"ฮันเตอร์ ไบเดน" มีรายได้กว่า 4 ล้านดอลลาร์ขณะติดยา ช่วงเดียวกับตอนที่โดนฟ้องฐานจงใจไม่ชำระภาษีเงินได้ต่อรัฐบาลกลาง
ข่าวที่น่าสนใจ
เอกสารร่างคำร้องของนาย “ฮันเตอร์ ไบเดน” บุตรชายวัย 53 ปีของประธานาธิบดีโจ ไบเดนสหรัฐ ที่เพิ่งได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อวานนี้ระบุว่า ในปี 2560 เขามีรายได้มากกว่า 2.3 ล้านเหรียญ
- 1,000,000 เหรียญมาจากบริษัทร่วมทุนในจีน
- 664,000 เหรียญจากบริษัทลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของจีน
- 500,000 เหรียญจากบริษัทพลังงานของยูเครน
- 70,000 เหรียญจากธุรกิจในโรมาเนีย
- 48,000 เหรียญจากสำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ
- 666,000 เหรียญจากธุรกิจในประเทศ
- ส่วนในปี 2561 ฮันเตอร์ทำเงินได้มากกว่า 2.1 ล้านเหรียญ
ซึ่งรายรับเหล่านี้เกิดขึ้นในระหว่างการติดยาของเขาที่แย่ลงเรื่อย ๆ โดยเอกสารได้อ้างอิงถึง บันทึกส่วนตัวของฮันเตอร์ที่กล่าวถึงการมึนเมาอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนในปี 2561
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวได้ถูกส่งให้ศาลตั้งแต่เดือนมิถุนายน ตามข้อตกลงระหว่างนายฮันเตอร์และอัยการรัฐบาลกลางในเดลาแวร์ เพื่อเปิดเผยรายได้ของฮันเตอร์ในปี 2560-2561 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฮันเตอร์ถูกฟ้องเรื่องไม่จ่ายภาษี แต่เพิ่งได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อวานนี้ หลังจาก นางมารีเยลเลน โนเรกา ผู้พิพากษาเขตเดลาแวร์ สั่งให้เปิดผนึกตามคำขอของสื่อ
โดยในคำฟ้องระบุว่า ฮันเตอร์ได้รับทราบถึงภาระภาษีที่ต้องจ่ายจากนักบัญชี แต่ล้มเหลวในการดำเนินการ ซึ่งแทนที่เขาจะนำเงินไปจ่ายภาษี เขากลับนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว ทั้งถอนเงินสดออกมาจำนวนมาก จ่ายค่าบัตรเครดิตให้ลูก ๆ และซื้อรถปอร์เช่คันใหม่
และในเดือนตุลาคม 2564 ได้มีบุคคลที่สามที่ไม่ปรากฏชื่อได้จ่ายภาษีแทนฮันเตอร์ สำหรับปี 2560-2561 รวมถึงภาษีค้างชำระของปี 2559 และ 2562 ซึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ได้รายงานว่า เควิน มอร์ริส ทนายความฮอลลีวูด เป็นผู้ให้ฮันเตอร์ยืมเงินมากกว่า 2,000,000 เหรียญเพื่อนำไปจ่ายภาษี
อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนว่า นายฮันเตอร์ ได้ทำข้อตกลงกับกระทรวง ยินยอมจะรับผิดตามข้อกล่าวหา 2 กระทง เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องโทษจำคุก ด้วยการทำสัญญาคุมประพฤติ ในข้อหาครอบครองอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นในพื้นที่รัฐเดลาแวร์ในปี 2561
ซึ่งตามปกติมีโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี และปรับ 250,000 เหรียญ รวมทั้งรับผิดในข้อหาจงใจไม่ชำระภาษีเงินได้ต่อรัฐบาลกลางในปี 2560 และ 2561 แต่สุดท้ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้พิพากษาโนเรกาได้ประกาศระงับข้อตกลงดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม
KKDAY : Payday Yay! Sale – ไปไต้หวัน ลดสูงสุด 80%
รวบดีลเด็ดมาให้ ชวนเพื่อนไปเที่ยวไต้หวันในราคาสุดคุ้ม ลดสูงสุด 80% และของแถมอีกมากมาย : คลิกที่นี่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง