กลายเป็นวิวาทะเดือดอย่างต่อเนื่องสำหรับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ได้แถลงย้ำจุดยืนของพรรค คือ ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ในการจัดตั้งรัฐบาล หรือแม้ก้าวไกลจะออกไปก็ไม่ใช่ปัญหา ขณะเดียวกัน ยังเตือนกลุ่มชุมนุมที่เข้าไปดำเนินการบุกรุกพรรคเพื่อไทย อาจจะต้องดำเนินคดีติดคุกถึง 7 ปี ตามกฎหมาย รวมทั้งตำหนิเด็กหญิงหยก ซึ่งตนสงสารมารดาของเด็กหญิงหยก ที่สั่งสอนมา “ถ้าเป็นลูกผม ผมฆ่าทิ้งเลย เด็กแบบนี้เอาไว้ได้ที่ไหน ถ้าเป็นลูกผม ผมไม่เอาหรอก”
ข่าวที่น่าสนใจ
จากประเด็นข้างต้น เพจทะลุวังได้โพสต์ข้อความระบุว่า “… ก่อนหน้านี้พวกกูไม่เคยคิดไปพรรคมึง เพราะมึงมันไร้ค่า เกินกว่าที่พวกกูจะลดตัวลงไปเล่นด้วย แต่ต่อจากนี้ไป ถ้าพวกกูเจอมึงที่ไหน กูจะเอาขี้ละเลงยอดหน้ามึง ให้สมกับความคิดชั่วๆ ที่มึงพ่นออกมา ระวังส้นตีนไว้ จะไม่ได้แก่ตายนะไอแก่เสรีพิศุทธ์ …”
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ โดยกล่าวว่า เด็กพวกนี้คือเด็กเหลือขอ ที่ตนไม่เคยให้ราคา และไม่เคยเข้าไปอ่านคอมเม้นใดๆในทุกช่องทาง จึงฝากเตือนกลุ่มเด็กเหลือขอเหล่านี้ว่า อย่าลืมบ้านเมืองนี่มีกฎหมาย อย่าคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ อีกทั้งยังได้หยิบยกตัวอย่าง กรณีของนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาฯ ที่ตกเป็นข่าวฮือฮาในปี พ.ศ. 2537 ขณะดำรงตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อถูกติวเตอร์คนหนึ่งปาถุงอุจจาระ ใส่ขณะแถลงข่าว สุดท้ายก็ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้กล่าวความในใจที่มีต่อพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน จนทำให้พลาดโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องยอมรับกฎกติกา ที่วางเอาไว้ ในเมื่อรวบรวมเสียงข้างมากไม่ได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของพรรคลำดับต่อไป เมื่อพูดถึง สส.พรรคก้าวไกล ทั้งชายและหญิงบางคน ก็มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งๆที่ตัวเองคือผู้แทนราษฎร เช่น เมาแล้วขับ , ทำร้ายร่างกายผู้หญิง , ถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ ขาดคุณสมบัติ สส. แต่ก็ยังมาสมัคร จนสุดท้ายต้องยื่นใบลาออก หรือแม้แต่ สส.หญิง ที่สวมเสื้อโดนมีการสกรีนข้อความที่หน้าอกว่า ค.ว.ย. และกรณีมีการแชร์ภาพนั่งยกชันเข่า ระหว่างการประชุมสภาฯ และถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
นี่คือตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น ที่ส่งผลกระทบต่อพรรคก้าวไกล อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครสั่งใครสอนอะไร ก็ไม่ฟัง ยึดมั่นถือมั่น ไร้ระเบียบ ไร้มารยาท แต่ที่รับไม่ได้ที่สุดก็คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ก่อนหน้านี้มักจะออกเดินสายพบปะประชาชนตามจังหวัดต่างๆ หรือแม้แต่นัดหมายพูดคุยกับนักธุรกิจ ประหนึ่งตัวเองคือนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ทำแบบนี้อย่างไม่เคอะเขิน และหลงตัวเอง ทั้งๆที่จริงแล้ว ตามมารยาทไม่ควรทำอย่างยิ่ง และต้องไม่ลืมว่า ยังไม่ได้มีการโปรดเกล้าใดๆลงมา ดังนั้นถือว่าเป็นการกระทำมิบังควร
นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้กล่าวถึงพรรคก้าวไกล กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ได้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ….. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ซึ่งล่าสุดพรรค ก.ก.ได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอขยายเวลาในการส่งคำชี้แจงเพื่อแก้ข้อกล่าวหาออกไปหลังครบกำหนด 15 วันที่ต้องส่งคำชี้แจง ซึ่งประเด็นนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มองว่าคือจุดจบของพรรคก้าวไกล ก็ต้องจับตาว่าลำดับแรกศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยอย่างไร พฤติการณ์ของพรรคก้าวไกล จะเข้าข่ายการล้มล้างการปกครองหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคก้าวไกลไม่น่ารอด
🔥 เพิ่มความจุเป็น 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 10,000.-
🔥 ฟรี! Samsung Care+ 2 ปี มูลค่าสูงสุด 19,990.-
🔥 เก่าแลกใหม่ลดสูงสุด 6,500.-
🔥 ส่วนลด 30% เมื่อซื้อ Watch 6 series
🔥 รับเครดิตเงินคืน 5%* สูงสุด 3,300.-
🔥 ลูกค้าใหม่ โค้ด NEWMEM ลดเพิ่ม 1,000.-
จำนวนจำกัด 1,000 เครื่องเท่านั้น
เฉพาะที่ samsung.com
📅 26 ก.ค. – 10 ส.ค. 66
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด”
คลิกเพื่อพรีออเดอร์ได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/w14hd
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
