“อัษฎางค์” เบิกเนตร “วิโรจน์ ก้าวไกล” โหนด่ารัฐ ยกเคสออสเตรเลีย ทำมานานแล้ว พิสูจน์ความจนก่อนรับเบี้ยผู้สูงอายุ

“อัษฎางค์” เผยประเทศเจริญแล้ว ต้องพิสูจน์ความจนก่อนรับเบี้ยผู้สูงอายุ แนะ “วิโรจน์” ออกจากกะลา ซัดปากเรียกร้องความเท่าเทียม แต่จะให้นำภาษีมาแบ่งจ่ายให้เศรษฐีที่ไม่ได้เดือดร้อน

วันนี้ นายอัษฎางค์ ยมนาค โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กเรื่อง ”พิสูจน์ความจน”ก่อนมีสิทธิ์รับ”เบี้ยผู้สูงอายุ” เมืองฝรั่งมี แต่ไทยกำลังจะมี ซึ่ง ส.ส.ไทยอาจไม่เคยรู้! โดยระบุรายละเอีดยว่า Age Pension หรือที่เมืองไทยเรียกว่า”เบี้ยผู้สูงอายุ” นั้น ในทุกประเทศที่เจริญแล้วทั่วโลก ต้องมีการ Tests ซึ่งก็คือ”การพิสูจน์ความจน” ก่อนที่จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ถ้าไม่มีการการตรวจสอบคุณสมบัติผู้จะได้รับ”เบี้ยผู้สูงอายุ” ก็จะทำให้ผู้ที่มีรายได้สูงหรือมีทรัพย์สินมากอยู่แล้วได้รับ”เบี้ยผู้สูงอายุ” เหมือนคนที่ไม่มีรายได้และไม่มีทรัพย์สมบัติ ไหนเรียกร้องความเท่าเทียม ตกลงคุณต้องการนำ”ภาษีกู”มาแบ่งจ่ายให้เศรษฐีได้รับเบี้ยผู้สูงอายุเหมือนคนจนหรือ คุณต้องการแบบนั้นจริงหรือ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอัษฎางค์ ระบุอีกว่า ส.ส.วิโรจน์ พรรคก้าวไกล ออกมาโวยรัฐ “เอาหน้า” เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน หรือสร้างความเกลียดชังของประชาชนต่อรัฐ หรือออกมาแสดงการถึงการด้อยความรู้ กันแน่ ส.ส.วิโรจน์ ใช้คำว่าการพิสูจน์ความจน คือการที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมจ้องแต่จะกดคนให้จนและพยายามตัดเบี้ยผู้สูงอายุ ผมจะช่วยเปิดกระโหลก เปิดกะลาให้ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกลียด ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีสวัสดิการแห่งรัฐดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็กำหนดว่า ผู้ที่เกษียณอายุ ต้อง”การพิสูจน์ความจน” ก่อนจะมีสิทธิ์รับเบี้ยผู้สูงอายุ” ซึ่งรายละเอียดสำหรับการ ”การพิสูจน์ความจน”ของออสเตรเลียนั้นเยอะมาก และต้องใช้เวลาอ่านทำความเข้าใจอย่างมากถึงจะเข้าใจได้ทั้งหมด ไม่ใช่เหมือนเมืองไทยที่ใครอายุ 60 ก็รับเบี้ยผู้สูงอายุทันทีถ้วนหน้า เงินภาษีของประชาชนต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมิใช่หรือ แล้วทำไมถึงยินดีที่จะจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุซึ่งเป็นเงิน”ภาษีกู”ให้กับเศรษฐี ซึ่งเขาไม่ได้เดือดร้อน

เบี้ยผู้สูงอายุเพียง 600 หรือ 3,000 ตามนโยบายก้าวไกลที่ออกมาหาเสียงว่าจะให้คนแก่ตอนก่อนเลือกตั้ง จนคนแห่ไปกาให้ก้าวไกล ก่อนที่ก้าวไกลจะมาประกาศหลังเลือกตั้งว่ายังทำไม่ได้ ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุวัยเกษียณ แต่ไม่มีผลอะไรกับเศรษฐีเลย เอาเงินก้อนนี้ไว้จ่ายผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์หรือไม่มีรายได้ ไม่ดีกว่าหรือ เพราะผู้สูงอายุวัยเกษียณกำลังเพิ่มขึ้นทุกปี ขอยกตัวอย่าง การพิสูจน์ความจน เพื่อรับเบี้ยผู้สูงอายุในออสเตรเลียเล็กน้อย ได้แก่
-ต้องมีรายได้ต่ำจริงหรือไม่มีรายได้เลย
-ผู้สูงอายุวัยเกษียณบางท่านยังคงมีรายได้จากทรัพย์สินเช่น การขายทรัพย์สินต่างๆ เช่น บ้าน)รายได้จากการเล่นหุ้น, เป็นหุ้นส่วนบริษัท หรือบางท่านยังทำงานอยู่แม้จะเลยวัยเกษียณแล้วก็ตาม
-แรงงานที่ออสเตรเลียไม่ได้เกษียณที่อายุ 60 รุ่นผมเกษียณด้วยอายุ 67

นายอัษฎางค์ ระบุต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนไทยวัยเกิน 60 ที่ยังทำงานมีรายได้สูงมากในออสเตรเลีย แอบกลับมารับ”เบี้ยผู้สูงอายุ”จากรัฐบาลไทยด้วย ได้ 2 ต่อ ทั้งที่รายได้สูงอยู่แล้ว คุณอยากได้แบบนี้ใช่มั้ย หรือคนไทยวันเกษียณที่อยู่เมืองไทยก็ตาม แต่เขายังคงมีรายได้จากการทำงาน มีรายได้มหาศาลจากการขายทรัพย์สินต่างๆ เช่น บ้าน มีรายได้จากการเล่นหุ้น หรือเป็นหุ้นส่วนบริษัท แต่เขาได้รับ”เบี้ยผู้สูงอายุ” เท่ากับผู้สูงอายุคนอื่นๆ ที่มีรายได้น้อยหรือไม่มีเลย คุณ ส.ส. คุณทนาย คุณอาจารย์นักวิชาการ คุณนักเรียกร้องสิทธิ์ พวกคุณเรียกสิ่งนี้ว่าความเท่าเทียมกันหรือ พวกคุณโจมตีว่า การพิสูจน์ความจนหรือกฎเกณฑ์ที่รัฐกำหนด เพื่อให้ได้คนที่สมควรได้รับความช่วยเหลือจากรัฐในเรื่อง “เบี้ยผู้สูงอายุ” ว่ารัฐกดขี่คนจน ผู้เฒ่าผู้แก่หรือ ทั้งที่เป็นการใช้เงินจาก”ภาษี” ให้ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง รวมทั้งเป็นไปตามหลักสากลที่ทั่วโลกเขาทำกัน เปิดกะโหลก ออกจากนอกกะลากันเสียที อย่าฟังแต่เสียงโกหก เพื่อหาเสียงของนักการเมืองจอมบิดเบือนเสียทีพี่น้องไทย

นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่รับเบี้ยผู้สูงอายุอยู่แล้ว ยังคงได้รับตามเดิม เฉพาะผู้ทีกำลังจะครบ 60 รุ่นต่อๆ ไปเท่านั้นที่เข้าตามหลักเกณฑ์ใหม่ เนื่องจากสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่แปลว่า ผู้สูงอายุจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นสูงขึ้นทุกปี
พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลของพวกคุณ ยังเคยประกาศกลางสภา เรื่องเบี้ยช้างป่วย ที่จะเป็นปัญหาใหญ่กับงบประมาณแผ่นดินมิใช่หรือ แต่พอรัฐบาลเขาปรับกฎเกณฑ์เพื่อจะได้ไม่เกิดเบี้ยช้างป่วย พวกคุณก็ออกมาต่อต้าน ตกลงคุณจะต่อต้านและโจมตีทุกอย่างที่รัฐบาลลุงทำคือไม่ถูกต้อง ว่างั้นเถอะ นี่มันคือเรื่องเบี้ยช้างป่วย เรื่องเดียวกันเลยนะ จะบอกให้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น