่รอดเพราะไม่มีนายกฯไม่มีรัฐบาลมาบริหารประเทศ จะให้รอ 10 เดือนจนส.ว.ครบวาระ 11 พ.ค.2567 ก็ใช่เรื่อง เพราะนานเกินไปรอยาวขนาดนั้นบ้านเมืองก็วินาศสันตะโรกันพอดี โหวตนายกฯดูทรงแล้วอีก 1-2 นัดก็น่าจะรู้เรื่องใครจะเป็นนายกฯ ใครจะเป็นรัฐบาล
///////////////////////////