“เศรษฐา” มอบทนายความยื่นฟ้อง “ชูวิทย์” หมิ่นประมาทกล่าวหาเลี่ยงภาษี เรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท

"เศรษฐา" มอบทนายความยื่นฟ้อง "ชูวิทย์" หมิ่นประมาทกล่าวหาเลี่ยงภาษี เรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท

 

7 ส.ค. 2566 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงกรณียื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาในกรณีที่นายชูวิทย์กล่าวหาว่า บริษัทแสนสิริโดยนายเศรษฐาซื้อที่ดินและมีการหลีกเลี่ยงภาษี ว่า นายเศรษฐา ได้มอบอำนาจให้ตนฟ้องและดำเนินคดีกับนายชูวิทย์

 

 

 

 

 

โดยมีสาระสำคัญว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2566 จำเลยทราบอยู่แล้วว่า ในวันที่ 4 ส.ค. 2566 จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา และในวันประชุมรัฐสภาดังกล่าว คาดหมายว่าจะมีการเสนอชื่อ ในฐานะเป็นบุคคลที่สมควรจะได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมรัฐสภาทั้งนี้ จำเลยจัดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนและสาธารณชน ที่ โรงแรมเดอะเดวิส สุขุมวิท 24

 

โดยใช้ชื่อว่า ‘แฉเพื่อชาติ EP 1’ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ โดยการป่าวประกาศ ใส่ความโจทก์ต่อหน้าสื่อมวลชวนที่ไปทำข่าว และมีการถ่ายทอดสดเผยแพร่ต่อสื่อออนไลน์ ทั้งสื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ ในลักษณะใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม เพื่อให้ประชาชนบุคคลทั่วไป รวมทั้งสมาชิกรัฐสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ที่จะต้องลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบให้โจทก์เป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งบุคคลทั่วไป ที่ได้รับฟังรับชมการแถลงข่าวของจำเลย หลงเชื่อและเข้าใจว่า โจทก์เป็นบุคคลไม่ดี เป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่สมควรที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ก่อนการแถลงข่าว บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่แถลงการณ์ต่อสาธารณะ หัวข้อ ‘แสนสิริ ชี้แจงซื้อที่ดินถูกต้องตามหลักกฎหมายและธรรมาภิบาล’ ยืนยันว่าบริษัทฯยืนยันได้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล ถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใสและตรอจสอบได้ จำเลยสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงตามความจริงที่ถูกต้องได้ ทั้งต้องใช้ความระมัดระวังในการเสนอข้อเท็จจริง แต่จำเลยกลับไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนมีการแถลงดังกล่าว แต่ยืนยันข้อเท็จจริงและมีเจตนาที่จะไม่ให้สมาชิกรัฐสภาทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ที่จะต้องลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบให้โจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น และจำเลยมีเจตนาให้ประชาชนบุคคลทั่วไปที่ได้รับชมรับฟังการแถลงข่าวของจำเลยดังกล่าว หลงเชื่อ และเข้าใจทันทีว่า โจทก์เป็นบุคคลไม่ดี โกงภาษี ไม่มีธรรมาภิบาล เป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง

 

 

นายวิญญัติ กล่าวว่า ความจริงผู้ขายได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการโอนแบ่งคืนให้ผู้ถือหุ้นคนละวันกัน จึงไม่ถือว่าบุคคลดังกล่าวได้กรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพร้อมกัน ต่อมาเมื่อมีการขายให้บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทเดียวโดยต่างคนต่างขายคนละวัน หรือแม้ว่าจะขายในวันเดียวกัน ผู้ขายทั้งหมดก็ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 100/2543 ลงวันที่ 24 พ.ย. พ.ศ. 2543 ข้อ 4 (2) เนื่องจากข้อเท็จจริงกรณีนี้ไม่ได้มีการเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมพร้อมกัน จึงให้บุคคลแต่ละคนที่ถือกรรมสิทธิ์รวม เสียภาษีเงินได้ในฐานะบุคคลธรรมดา โดยแยกเงินได้ตามส่วนของแต่ละคนที่มีส่วนอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถือกรรมสิทธิ์รวม จำเลยยังเป็นการทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อร่างกายและจิตใจ เป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายข้อความ ซึ่งฝ่าฝืนความจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทางเจริญของโจทก์ ทำให้โจทก์ขาดความน่าเชื่อถือจากประชาชน เนื่องจากโจทก์เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นบุคคลที่พรรคเพื่อไทย มีมติให้ส่งชื่อกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี

“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า นายชูวิทย์มีเจตนา พูดไม่ครบถ้วน ให้ข้อเท็จจริงในลักษณะให้เกิดความเข้าใจผิด และมีวาระซ่อนเร้นที่จะกลั่นแกล้งโจทก์หรือไม่ การใส่ความนายเศรษฐาให้ประชาชน และสมาชิกรัฐสภาเชื่อว่า นายเศรษฐากระทำผิดกฎหมาย และขัดธรรมาภิบาล เพื่อหวังผลทางการเมือง และไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนอย่างที่นายชูวิทย์กล่าว ซึ่งทางโจทก์ได้ยื่นฟ้องพร้อมเรียกค่าเสียหายจากนายชูวิทย์จากการกระทำละเมิดต่อโจทก์ดังกล่าวเป็นเงินจำนวนห้าร้อยล้านบาทถ้วน พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าตำเลยจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์” นายวิญญัติ กล่าว

 

 

นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ตนทราบว่านายชูวิทย์กำลังป่วย ตนจึงให้กำลังใจในฐานะเพื่อนมนุษย์ แต่ที่ต้องฟ้องไม่ใช่การรังแกคนป่วย เป็นคนละเรื่อง เพราะการกระทำของคุณชูวิทย์ เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดกฎหมาย จะใช้สิทธิละเมิดผู้อื่นมิได้ เราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน หากโดนละเมิดสิทธิ คุณเศรษฐาก็ต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง ไม่เช่นนั้น คนทั่วไปและสมาชิกรัฐสภาหรือวิญญูชนย่อมเข้าใจในทางไม่ดีต่อคุณเศรษฐา และยังมีการกล่าวหรือกระทำการให้ร้ายอยู่ต่อไป แม้คุณชูวิทย์จะบอกว่าตัวเองป่วย ใกล้ตาย มีเวลาไม่นาน

 

 

แต่ก็ใช่ว่าสิ่งที่พูดจะต้องจริง ทางกฎหมายคือเจตนาใส่ความนั่นเอง เมื่อตนยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลอาญาแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าคดีอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรนำไปขยายประเด็นหรือใส่ความอีก เพราะจำเป็นต้องมีการฟ้องดำเนินคดีตามสิทธิ์ กล่าวโดยสรุป คุณเศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ย่อมอาจถูกตรวจสอบได้ แต่ประชาชนที่รับข้อมูลข่าวสารต้องพึงระวังว่าในข้อมูลนั้น และต้องรอบด้าน ไม่ใช่รีบตัดสินเพื่อเชื่อเลยทีเดียว เรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องภาษีและเป็นการดำเนินการตามมาตรการการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรไม่ใช่เรื่องเลี่ยงภาษีหรือทำให้รัฐเสียหาย

 

 

 

 

 


“ใหม่ Galaxy Z Fold 5 | Flip 5 สีพิเศษ โปรสุดคุ้ม จองวันนี้รับส่วนลดสูงสุด 6 ต่อ

🔥 เพิ่มความจุเป็น 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 10,000.-
🔥 ฟรี! Samsung Care+ 2 ปี มูลค่าสูงสุด 19,990.-
🔥 เก่าแลกใหม่ลดสูงสุด 6,500.-
🔥 ส่วนลด 30% เมื่อซื้อ Watch 6 series
🔥 รับเครดิตเงินคืน 5%* สูงสุด 3,300.-
🔥 ลูกค้าใหม่ โค้ด NEWMEM ลดเพิ่ม 1,000.-

จำนวนจำกัด 1,000 เครื่องเท่านั้น
เฉพาะที่ samsung.com

📅 26 ก.ค. – 10 ส.ค. 66
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด”

คลิกเพื่อพรีออเดอร์ได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/w14hd

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”
“ไอซ์ รักชนก” เตรียมระทึกอีก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน 11 ธ.ค.นี้ ลุ้นชี้ชะตาจะรอดคุกหรือไม่
ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่อุทยานขุดพรุน 14 ไร่ หาแร่ทองคำล้ำค่า เจ้าหน้าที่บุกจับแจ้ง 6 ข้อหาอ่วม
“ณัฐวุฒิ” ไม่เชื่อมีม็อบใหญ่ไล่รัฐบาล หยันหากมีก็แค่ ‘กองเชียร์ส้ม’ ในคราบอนุรักษ์นิยม
“ทนายสายหยุด” หน้าชา! “ทนายเดชา” ซัดคบไม่ได้-ขายลูกความ ไม่เชื่อ “ทนายตั้ม” ค้านประกันเมีย
รองพ่อเมืองกรุงเก่า ร่วมงานวิ่ง 'CPF & KASETPHAND RUN FOR CHARITY 2024' มอบรายได้แก่ 4 โรงพยาบาล ใน จ.พระนครศรีอยุธยา
ซีพีเอฟ คว้า 2 รางวัล Excellence Awards 2024 เป็นเลิศด้านการตลาด-ด้านสินค้าและบริการ
ดีเอสไอ คุมตัว ‘สามารถ-แม่’ ยื่นฝากขังอศาลอาญา ด้านแม่ ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ลั่นถูกกลั่นแกล้ง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น