“สว.สมชาย” ชี้เพื่อไทยดันแก้รธน.ฉบับปราบโกง แฝงเจตนาพา “ทักษิณ” กลับบ้านโดยไม่ติดคุก ยิ่งร้ายแรงกว่าแก้ 112

“สว.สมชาย” ชี้เพื่อไทยดันแก้รธน.ฉบับปราบโกง แฝงเจตนาพา “ทักษิณ” กลับบ้านโดยไม่ติดคุก ยิ่งร้ายแรงกว่าแก้ 112

วันที่ 10 ส.ค.2566 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวท็อปนิวส์ ถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ประกาศจะทำประชามติ ตั้งสสร.ขึ้นมาแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ว่า รัฐธรรมนูญไม่มีปัญหา และไม่ได้เป็นวิกฤติ ตามที่พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองต่าง ๆ บอก เพราะถ้ามีวิกฤติรัฐธรรมนูญ มันจะไม่เกิดกรณีที่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งขนาดนี้ ตนยืนยันว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้และแก้ได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติ เพราะประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญปราบโกง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้คดีทุจริต ไม่มีอายุความ

นายสมชาย กล่าวว่า ทำไมการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องเป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทย ตนก็สงสัย หรือเพราะเพื่อไทยมีภารกิจในการปฎิบัติการเอานายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี กลับบ้าน วิธีการที่ที่นายทักษิณ จะเข้าสู่กระบวนการตามปกติภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ต่อให้เป็นรัฐบาลก็ทำไม่ได้ คือออกจากเรือนจำโดยไม่ต้องติดคุก ไม่ได้

“คดีของนายทักษิณ มี 4 คดีที่ศาลตัดสินแล้ว โดยศาลฎีกา คดีของนายทักษิณ ไม่มีอายุความแล้ว เพราะเป็นคดีทุจริต ซึ่งเกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เดิมมีอายุความ 10 -15 ปี ขณะนี้พ้นระยะเวลาที่หนีไปแล้ว รัฐธรรมนูญฉบับนี้กับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ จึงทำให้คดียังมีอายุความอยู่ ซึ่งเป็นหลักที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นคดีนายทักษิณ ที่ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี นายทักษิณ ก็ต้องเข้ามาติดคุก 3 ปี 4 เดือนก่อน ถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ นายทักษิณก็เลยไม่เดินทางกลับมาในวันนี้ (10 ส.ค.) ที่บอกว่าจะเดินทางกลับ” นายสมชาย กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสมชาย กล่าวว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับใครได้ประโยชน์ คนที่ได้ประโยชน์แน่นอนคือนายทักษิณ ถ้าล้มรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ทำให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ ที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระ ล้มไปด้วย และเขียนกฎหมายขึ้นใหม่ อาจเขียนให้รีเซ็ต กกต.ชุดเก่าเลยก็ได้ รีเซ็ตป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ หรือเขียนเปลี่ยนอำนาจเลยก็ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้

นายสมชาย กล่าวว่า เราสงสัยว่าทำไมถึงบอกว่าวิกฤติรัฐธรรมนูญ ทำไมต้องล้มรัฐธรรมนูญ และร่างใหม่ โดยยังไม่มีกรอบว่าจะยกร่างอย่างไร บอกแต่ว่า สสร.มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมี ถ้ามีสสร.มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเมื่อไหร่ คือหัวคะแนนของพรรคการเมือง มาตามฐานเสียงของพรรคการเมือง วันนี้พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล มีเสียงอยู่เท่าไหร่ มาจากคะแนนเลือกตั้งเท่าไหร่ ก็จะได้สสร.แต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ตามนั้น ถ้าสสร.มาจากหัวคะแนนของพรรคการเมือง ก็ย่อมร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประโยชน์กับพรรคการเมืองไม่น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยทั่วไป

การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ โดยที่ไม่มีกรอบ น่าเป็นห่วง อย่าลืมว่าอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลเป็นปัญหาที่พวกเรากังวล โดยเฉพาะการแสดงออกที่ชัดเจนของผู้นำทางความคิดของพรรคก้าวไกล คือนายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายธนาธร จึงรุ่งเรือง ประกอบกับความเคลื่อนไหวร่วมกับมวลชนต่าง ๆ การเคลื่อนไหวทางโซเซียล การไปประกันตัวแกนนำม็อบมาตลอดหลายปี เห็นชัดว่ามีทัศนคติเป็นลบต่อสถาบัน เพราะฉะนั้นการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อไทยอาจต้องการเรื่องหนึ่ง ก้าวไกลต้องการเรื่องหนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงม. 112 แค่แก้หมวด 2 พระมหากษัตริย์ ม.6 พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมืองผู้ใดจะล่วงละเมิดไม่ได้ ก็ไม่ต้องเขียนไว้ เรื่องนี้ยิ่งกว่าแก้ไข ม.112 อีก แค่นี้ก็คุ้มกับที่พวกเขาจะเคลื่อนไหว ถ้าถามว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไร ในฐานะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการร่างรัฐธรรมนูญมาตลอดการทำงานทางการเมือง ตนเห็นว่าเรื่องนี้อันตรายเพราะไม่มีกรอบ และผู้ร่างฯ มีทัศนคติที่ต้องสงสัยอยู่แล้วว่าจะทำอะไรกับรัฐธรรมนูญ

ต่อข้อถามว่าการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป ถ้าพรรคก้าวไกลยกมือสนับสนุนให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย โดยเป็นการปิดสวิตซ์สว. จะเป็นอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ก็ให้เดินหน้าโหวตไปเลย สว.เคยพูดมาตลอดว่าถ้าสามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งก็หมดภาระของสว.แต่ประเทศจะเป็นอย่างไรก็ติดตามต่อ ตนได้รับการประสานจากประธานรัฐสภา เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ว่าวันที่ 22 สิงหาคม จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ถ้าวันนั้นพรรคก้าวไกลเทคะแนนให้ เท่ากับพรรคภูมิใจไทยกับพรรคชาติไทยพัฒนาถูกต้ม จะถอนตัวหรือไม่ถอนตัว แต่เขาสำเร็จไปแล้วก็ได้นายกฯ สว.ก็คงไม่เกี่ยว แต่ประเทศชาติจะดีหรือไม่ดี ก็ต้องติดตาม แต่ถ้ารัฐบาลเสียงไม่พอ ต้องอาศัยเสียงสว.ตนเห็นว่ามันควรจะเกิดรัฐบาลสมานฉันท์ เหลืองรวมกับแดง หรือส้มกับเหลืองผสมกัน ไม่เป็นปัญหา

นายสมชาย กล่าวว่า ตนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยที่กำลังจัดตั้งรัฐบาล ถ้าจะรวมกับพรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ให้ดิวตรงไปตรงมา อย่ามาเอางูเห่า ประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่าให้เป็นเอกสิทธิ์สส. มันไม่จริง เพราะจะทำให้พรรคการเมืองล่มสลาย ถ้าพรรคการเมืองทุกพรรคมารวมกันที่เคยเป็นคู่อริทางการเมือง เคยเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองมารวมกัน สามารถอธิบายได้ เพราะถ้าวันนี้เรายังติดอยู่กับกับดักของแต่ละฝ่าย ไม่ลด ไม่ลืมเรื่องเก่ากันบ้าง ประเทศก็เดินหน้าไม่ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น