จากกรณี “ครูกายแก้ว” รูปปั้นคนกึ่งนก มีปีก เล็บยาวสีแดง และเขี้ยวสีทอง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยก่อนหน้านี้ มีข่าวรถบรรทุกรูปปั้นติดบนสะพานลอยย่านถนนรัชดาภิเษก และเมื่อมีการบวงสรวงเบิกเนตรบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ระหว่างพิธีได้เกิดฝนฟ้าคะนองลมแรง จึงเกิดดรามาถกเถียงตามมาว่า ครูกายแก้วแท้ที่จริงแล้วคือใคร ควรกราบไหว้บูชาหรือไม่
ล่าสุด วันนี้ (16 ส.ค. 66) นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวนี้ ว่าเป็นเรื่องขบวนการที่จะปลุกปั่นให้เกิดความเชื่อและศรัทธาต่อรูปเคารพนี้ แท้ที่จริงแล้วภาพลักษณ์ที่เห็นน่าจะเป็นภาพลักษณ์ของอมนุษย์ในยุโรป คือ กายแก้ว การ์กอยส์ไทย สิ่งเหล่านี้สำหรับชาวยุโรปเองประดับประดาเอาไว้อาคารสถานที่ต่างๆรวมทั้งโบสถ์วิหาร เป็นการผสมผสานกันระหว่างซาตานกับเดวา ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ แต่บังเอิญรูปรักออกมาคล้ายกับกายแก้วที่มีการทำเป็นเหรียญ และมีขบวนการปั่นราคาเหรียญ
ตอนนี้สังคมไทยถูกกระแสความเชื่อความศรัทธาในการนับถือสิ่งเหล่านี้เข้ามาแทรกในพระพุทธศาสนารวมถึงศาสนาฮินดูด้วย มีกลุ่มคนพยายามที่จะสร้างเรื่องราวให้ไปเกี่ยวพัน กับพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งเป็นพระเจ้าของกัมพูชา ซึ่งไร้หลักฐานทางประวัติศาสตร์รองรับ ซึ่งชาวกัมพูชาบางคนได้มีการแสดงความคิดเห็นว่ากายแก้วดังกล่าวนี้เป็นอสูร หรือ ปีศาจนก รวมไปถึงผีโป่งที่อาศัยอยู่ตามโพรงของจอมปลวก เป็นต้น ทำให้เห็นว่าตอนนี้สังคมไทยยินดีปรีดากับเรื่องแบบนี้แล้วหรอ ดังนั้น มหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พส.) และกระทรวงวัฒนธรรม ไม่ควรที่จะนิ่งเฉยควรเข้ามาดูในประเด็นนี้