ผู้การฯ ปทส. เผยความคืบหน้าคดีตระกูล "จึงรุ่งเรืองกิจ" รุกป่าสงวนจังหวัดราชบุรี อยู่ระหว่างอัยการพิจารณา พร้อมแสดงความมั่นใจ คดีไม่หลุด เอาผิดได้แน่นอน

จากกรณีเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2565 กรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) จำนวน 60 ฉบับ เนื้อที่ 2,154-3-82 ไร่ ของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถือครองที่ดินบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ในพื้นที่ ตำบลรางบัว ตำบลด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ที่ได้ออกเมื่อปี พ.ศ. 2521 ตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส. 3 ก.) โดยใช้ระวางรูปถ่ายทางอากาศมิได้แจ้งการครอบครองที่ดิน

ความคืบหน้าล่าสุด ทางด้านพล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. เผยกับทีมข่าวท็อปนิวส์ว่า ตอนนี้ได้มีการแจ้งดำเนินคดีกับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ คดีอาญาที่ 1/64 ข้อหายึดถือครองที่ดินรัฐโดยมิชอบ เนื้อที่ 446 ไร่ 63 ตารางวา มีความผิด 3 ข้อ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ, พ.ร.บ.ป่าไม้ และกฎหมายที่ดิน ส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดราชบุเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างพิจรารณา

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คดีที่ 6/64 เนื้อที่ 81 ไร่ 3 งาน 67 ตารางวา มีหนังสือเอกสารทำประโยชน์ นส. 3 ก. ที่กรมที่ดินเป็นผู้รับรอง 2 ฉบับ และกรณีของ นางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พนักงานสอบสวน ปทส. มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นเดียวกัน เนื่องจากอยู่ในระหว่างให้กรมที่ดินตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งว่า นส. 3 ก.ที่ นายธนาธร และนางชนาพรรณ ถือครองอยู่นั้น ออกหนังสือโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าออกหนังสือ นส. 3 ก. โดยมิชอบ ที่ดินดังกล่าวจะต้องถูกเพิกถอนและดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน การดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินและผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ออกหนังสือ นส. 3 ก. โดยมิชอบ จากการตรวจสอบพบว่า มีทั้งหมด 5 ราย และผู้สนับสนุน 30 ราย ซึ่งคดีนี้มีอายุความแค่ 15 ปี คดีจึงขาดอายุความ ทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เนื่องจากคดีดังกล่าวออกหนังสือ นส. 3 ก. 60 ฉบับ เนื้อที่ 2,154 ไร่เศษ โดยมิชอบตั้งแต่ พ.ศ.2521 จึงส่งอัยการสำนักคดีปราบปรามการทุจริต ภาค7 เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ให้ตรวจสอบว่าสามารถดำเนินการเอาผิดในด้านใดได้บ้าง

นอกจากนี้ สาเหตุที่ว่า ทำไมยังไม่สามารถส่งฟ้องได้นั้น ส่วนตัวคิดว่า การดำเนินคดีกับบุคคลสำคัญที่มีความรู้ความเข้าใจกับข้อกฎหมาย ใช้แนวทางขอความเป็นธรรมกับอัยการโดยตรง และใช้วิธีพยายามหาพยานเข้ามาเพิ่มเติมเรื่อย ๆ เพื่อยืดเวลาคดีออกไป อีกทั้งการทำงานของอัยการไม่ได้ทำงานเป็นรายบุคคล เป็นการทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ จึงใช้เวลาในการพิจารณานานกว่าปกติ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.เองคิดว่าคดีดังกล่าวไม่น่าจะหลุด สามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้อย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้การปทส. ยันลุยเต็มที่ เอาผิด “แม่ธนาธร” รุกป่าสงวนฯ แจงผตห.ยื้อคดีสุดๆ