“กกต.”แถลงโต้ “พิธา”ปั่นข่าวมั่วโดนแกล้ง ยันคดีถือหุ้นไอทีวียังไม่จบ ลุ้นศาลรธน.วินิจฉัยสถานะสส.

“กกต.” ออกโรงโต้ “พิธา” ปัดกลั่นแกล้งจงใจให้รับโทษ ยันการสืบสวนไต่สวนยังไม่เสร็จสิ้นและได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ มีอีกหลายขั้นตอนก่อนเสนอความเห็นให้ “กกต.” พิจารณา ขณะอำนาจวินิจฉัยปมสมาชิกภาพสส.เป็นของศาลรัฐธรรมนูญ คำตัดสินมีผลผูกพันทุกองค์กร

จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ผ่านทางเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ “ฝากคำถามถึง กกต. กรณีหุ้นไอทีวี” ความว่า เมื่อวานนี้มีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.มีมติว่าจะให้ยกคำร้องผมในคดีอาญา มาตรา 151 เรื่องการรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังลงสมัคร จากการถือหุ้นไอทีวี โดยคณะกรรมการสืบสวนมีเหตุผลสำคัญว่า บริษัทไอทีวีไม่มีการดำเนินกิจการอยู่และไม่มีรายได้จากการเป็นสื่อ จึงไม่ถือว่าผมมีความผิด

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : “พิธา” เล่นใหญ่รุกกลับกกต.ยิงคำถาม 2 ข้อ ซัดไม่เป็นธรรมปมถือหุ้นไอทีวี

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ขอชี้แจงข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง ตามที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โพสต์ข้อความว่า “คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของ กกต. มีมติยกคำร้องในคดีอาญา มาตรา 151 ตามข้อกล่าวหาว่า รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจาก ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ …..” จากกรณีที่เป็นข่าวว่า นายพิธาฯ เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. โดยเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ กกต. จึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ เพื่อพิจารณาว่าฝ่าฝืนมาตรา 151 แห่ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 (พรป.สส.) หรือไม่ประการใด นั้น
กกต. ขอชี้แจงว่า ในการเลือกตั้ง สส. เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 3 ราย ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงาน กกต. กล่าวหาว่า นายพิธาฯ เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น อันเป็นกิจการสื่อมวลชน เชื่อว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (3) แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน แต่คำร้องดังกล่าวยื่นเกินกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติ กกต. จึงมีมติสั่งไม่รับคำร้องดังกล่าวทั้งหมดไว้พิจารณา แต่เมื่อ กกต. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า รายละเอียดที่ปรากฏตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของผู้ยื่นคำร้อง มีเหตุอันควรเชื่อว่า นายพิธาฯ อาจจะเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้ง สส. โดยมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ จึงได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนฯ ให้เป็นไปตามมาตรา 151 พรป.สส. ว่า นายพิธาฯ กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ประการใด

ขณะนี้การดำเนินการสืบสวนไต่สวนยังไม่เสร็จสิ้นและได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ โดยอยู่ในระหว่างกระบวนการสืบสวนไต่สวนเป็นไปตามลำดับชั้นตามระเบียบและกฎหมาย หลังจากนั้น จะได้นำเสนอข้อเท็จจริงข้อกฎหมายและความเห็นต่อ กกต. ให้เป็นผู้พิจารณาและมีคำสั่งต่อไป

 

โดยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2566 กกต. ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ทำให้นายพิธาฯ มีสมาชิกภาพเป็น สส. แบบบัญชีรายชื่อ แต่ปรากฏว่า กกต. ได้พิจารณามีข้อเท็จจริงและมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ เชื่อได้ว่า นายพิธาฯ อาจเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ตามมาตรา 98 (3) อันเนื่องมาจากการเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) อาจมีผลทำให้สมาชิกภาพ สส. ของนายพิธาฯ ต้องสิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (6) แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน ดังนั้น จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ทำหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ข้อกฎหมาย และความเห็น เสนอต่อ กกต. ให้พิจารณาสั่งการ ต่อไป

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นว่า มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าสมาชิกภาพความเป็น สส. ของ นายพิธาฯ อาจมีเหตุสิ้นสุดลง จึงเสนอความเห็นต่อ กกต. ให้มีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้เป็นไปตามบทบัญญัติของมาตรา 82 แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน ต่อไป

 

กกต.ขอชี้แจงว่า คณะกรรมการฯ ตามที่ได้รับแต่งตั้งจาก กกต. จำนวน 2 คณะ เป็นผู้ที่มีหน้าที่และอำนาจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยมีความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงภายใต้การบังคับบัญชาซึ่งกันและกัน

 

ดังนั้นคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ จะมีความเห็นเป็นเช่นใด ถือได้ว่าเป็นดุลยพินิจแห่งตนโดยแท้ อันเป็นความเห็นเบื้องต้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสืบสวนและไต่สวนเท่านั้น โดยจะมีกระบวนการและขั้นตอนที่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบสืบสวนไต่สวนอีกหลายขั้นตอน กระบวนการดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด หลังจากนั้น เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการที่บัญญัติไว้ตามกฎหมายแล้วจะนำเสนอความเห็นต่อ กกต. พิจารณาในลำดับสุดท้าย

การพิจารณาเสนอความเห็นว่า นายพิธาฯ กระทำความผิดตามมาตรา 151 พรป.สส. หรือไม่ กกต. จะต้องนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มาใช้ประกอบการตัดสินใจที่จะดำเนินคดีอาญากับนายพิธาฯ หรือไม่ประการใด อันเป็นหลักประกันว่าบุคคลจะได้รับโทษในทางอาญา เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาสามารถนำพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย มาต่อสู้และหักล้างข้อกล่าวหาได้ทุกประเด็น

สำหรับการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีสมาชิกภาพ สส. ของนายพิธาฯ มีเหตุต้องสิ้นสุดลง เป็นการดำเนินการตามมาตรา 82 แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน เป็นระบบไต่สวน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสามารถใช้อำนาจดังกล่าวที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐานจากแหล่งต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง กกต. ไม่มีอำนาจในการวินิจฉัยสั่งการให้คดีที่ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นไปในทางหนึ่งทางใดตามที่กกต.ต้องการ

 

ศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยว่า นายพิธาฯ เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นประการใด ย่อมส่งผลโดยตรงต่อสมาชิกภาพการเป็น สส. ของนายพิธาฯ เฉพาะตน โดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผูกพันทุกองค์กร

 

ดังนั้นกระบวนการในการดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 151 พรป.สส. ต่อ นายพิธาฯ จึงยังไม่เสร็จสิ้นหรือมีผลเป็นที่สุดเด็ดขาด กกต. จึงไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือจงใจที่จะทำให้นายพิธาฯ ต้องได้รับโทษตามกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น การนำข้อมูลมาเสนอต่อสาธารณชน อันอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและเข้าใจผิดว่ากระบวนการตามมาตรา 151 พรป.สส. เป็นกระบวนการเดียวกันกับการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยชี้ขาดเรื่องคุณสมบัติตามมาตรา 82 แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวดังกล่าวข้างต้น

 

 

 

 

 


Media Paper Fair
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 7 Aug – 31 Aug 2023

⚡ ช้อปกระดาษถ่ายเอกสาร A4 ขนาด 70,80 one Green คุ้ม 2 ต่อ
🚩 คุ้มแรก ราคาเริ่มต้น 520.-*
🚩 คุ้มที่ 2 รับฟรี กระดาษถ่ายเอกสาร one Green 1 รีม ช้อปเลย
👍 ดีลดี ดีลโดน แบบนี้ ห้ามพลาด

คลิกเพื่อช้อปได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/FI2co

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ประมงสงขลา ประมงจันทบุรี และประมงเพชรบุรี พบปลาหมอคางดำแหล่งน้ำธรรมชาติหนาแน่นลดลง เดินหน้าเฝ้าระวังและกำจัดต่อเนื่อง เน้นขอความร่วมมือช่วยจัดการในบ่อร้าง
"บิ๊กเต่า" เผยเช็กมือถือ "บอสพอล" พบคลิปรีดไถ "นักร้อง-นักการเมือง" เพียบ จ่อเรียกสอบปากคำ
“ภูมิ​ธรรม​-​อนุทิน”​ ประสานเสียง ไม่หวั่น​กกต. รับคำร้อง​ยุบเพื่อไทย​ปม​ 6 พรรคร่วม ให้“ทักษิณ”ครอบงำ
เปิดตัวสุดปัง! Chester’s Flagship Store @Siam ชูคอนเซ็ปต์ 'Good Food Good Mood' เพิ่มสีสันให้แลนด์มาร์กคนรุ่นใหม่
รอลุ้น “ธีรภัทร” เผยพร้อมย้ายช้าง “พลายดอกแก้ว” พรุ่งนี้ หลังผลตรวจเลือดออก
"ชูศักดิ์" ไม่หวั่น​ หลังมีข่าว​กกต.​รับคำร้องคดียุบเพื่อไทย
ตร.รวบ “เหม่ง ปากดำ” ยูทูปเบอร์คนดัง ขวัญใจวัยโจ๋ เจ้าของยอด 5 ล้านวิว พบเอี่ยวเว็บพนันฯ กว่า 10 เว็บไซต์
เหยื่อดิไอคอนกรุ๊ปยังไม่หมด ! แม่จูงมือลูกสาวป่วยออทิสติก เข้า แจ้ง ตร.พัทยา ลงทุนสมัครดีลเลอร์กว่า 2 แสนบาท ซัดเวรกรรมมันติดจรวด บอสพอลสมควรได้รับมัน
"ตร.สอบสวนกลาง" เตรียมปิดรับแจ้งความคดี "ดิ ไอคอนกรุ๊ป" ล็อตแรก
“วันนอร์” พร้อมตรวจสอบทางลึกพวกแอบอ้าง ชี้หากกมธ.ไม่จัดการ ประธานอาจถึงขั้นถูกศาลฎีกาให้พ้นตำแหน่ง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น