“ณฐพร” ยื่นหลักฐานอสส. ร้องเอาผิด ยุบ 3 พรรค โยงขบวนการแบ่งแยกรัฐปาตานี

"ณฐพร" ยื่นหลักฐานอสส. ร้องเอาผิด ยุบ 3 พรรค โยงขบวนการแบ่งแยกรัฐปาตานี

วันที่ 17 ส.ค 66 ที่สำนักงาน อัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายณฐพร โตประยูร ทนายความและ อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้นำหลักฐาน เข้ายื่นต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล พรรคประชาติ และพรรคเป็นธรรม ซี่งมีพฤติกรรมในการสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนรัฐปัตตานี

โดย นายณฐพร กล่าวว่า กรณีเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมเสวนา “การกำหนดอนาคตตนเองกับสันติภาพปาตานี ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัดขึ้นโดยกลุ่มนักศึกษา นักวิชาการ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ โดยการเสวนาดังกล่าว สร้างความกังวลต่อประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเนื้อหามีความล่อแหลม เกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดน โดยผ่านการทำประชาพิจารณ์ มีการโน้มน้าวความคิดให้ จ.ปัตตานีเป็นรัฐเอกราช ที่สำคัญ มีพรรคการเมืองดัง 3 พรรค คือ พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม ส่งตัวแทนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนการเสวนาด้วย ซึ่งพฤติการร์เป็นที่น่าเชื่อว่า พรรคการเมืองทั้ง 3 พรรค จะสนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งข้อมูลที่ตนเองมีอยู่มาจากหน่วยงานรัฐในพื้นที่ และภาคประชาชนที่ช่วยกันส่งข้อมูลมา

 

นอกจากนี้ ตนเองยังได้รับหลักฐานลึกลงไปในรายละเอียด เช่นบัญชีโอนเข้าไปยังกลุ่มขบวนการล้มล้างสถาบันฯ ที่มีต้นตอมาจากชาวต่างชาติ แผนผังกระบวนการแบ่งแยกดินแดนและล้มล้างสถาบันที่มีองค์กรต่างชาติ ให้การสนับสนุน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนที่ตนเองมายื่นหลักฐานที่อัยการสูงสุด เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา49 บัญญัติไว้ว่า “ บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้ ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ หรือไม่ดำเนินการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ การดำเนินการตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการตามวรรคหนึ่ง”

จากนี้ ถ้าอัยการสูงสุดยังไม่มีคำสั่งใดๆลงมาภายใน15วัน ตนเองก็จะยื่นร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

 

นายณฐพร ยังกล่าวอีกว่า ในวันที่ 23 ส.ค. นี้ ตนเองจะไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญบังคับใช้คำวินิจฉัย เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่า ด้วยการวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 74 ซึ่งบัญญัติเนื้อหาเกี่ยวกับการนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาบังคับใช้ ส่วนเหตุผลที่ต้องไปยื่นศาลรัฐธธรมนูญ เนื่องจากนับแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย กลับไม่มีหน่วยงานใด นำคำวินิจฉัยของศาลมาบังคับใช้ ทำให้เกิดการชุมนุมที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองอยู่บ่อยครั้ง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครูบาอริยชาติ เกจิภาคเหนือวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย สร้างพระพุทธเมตตา จากหยกรัสเซียใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 10 ตัน
นายกฯ-สามี พา "น้องธิธาร" ลูกสาว วิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
กระทรวงดีอี – ดีป้า เปิดศึกบิน – ซ่อมโดรนเกษตรชิงแชมป์ประเทศไทย ในรายการ “Thailand Agriculture Drone Competition 2024”
รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ฯ นำ จนท.ตรวจสารเสพติดทหารใหม่ 2,911 นาย เพื่อค้นหาผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
รถบรรทุกปูนพลิกคว่ำขวางถนนรถติดยาวหลายกิโล
รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคอีสาน คุมเข้มแผนบริหารจัดการน้ำ พร้อมเร่งขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้ง
เลือกตั้งสหรัฐ: ทั้งสองพรรคมั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง
แคปซูลส่งกลับ 'เสินโจว-18' ของจีนแตะพื้นโลกปลอดภัย
ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ "หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง" เอาผิดฐานฉ้อโกง หลังหลอกให้สั่งซื้อวัตถุมงคลแพงลิ่ว
แวะปั๊มก่อนเลย พรุ่งนี้น้ำมันขึ้นราคา เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับทุกชนิด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น