เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “คาหนัง…คาเขา?” ว่า พรรคเพื่อไทยจ้องเล่นเกมการเมืองมาเป็นข้ออ้างไปจับมือพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงเกิดความปั่นป่วนทำให้ประชาชนหาความจริงไม่ได้กับการตั้งรัฐบาลที่กำลังดำเนินอยู่ แต่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย่อมรับรู้ถึงเกมของเพื่อไทยได้ดี จึงกระโจนลงไปเล่นบททำให้มั่วกันไปด้วยเหมือนกัน คำพูดของนายพิธา ที่ว่า “ใครจะไปรู้เราอาจจะเป็นรัฐบาลก็ได้” สะท้อนว่าเมื่อเพื่อไทยต้องการใช้ก้าวไกลเป็นทางผ่านไปสู่พลังประชารัฐแล้ว จึงเล่นเกมกลับโดยใช้เพื่อไทยทำให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นกัน ประกอบกับ สว.สงสัยพฤติกรรมของเพื่อไทยกับก้าวไกลอยู่แล้ว และพรรคการเมืองที่ประกาศเสียงดังไม่เอาก้าวไกลก็ไม่สบายใจ ดังนั้นนายพิธาจึงต้องเล่นเกมกลับแบบต้มมาก็ต้มไป ไม่ยอมให้เพื่อไทยมาตีกินฟรีเพื่อเป็นทางผ่านไปจับมือกับพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ
“จตุพร” ชี้ “พิธา” รู้ทันเพื่อไทยปล่อยที่เด็ดอาจได้เป็น รบ. เติมเชื้อระแวงของ สว. และทำบางพรรคไม่สบายใจ ฟันธง “ประวิตร” ประกาศยก 40 เสียงหนุนนายกฯ ฟรีๆ ไม่มีต่อรอง มัด “ชลน่าน-อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา” กระอัก ต้องรับผิดชอบคำพูดไม่จับมือพรรค 2 ลุง
ข่าวที่น่าสนใจ
นายจตุพร กล่าวอีกว่า เพื่อไทยไปขมาก้าวไกลสำแดงผลทันที จู่ๆพลังประชารัฐให้นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ประกาศที่สภาฯว่า พปชร.จะยกเสียงทั้งหมด 40 คน ไม่เว้นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เพื่อโหวตนายกฯ ของเพื่อไทยฟรีๆ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการต่อรองเข้าร่วมรัฐบาล หรือตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆทั้งสิ้น โดยหวังให้มีรัฐบาลและประเทศจะได้เดินหน้าต่อได้ ปัญหาจึงอยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะเล่นบทอย่างไรตามมา เพราะเมื่อวานนี้ยังขอขมาก้าวไกล แต่วันนี้พลิกเกมเร็วมาก การมอบตัวของ พปชร.จึงเป็นสัญญาณใหญ่ เหมือนขู่กันกลายๆ เช่นกัน
อีกอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ก็เปิดข่าวจะตรวจสอบการถือครองที่ดินของ สส.10 คน ซึ่งเป็นลีลาน่าคิดอย่างยิ่ง ดังนั้นการเมืองตั้งรัฐบาลยังไม่จบง่ายๆ อย่างไรก็ตามเมื่อ พปชร.เล่นเกมขู่กลับมา คนฉิบหายคือ นพ.ชลน่าน อุ๊งอิ๊ง และนายเศรษฐา ต้องรับผิดชอบ เพราะหาเสียงประกาศไม่จับมือกับ พปชร. และ รทสช. ดังนั้นในทางการเมือง นพ.ชลน่าน ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคตามที่ประกาศไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง