“13 วันที่ถูกเลื่อนไปนั้น คงเป็นเวลาเพื่อไทยจะถูกสาปแชง และเชื่อว่าไม่อยู่ในสภาพต้องรับมือกับสถานการณ์ใดได้เลย เพราะเพื่อไทยได้ขยี้หัวใจประชาชนไปแล้ว จนทำให้ความรักกลายเป็นอารมณ์ชิงชังเกิดระบาดอย่างเร็วมาก ดังนั้น ขณะนี้เพื่อไทยพูดอะไรคนจะไม่ฟัง ไม่เชื่อ และมีเสียงเสียดสีเป็นคำโกหกแบบพูดอย่างเพื่อไทยการละคร สิ่งนี้จึงเป็นอารมณ์ที่น่ากลัวที่สุด”
นายจตุพร กังขาว่า เมื่อเพื่อไทยไม่มีหัวใจแล้วจะอยู่ได้อย่างไร เพราะหัวใจที่ต้องการดึงความสุขของ 9 ปีที่เสียไปได้กลับมา ประชาชนทุ่มเทเลือกตั้ง สนับสนุนเพื่อไทย ด้วยหวังว่า จะนำพาความสุขและสิ่งที่ได้ประกาศไว้ให้เกิดเป็นจริง แต่กลับมาขยี้ความหวังประชาชนทิ้ง อารมณ์ชิงชังจึงก่อตัว แล้วแพร่สะพัดได้รวดเร็วขึ้น
“สิ่งสำคัญ การตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยนั้น ประชาชนรับรู้ได้ถึงเสียงที่จะมาร่วมต้องมากจากพรรคข้ามขั้ว แม้ไม่ประกาศจะจับมือกับพรรคใดบ้าง แต่ถ้าไม่จับมือกับ พปชร.และ รทสช.ก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว และสุดท้ายถ้าต้องการเป็นรัฐบาลก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้ววันนั้นก็เป็นวันจบสิ้นอย่างสมบูรณ์”
นอกจากนี้ เชื่อว่า อารมณ์ชิงชังของประชาชนจะลุกลามการสำแดงออกมากขึ้น อาจสะท้อนด้วยการลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ในเวลาถูกเลื่อน 13 วันนี้ คงทำให้จิตใจตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยฝ่อลงก็ได้ หากไม่เชื่อ นักการเมืองเพื่อไทยควรไปเดินห้างสรรพสินค้า หรือตลาดเพื่อตรวจสอบความนิยม จะได้ได้พบความจริงว่า คนไม่เหมือนเดิมกับเพื่อไทยแล้ว
“เมื่อดีลตั้งรัฐบาลข้ามขั้วยังไม่จบ จึงไม่มีอะไรมาแถลงได้ แต่สภาเลื่อนโหวตนายกฯ ออกไปอีก 13 วัน ย่อมเปิดโอกาสให้เพื่อไทยหายใจคลายความอึดอัดออกมาได้ แต่ยังต้องผจญเสียงด่าสาปแช่งที่มีอยู่ทั่วสื่อโชเชียล และปรากฎขึ้นจริงต่อหน้าเมื่อคนบุกมาถึงพรรคด้วย
นายจตุพร กล่าวอีกว่า อาการหนักทางการเมืองและเสื่อมทรุดของเพื่อไทยแสดงผ่านในหลายเรื่องที่สลัดไม่ออก ทั้งนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงโจมตีการเลี่ยงภาษีซื้อ-ขายที่ดิน เรื่องการแก้ ม.112 ที่คนสำคัญของพรรคประกาศช่วงหาเสียงยากจะดิ้นหลุดได้ง่ายๆ แล้วยังใช้วิธีการกล่าวอ้างมาผลักใสพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งไม่ควรนำมาใช้และนักการเมืองคุณภาพไม่พึ่งกระทำ
“หากเพื่อไทยมุ่งมั่นเป็นรัฐบาลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคิดผิด และเป็นรัฐบาลที่ไม่มีความสุขที่สุด นอนไม่หลับ และมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของประชาชน และไปที่ไหนจะลำบากยิ่งกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับจากประชาชนเสียอีก”
เมื่อเพื่อไทยเป็นเช่นนี้ ก็อย่าหวังคิดไปถึงการเลือกตั้งหนหน้ามาชุปฟื้นชีวิตให้กลับคืน เพราะไม่อาจดึงผลงานจากหุบเหวขึ้นมาประกาศศักดาได้อีกแล้ว ไม่ว่านโยบายการแจกเงินดิจิทัลจะถูกตีตก การแก้ รธน.จะไม่มีจริง และการเลี่ยงภาษีกว่า 500 ล้านบาท ย่อมถูกขยายผลซัดกระหน่ำซ้ำ ล้วนเป็นเวรกรรมที่ตามมาทันเร็วขึ้นกับการตัดสินใจผิด คิดแยกทางกับพรรคก้าวไกล
ดังนั้น ทุกอย่างที่คิดหวังมีแต่ความยากลำบากยิ่งขึ้น การข้ามขั้วเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ดูดี จึงเป็นไปไม่ได้อีก แต่กลับต้องแลกด้วยความหายนะและทางเลือกให้เดินแทบมีน้อยตามลำดับ สิ่งสำคัญ 141 เสียงจะไปกดดันพรรคฝ่าย 188 เสียงไม่ได้ด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามยิ่งถูกกดให้เป็นลูกมือทำตามพรรคอื่นเสียมากกว่า
นายจตุพร เชื่อว่า การเจรจาตั้งรัฐบาลข้ามขั้วถัดจากนี้ไป เพื่อไทยจะสูญสิ้นทุกอย่าง อีกอย่างจะถูกผู้คนประนามหยามเหยียด ยิ่งช่วงเวลาอีก 13 วันจากนี้อารมณ์ประชาชนจะปะทุถาโถมเข้าใส่ ซึ่งไม่ใช่อารมณ์ที่เป็นบวกหรือเข้าข้างเพื่อไทยเลย ยกเว้นแต่พวกนายแบก นางแบกเท่านั้นยังอาจภักดีอยู่ แต่นั่นยิ่งซ้ำเติมให้เสื่อมทรุดหนักขึ้นไปอีก
“อารมณ์ประชาชนขณะนี้เคยถูกเพื่อไทยปลุกปั่นทั้งการชิงชัง การทำให้เชื่อถือ เมื่อไม่เป็นจริงสักข้อแล้ว อารมณ์นี้ย่อมสวิงตีกลับอย่างรวดเร็ว แล้วเพื่อไทยจะไม่มีที่ยืนในพื้นที่ศรัทธาทางการเมืองเลย”
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ความหวังให้ สว.โหวตนายกฯ ให้เพื่อไทยในระดับเป็นร้อยเสียงขึ้นไปนั้น ในความจริงจึงหวังและเชื่อไม่ได้ เพราะการโหวตให้นายเศรษฐา แต่กลับเห็นทักษิณ ลอยเสนอหน้ามาเด่นชัด ซึ่งเป็นหน้าของระบอบทักษิณที่อยู่ตรงข้ามกับ สว.แต่งตั้ง ย่อมทำให้ลำบากใจ และผ่าน 376 เสียงได้ยาก พร้อมฉุดลากภาพลักษณ์นายเศรษฐา นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จจะตกต่ำตามไปด้วย
ส่วนเพื่อไทยไม่ดึงพรรค พปชร.กับ รทสช.เข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายจตุพร กล่าวว่า โอกาสนายเศรษฐาเป็นนายกฯ จึงเป็นไปได้ยาก อีกทั้งยังจะนำสู่เป้าหมายที่ต้องการของฝ่ายอำนาจเก่าที่หวังดึงให้ถึงคิวอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร เข้าสู่กระบวนการโหวตนายกฯ เพื่อเปิดทางการปิดฉากเพื่อไทยและการเมืองแบบตระกูลชินวัตรได้อย่างง่ายดายและจบบริบูรณ์
“การจัดการของเพื่อไทยที่ต้องการข้ามขั้วแล้วยังต้องการภาพดีด้วยจึงยากที่สุด การตระบัดสัตย์เพื่อให้เกิดภาพสวยงามไม่ง่ายเลย ดังนั้นจึงได้อย่างเสียอย่าง เมื่อต้องการอย่างนี้ต้องแลกกับความเสื่อม และความเสื่อมจะต่อรองอะไรไม่ได้ในวันที่คุณ (ตระกูลชินวัตร) ไม่มีประชาชนอยู่ในมือเลย เมื่อตัดสินใจแบบนี้ประชาชนที่ไหนจะมาตายให้คุณอีก ต่อให้ระดมมือปราศรัย หรือมือนักจัดการ แต่จะไม่มีคนมาเพราะคนจะหมดใจ”
นายจตุพร ย้ำว่า เมื่ออารมณ์ผิดหวังถาโถมใส่เพื่อไทย จึงเป็นสถานการณ์ยากมากกับการตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่เป็นลาภไม่ควรได้จากการแลกด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน ยิ่งการร่วมรัฐบาลโดยมี พปชร.กับ รทสช.ด้วย ย่อมเป็นการตัดสินใจที่ไม่มีอะไรจะสูญเสียอีกเพราะเมื่อขาดพรรคก้าวไกล ทุกสิ่งอย่างได้เสียไปหมดสิ้นแล้ว เวรกรรมจึงตามมาทันได้เร็วขึ้น
“ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำคือ รีบคืนอำนาจกลับสู่ประชาชน เพื่อลดหนทางเผชิญหน้ากับวิกฤต เพราะเส้นทางตั้งรัฐบาลข้ามขั้วไปกันไม่ได้อย่างแน่แท้ และมาถึงทางต้นแล้ว
“ใหม่ Galaxy Z Fold 5 | Flip 5 สีพิเศษ โปรสุดคุ้ม จองวันนี้รับส่วนลดสูงสุด 6 ต่อ
🔥 เพิ่มความจุเป็น 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 10,000.-
🔥 ฟรี! Samsung Care+ 2 ปี มูลค่าสูงสุด 19,990.-
🔥 เก่าแลกใหม่ลดสูงสุด 6,500.-
🔥 ส่วนลด 30% เมื่อซื้อ Watch 6 series
🔥 รับเครดิตเงินคืน 5%* สูงสุด 3,300.-
🔥 ลูกค้าใหม่ โค้ด NEWMEM ลดเพิ่ม 1,000.-
จำนวนจำกัด 1,000 เครื่องเท่านั้น
เฉพาะที่ samsung.com
📅 26 ก.ค. – 10 ส.ค. 66
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด”
คลิกเพื่อพรีออเดอร์ได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/w14hd